ผมต้องอ่านซ้ำ เรื่องการจัดการกับสิ่งปฏิกูล เรื่องที่ 5 ใน “ชวนม่วนชื่น 2” (โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์ พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน พ.ศ.2558) เพื่อทำความเข้าใจเจตนาพระอาจารย์พรหม พระฝรั่งสมภารวัดพุทธเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ท่านสอนธรรมะญาติโยม...หรือท่านเสียดสีนักการเมืองพระอาจารย์เริ่มต้นว่า...สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตในบางครั้ง ไม่ได้เกิดจากการที่โยมเผลอไปเหยียบขี้หมา แต่เกิดจากการที่มีคนขว้างมันใส่ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นการให้ข้อคิดในการรับมือกับสถานการณ์ที่ว่านั้นนักการเมืองคนหนึ่งตกลงไปในบ่อน้ำที่เลิกใช้แล้ว ขณะเขาเดินเล่นอยู่ในป่าโปร่ง โชคดีที่บ่อน้ำนั้นไม่มีน้ำ เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่โชคร้ายที่บ่อน้ำนั้นลึกมาก เขาปีนขึ้นไม่ได้เขาส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ โดยปกติเสียงคนจะแหบแห้งหลังการร้องสองชั่วโมง แต่ด้วยความเป็นนักการเมืองมืออาชีพ มีประสบการณ์ยาวนาน เขาจึงร้องได้ถึงสามชั่วโมง“ช่วยด้วย...” เสียงของนักการเมือง แม้เริ่มแหบแห้ง แต่ก็ยังพอมีพลัง เข้าหูชาวนาเจ้าของที่ดินที่เดินมาถึง“ไม่ช่วยหรอก!” ตอนแรกชาวนาก็ตั้งใจจะช่วย แต่พอเห็นหน้า เขาก็จำนักการเมือง พวกที่ไม่มีคุณธรรมระดับเกินกว่าชาวบ้านจะรับได้แล้วก็บังเอิญที่ชาวนาตั้งใจจะถมบ่อน้ำอันตรายแก่คนเดินผ่านพอดี เขาจึงไปเอาพลั่วมาขุดดินถมลงไป ตั้งใจจะฝังนักการเมืองคนนั้น พร้อมกับการถมบ่อน้ำให้เต็มในเวลาเดียวกันนักการเมืองรู้สึกว่ามีดินถมลงบนตัว เขาไม่รู้สึกอะไรมาก เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ แต่เมื่อสังเกตชัดว่า ชาวนาตั้งใจจะฝังเขาทั้งเป็น เขาก็ตะเบ็งเสียงร้องระดับเสียงดัง ระดับเดียวกับที่พวกเราจะได้ยินในช่วงเวลาที่มีการลงคะแนนเลือกตั้ง“ผมสัญญาจะลดภาษีให้...” ประโยคแรกชาวนาได้ยินคุ้นหูแล้วก็มีประโยคตาม “ผมรับรองจะเพิ่มเงินช่วยเหลือชาวนา ให้ลืมตาอ้าปากได้ และ...ผมก็สาบานแล้ว จะอนุมัติงบคุ้มครองสุขภาพวัวทุกตัว...เชื่อใจผมเถอะ!...”ประโยคท้าย เชื่อใจผมเถอะ! พอเข้าหูชาวนา เหมือนกดปุ่มความเกลียดชัง เขาก็เริ่มเร่งมือตักดินถมลงบ่อน้ำ ขณะที่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของนักการเมืองที่เริ่มแหบแห้งลงๆ แล้วก็ค่อยๆเบา และเงียบหายชาวนาดีใจเผลอคิดว่าฝังนักการเมืองเรียบร้อย เขารามือโกยดินช้าลงๆ ไม่นานชาวนาเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง อย่างแรกคือเส้นผมคนโผล่ขึ้นปากบ่อ เขาจึงเร่งมือถมดินถี่ขึ้น แต่ก็เห็นศีรษะคนโผล่ตามอีกอึดใจ ชาวนาก็เห็นใบหน้ายิ้มแฉ่งของนักการเมืองคนนั้น เต็มตาชาวนาเพิ่งนึกได้ นักการเมืองมืออาชีพ มีภูมิคุ้มภัยจากสิ่งปฏิกูลเหนือผู้คนธรรมดาเมื่อนักการเมืองหยุดร้อง เขาก็ตัดสินใจสะบัดดินเหล่านั้นให้หล่นลงไปอัดแน่นอยู่ใต้ฝ่าเท้า...ด้วยวิธีนี้ ไม่ช้าร่างนักการเมืองก็โผล่สูงขึ้นมา จนกระโดดออกจากบ่อน้ำนั้นแน่ละ! เมื่อนักการเมืองรอดไปได้ ไม่ช้าเขาก็ส่งเจ้าหน้าที่อนามัย เจ้าหน้าที่สรรพากร มาตรวจสอบธุรกรรมล้างแค้นชาวนา พระอาจารย์พรหมจบนิทานด้วยคำสอนต่อท้าย เมื่อชีวิตถูกทับถมด้วยปฏิกูล ก็จงสะบัดมันออกไป อัดลงไปให้แน่นบนพื้นและ...ชีวิตของโยมที่ย่ำแย่ ก็จะยืนหยัดขึ้นได้อย่างสง่างามอ่านมาถึงตรงนี้...ผมแน่ใจ สาระเนื้อหา...พระอาจารย์เจตนา สอนโยมให้เรียนรู้วิธีรับมือกับเรื่องร้ายๆ เพียงแต่ตัวอย่างนิทานที่เล่า นักการเมือง เมืองที่พระอาจารย์พรหมไปสร้างวัดพุทธเมื่อปี พ.ศ.2526 เจอเข้าไปเต็มๆผมขอสารภาพ เมื่ออ่านครั้งแรกผมปักใจเชื่อว่า เป็นเรื่องนักการเมืองบ้านเมืองใกล้ตัวบ้านเมืองนั้น ชาวบ้านมองเกือบไม่เห็นนักการเมืองดี...แต่พวกเขาก็ช่างมีภูมิคุ้มกัน อยู่รอดเภทภัย ยืดอกโอ่อ่าผ่าเผยกันได้ แบบไม่ต้องอายฟ้า ไม่อายดิน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม