“บิ๊กหวาน” ผอ.ศปอส.ตร. แถลงผลงานชุดสืบสวนภาค 2 ร่วมกับกองสืบ บช.น. จับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคาร 3 ราย ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมล่ามอีก 2 ราย พบมีส่วนร่วมทำเอกสารเท็จให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนเปิดบัญชีม้ารวม 15 บัญชี ตรวจสอบบัญชีทั้งหมดพบว่าเชื่อมโยงกับอีก 462 บัญชี เกี่ยวข้องนำไปใช้หลอกลวงเหยื่อรวมกว่า 2,000 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,200 ล้านบาท ชุดสืบสวนเตรียมขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ พร้อมทั้งยึดทรัพย์
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตร.และ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิสัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงข่าวจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารให้การสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำผิด พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ใช้มาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ ประกอบด้วยสัญญาณโทรศัพท์ บัญชีธนาคาร และกวาดล้างคนไทยที่ไปร่วมกับชาวต่างชาติหลอกลวงประชาชน จากมาตรการเข้มงวดเปิดบัญชีม้า ทำให้กลุ่มแก๊งคนร้ายต่างชาติหันมาเปิดบัญชีม้าเองโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว พบว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่ธนาคารมีส่วนร่วมทำเอกสารเท็จให้ชาวต่างชาติ
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า ศปอส.ตร.ร่วมกับบช.น. ขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน เดือน มี.ค.พบมีชาวจีนเปิดบัญชีธนาคาร 15 บัญชี จากนั้นตระเวนกดเงินสดจากตู้และถอนเงินสดจำนวนมากที่ธนาคาร ภายใน 1-2 วัน เดินทางออกนอกประเทศทันที ตรวจสอบพบว่ามีเงินที่ถูกถอนทั้งสิ้นรวม 91 ล้านบาท จากการสืบสวนทราบว่าเจ้าของบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 ราย เดินทางเข้าประเทศ โดยมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่อยู่ในไทยคอยอำนวยความสะดวก ซื้อซิมโทรศัพท์ และเปิดบัญชีธนาคาร หลังเปิดบัญชีมีเงินถูกโอนเข้ามาทั้ง 15 บัญชี รวมเงิน 118 ล้านบาท ตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์พบว่าทั้ง 15 บัญชี แจ้งความดำเนินคดีจำนวน 106 คดี พบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องนำไปใช้หลอกลวงอีก 462 บัญชี จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า แจ้งความแล้วจำนวน 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 2,200 ล้านบาท ศปอส.บช.น. จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คอยจัดการ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนร้ายชาวจีนที่มาเปิดบัญชีและถอนเงิน ได้แก่ นายหยาง จับได้ท้องที่ สน.บึงกุ่ม นายเซี่ย จับได้ท้องที่ สน.บึงกุ่ม นายฮาง จับได้ท้องที่ สน.ประเวศ และนายหวู จับได้ท้องที่ สน.สุทธิสาร
...
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวต่อว่า จากการขยายผลพบว่า การเปิดบัญชีของกลุ่มชาวจีนที่ธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มเอเจนซีและกลุ่มพนักงานธนาคารเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง นำโดย พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ น.ส.สิริลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) น.ส.ชุติมา (ขอสงวนนามสกุล) นายทรงพล (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 3 ราย น.ส.มนธิดา จันทะยานี และนายณรงค์ฤทธิ์ ต่อมใจ ทั้งคู่เป็นล่าม ข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าวหรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด น.ส.ชุติมา และนายทรงพล ดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหาร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน และนายณรงค์ฤทธิ์ ดำเนินคดีเพิ่มเติม ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวด้วยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับตัวใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลุ่มหนึ่งให้ความช่วยเหลือ ศปอส.ตร.จะขยายผลจับกุม ยึดทรัพย์กลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด ยังมีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายเป็นหลักพันล้านบาท คดีนี้พบช่องว่างการทำงานของธนาคาร ต่อไปต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่