ตามลากคอแก๊ง สท.เมากร่าง จ่อยิงหนุ่มพนักงานดับเพลิงดับคาร้านโอเกะ หลังผู้ตายมานั่งก๊งเหล้าคนเดียวถูกกลุ่มคู่กรณีนั่งโต๊ะใกล้กันแขวะหาเรื่อง มีปากเสียงด่าทอฮือเข้าชกต่อยชุลมุนจนเจ้าของร้านต้องเข้ามาหย่าศึก อีกฝ่ายไม่ยอมจบโทร.ตามมือปืนมาเคลียร์ ปรี่เข้าต่อว่าผู้ตายทำท่าจะฮึดสู้ถูกอีกฝ่ายยิงร่วงก่อนเผ่นหนี สุดท้ายไม่รอดถูกตามรวบยกแก๊ง 5 คน ทั้ง สท.กับกลุ่มลูกสมุน 4 คน มือลั่นไกเป็นน้องเขยนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาหนักร่วมกันฆ่าผู้อื่นเหตุเมาเหล้าทะเลาะวิวาทยิงกันตายในร้านคาราโอเกะรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 7 ก.ค. ร.ต.อ.อภิโชค พิพัฒน์พรไพศาล รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่ร้านอาหารวินเนอร์คาราโอเกะ หมู่ 4 ต.สามควายเผือก รายงานให้ พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก. นำกำลังฝ่ายสืบสวน พร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.นครปฐม และอาสากู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารและสุรา บนโต๊ะภายในร้านมีขวดเหล้า จานชามกับแกล้ม แก้วน้ำ แตกกระจายเกลื่อน ท่ามกลางรอยเลือดสาดกระเซ็น พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายอรรถพล พรหมดี อายุ 29 ปี พนักงานดับเพลิงเทศบาลตำบลสามควายเผือก อยู่บ้านเลขที่ 24/23 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม นอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่บริเวณหน้าร้าน มีบาดแผลถูกยิงเข้าหน้าท้อง 1 นัด อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพกู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลก่อนรีบนำส่ง รพ.นครปฐม แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในร้านพบปลอกกระสุนปืน 11 มม.ตกอยู่ 1 ปลอก ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐานสอบถามนายเกษม อินทร์อ่อน อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีรอยฟกช้ำตามร่างกายจากการเข้าห้ามปรามเผยว่า ก่อนเกิดเหตุร้านปิดแล้วตอนเที่ยงคืน ผู้ตายนั่งกินเหล้าคนเดียว ส่วนโต๊ะใกล้กันเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน ในจำนวนนั้นมี สท.คนหนึ่งในพื้นที่รวมอยู่ด้วย ทั้งหมดอยู่ในอาการเมาเหล้า พูดจาเสียงดังเหมือนแขวะผู้ตายที่มาคนเดียว ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ตะโกนต่อว่ามีปากเสียงและชกต่อยกัน ต่างฝ่ายต่างคว้าขวดและแก้วขว้างใส่กัน ตนเข้าไปห้ามปรามและขอให้กลับบ้าน จนกลุ่มคู่กรณียอมกลับไป 2 คน เหลือ 2 คนยังอยู่ที่ร้านจากนั้น 1 ใน 2 คนโทรศัพท์ไปหานายเอกพจน์ คูณตะโก อายุ 34 ปี น้องเขยของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่อยู่บ้านใกล้ร้าน ขี่รถ จยย.มาที่ร้านโดยพกปืนเหน็บเอวมาด้วย เมื่อมาถึงก็เข้าไปพูดคุยกับชายทั้งสองก่อนจะเดินเข้าไปต่อว่าผู้ตายที่โต๊ะ ผู้ตายทำท่าจะต่อสู้โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพกปืนมาด้วย ทันใดนั้นนายเอกพจน์ชักปืนออกจากเอวมายิงใส่ผู้ตาย 1 นัดเข้าที่ท้องได้รับบาดเจ็บวิ่งกระเสือกกระสนออกไปล้มฟุบอยู่หน้าร้าน ก่อนที่ตัวเองกับพวกจะวิ่งออกไปขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก. สั่งระดมชุดสืบสวนออกตามล่าตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านไปขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมผู้ต้องหา กระทั่งช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.สักกะ สีฟ้า รอง ผกก.สส.สภ.สามควายเผือก นำกำลังพร้อมหมายศาลบุกเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คนได้ที่บ้านในพื้นที่ ต.สามควายเผือก มีนายเอกพจน์ คูณตะโก อายุ 34 ปี มือปืนที่ลั่นไกยิงผู้ตาย พร้อมของกลางปืน 11 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนอีก 4 คนเป็นกลุ่มที่มีเรื่องชกต่อยกับผู้ตายตั้งแต่ตอนแรก ประกอบด้วยนายพงศ์สรัญ จิตตสินนวา อายุ 41 ปี สมาชิกสภาเทศบาล หรือ สท.ตำบลสามความเผือก นายเกียรติศักดิ์ งามวิไลรัตนา อายุ 49 ปี นายสันติ แซ่ตัน อายุ 40 ปี และนายสมบูรณ์ ศรีพุ่มไข่ อายุ 46 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่