ผมใช้ข้อเขียนในหนังสือคารมคมปัญญา ข้อคิดทรงคุณค่าเพื่อชีวิตที่งดงาม ของประสิทธิ์ ฉกาจธรรม ไปแล้วหลายเรื่อง วันนี้เปิดหน้าที่ใช้กระดาษคั่นไว้ เจอเรื่องที่ 36 ความผิดร้ายแรง

ท้ายเรื่องคุณประสิทธิ์บอกว่าเรียบเรียงจากคัมภีร์เยี่ยนจื่อ ชุนชิว ยุคชุนชิว

กษัตริย์ฉีจิ่งกงชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เลี้ยงเหยี่ยวไว้ช่วยไล่จับกระต่ายป่า

 วันหนึ่งคนเลี้ยงเหยี่ยวเกิดเผอเรอ ปล่อยให้เหยี่ยวตัวโปรดบินหนีไป ฉีจิ่งกงทราบเรื่องพิโรธอย่างแรง สั่งให้นำตัวไปประหารโดยด่วน

เยี่ยนจื่อทราบเรื่อง จึงรีบเข้าเฝ้า

เขาจำแนกความผิดของคนเลี้ยงเหยี่ยว สะกดฉีจิ่งกงนิ่งฟัง

“คนเลี้ยงเหยี่ยวมีความผิดร้ายแรง 3 ประการ จะปล่อยให้ตายง่ายได้อย่างไร? ขอโอกาสให้ข้าพระองค์ได้ประกาศความผิด ให้เป็นที่รับรู้กันทั้งหมด แล้วค่อยนำตัวไปประหาร ก็ยังไม่สายเกินไป”

ฉีจิ่งกงผงกพระเศียร เยื่อนจื่อจึงหันไปชี้หน้าคนเลี้ยงเหยี่ยว

“เจ้ามีหน้าที่ดูแลนก แต่กลับปล่อยให้มันบินหนี นี่คือความผิดประการแรก

เจ้าทำให้กษัตริย์ของบ้านเมืองนี้ ต้องสั่งประหารชีวิตคน เพราะสูญเสียนก นี่คือความผิดประการที่สอง

เมื่อเจ้าถูกประหารแล้ว ทำให้ราษฎรทั่วแผ่นดิน รวมทั้งบ้านเมืองใกล้เคียงทราบว่าประมุขของประเทศนี้เห็นความสำคัญของสัตว์มากกว่าชีวิตมนุษย์ นี่คือความผิดประการที่สาม

บัดนี้ ข้าได้ประกาศความผิดของเจ้าครบถ้วนแล้ว นำตัวไป ประหารได้”

ถึงนาทีแห่งความเป็นความตายนั้น ฉีจิ่งกงที่นั่งนิ่ง พระพักตร์แดงก่ำอยู่นาน ยกพระหัตถ์ขึ้นห้าม

“ไม่ต้องประหารใครทั้งนั้น ข้าเข้าใจในสิ่งที่ท่านพูดแล้ว”

ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม จบเรื่องเล่าที่เล่าขานต่อเนื่องกันมา

...

สามพันปี...โชคดีของเยี่ยนจื่อ ที่มีเจ้านายอย่างฉีจิ่งกง ถ้าเป็นกษัตริย์องค์อื่น ใครขืนกล้าเสนอหน้าพูดจาเสียดสี ระคายโสตประสาท

ผู้ใช้อำนาจขนาดนี้

คงชะตาขาดถูกตัดคอตายตามคนเลี้ยงเหยี่ยวไปแล้ว

ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม พรรณนาต่อ ผู้นำที่ดีจำเป็นต้องมีความหนักแน่นมั่นคงทางอารมณ์มากกว่าคนโดยทั่วไป เพราะการตัดสินใจแต่ละครั้ง จะส่งผลกระทบในวงกว้าง

หากตัดสินโดยไม่ละเอียดรอบคอบ ใคร่ครวญไม่รอบด้าน หรือสั่งการตามใจชอบ จะนำมาซึ่งความหายนะอันใหญ่หลวง และทำลายความน่าเชื่อถือของผู้นำเองอย่างยับเยิน

น่าเห็นใจฉีจิ่งกงที่สูญเสียเหยี่ยวตัวโปรด แต่การลงโทษคนเลี้ยงถึงขั้นประหารชีวิต ก็ทำให้เห็นว่ารักสัตว์ยิ่งกว่ามนุษย์

หัวหน้าที่รักถนอมชีวิตลูกน้อง จะเรียกความจงรักภักดีจากใครได้

นอกจากนี้ คนดีมีความสามารถอื่นๆก็คงไม่อยากเข้ามาสวามิภักดิ์ เพราะไม่แน่ใจในชะตากรรมของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ คนเป็นผู้นำ จึงต้องตระหนักอยู่เสมอว่า การตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของตน ย่อมส่งผลถึงเรื่องอื่นๆด้วย ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะมาจากเจตนาดีหรือไม่ดีก็ตาม

ผมตั้งใจคัดลอกเรื่องนี้มาเล่าต่อในช่วงเวลาที่บางบ้านเมือง กำลังมีการตัดสินคดีหลายความสำคัญ ทุกเรื่องล้วนแต่ชี้ให้เห็นว่า บ้านเมืองนั้นๆจะพอมีขื่อมีแปรักษาความสงบเย็นของผู้คนในชายคาไว้ต่อไป

หรือจะปล่อยให้สถานการณ์โจรปล้นโจร ปล้นกันต่อไป ก็คงต้องทำใจ ปล่อยให้เป็นไปตามชะตาเมือง.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม