สถานการณ์ในพื้นที่ห่างไกลแนวชายแดนไทย “ต่างเต็มไปด้วยความเปราะบาง และภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศรอบด้าน” โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันตก มักถูกใช้เป็นเส้นทางการลักลอบขนส่งสินค้าเถื่อนผิดกฎหมายที่ทวีความรุนแรงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

เช่นนี้การรับมือกับภัยคุกคาม “จำเป็นต้องมีผู้ปกป้องที่แข็งแกร่ง และเสียสละ” แล้วกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญอยู่นั้นคือ “ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)” ที่คอยทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน

แม้ไม่ค่อยมีใครเห็นหรือได้ยินเสียงพวกเขาแต่การทำงานของ ตชด.ทุกวันทำให้ทุกคนในประเทศนอนหลับอย่างสงบเนื่องในโอกาสวันที่ 6 พ.ค. เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนครบรอบปีที่ 72 “ทีมสกู๊ป” มีโอกาสนั่งคุยกับ พ.ต.อ.อภิรัตน์ เปี่ยมพูล ผกก.5 บก.กฝ.บช.ตชด.ค่ายนเรศวรมหาราช เล่าถึงอาชีพ ตชด.ให้ฟังว่า

เดิมพื้นเพครอบครัวอาศัยในชุมชนคลองเตย “แม่” มีอาชีพขายกล้วยแขก  “พ่อ” แยกทางไปตั้งแต่เด็กทำให้ชีวิตค่อนข้างลำบากปากกัดตีนถีบเผชิญกับสิ่งแวดล้อม หลายคนทราบดีว่า “มีแต่ด้านลบ” เพื่อนหลายคนต้องติดยา และขายบริการทางเพศตามบาร์อะโกโก้ “เป็นปมให้อยากเรียนจบสูงๆ” เพื่อหนีความยากจนในสลัมไปสู่สังคมที่ดี

...

โชคดีมีโอกาสเจอ ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ เข้ามาพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้างโอกาสให้เด็กในชุมชนคลองเตย “รับอุปการะส่งเรียนจบ ป.6” แต่ว่าแม่กลับไม่สนับสนุนให้เรียนต่อ ม.1 เพราะอยากให้ออกมาเข็นผักขายในตลาด แต่ตัวเองไม่ยอมแอบไปสมัครเรียนใน ร.ร.วัดหัวลำโพง และพยายามตั้งใจเรียนได้เกรดเฉลี่ย 4.0 มาตลอด

เนื่องจากใฝ่ฝันอยาก “เป็นตำรวจ” เพราะแม่เคยถูกคนใส่ร้ายแล้วก็มีตำรวจ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เข้ามาช่วยเหลือพิสูจน์ข้อเท็จจริง “จนแม่หลุดพ้นจากข้อครหานั้น” ส่งผลให้รู้สึกประทับใจกับอาชีพตำรวจอย่างมาก

กระทั่งเรียนชั้น ม.4 และ ม.5 อายุ 16-17 ปี “เลยสมัครสอบเข้า ร.ร.เตรียมทหารแต่ไม่ผ่าน” พอเรียนจบ ม.6 ก็ไปสอบเข้า ร.ร.นายสิบตำรวจผ่านได้ที่ 60 ใน 9,000 คน และเรียนจบที่ 100 ลงตำแหน่งแรกคือ “พลตำรวจสำรองสังกัดกองกำกับการอารักขาและรักษาความปลอดภัย” แล้วก็พยายามอ่านหนังสือติวกวดวิชามา 2 ปี

จนสอบเข้า ร.ร.นายร้อยตำรวจลำดับที่ 60 และเรียนจบในลำดับที่ 275 จากนักเรียน 320 คน ตอนนั้นเลือกลง ตชด.กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ภารกิจส่วนใหญ่ออกลาดตระเวนหาข่าวพื้นที่แนวชายแดน ป้องกันการลักลอบโจรกรรมรถยนต์-รถจักรยานยนต์ข้ามฝั่ง และการกระทำผิดกฎหมายอาญา

สมัยก่อนมีการเดินลาดตระเวนในป่า “จัดชุดตรวจการณ์ระยะไกล” โดยเฉพาะเดือน พ.ย.-ธ.ค.เป็นช่วงแพร่กระจายการปลูกฝิ่นต้องออกสำรวจเป้าหมาย “ทำลายไร่ฝิ่น” ทั้งพบปะพูดคุยกับประชาชนให้รู้ถึงโทษของฝิ่น

ดังนั้นอุปกรณ์ดำรงชีวิตในป่าลึกเวลาปฏิบัติภารกิจเก็บข้อมูล และป้องกันตนเองมีความสำคัญตั้งแต่เปลมุ้ง ถุงนอน กระติกน้ำ ถุงกรองน้ำ ไฟฉาย มีดพก ปืน รวมถึงอาหาร เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พริก เกลือ ปลากระป๋อง และเครื่อง GPS แผนที่ เข็มทิศ กล้องส่องทางไกล และกระเป๋าใส่สมุดบันทึกข้อมูล วิทยุสื่อสาร

สิ่งนี้เป็นการออกลาดตระเวนป้องกันปราบปราม “คนทำผิดกฎหมาย” ส่วนงบประมาณจะมีหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับ ตชด. “เราทำงานด้วยใจ” ทั้งยังสร้างโรงเรียนบนดอยสูงให้เด็กได้เรียนหนังสือด้วย

กระทั่งปี 2552 “เหตุความไม่สงบ 3 จชต.รุนแรง” ก็เลยสมัครลงไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ในตำแหน่งผู้บังคับหมวดคุมกำลัง 44 นาย มีโอกาสได้คลุกคลีพูดคุย รับฟัง นั่งกินข้าวกับลูกน้องกลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน แม้ยามถูกโจมตีฐานปฏิบัติการก็ให้กำลังใจกันจนผูกพันเหมือนเป็นพี่เป็นน้องด้วยซ้ำ

เมื่อครบวาระหมุนเวียน 1 ปี “กลับมาอบรมหลักสูตรสารวัตร” ถูกปรับเจตคติเสริมสร้างวิสัยทัศน์ต่างๆ “เพื่อยกระดับการเป็นนักบริหาร” ทำให้เห็นบทบาท ตชด.ที่มีคุณลักษณะทำการรบได้อย่างทหาร และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมได้อย่างตำรวจ รวมถึงพัฒนาช่วยเหลือประชาชนได้เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน

ก่อนย้ายมาประจำการ “ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 135 อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี” พื้นที่นี้ชาวบ้านมีอาชีพรับจ้าง และอาชีพทำเกษตรกรรมฐานะค่อนข้างยากจน ทำให้หวนย้อนกลับไปสมัยเด็กที่ต้องเผชิญความลำบาก “เกิดแนวคิดสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้” ด้วยการใช้งบอุดหนุนพัฒนาสังคมของอำเภอ 5 หมื่นบาทมาซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ

...

แล้วนำกำลัง ตชด.มาช่วยก่อสร้างบ้านให้ฟรี หรือบางครั้งก็ได้เงินบริจาคจากเพื่อนฝูงมาเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านใหม่ให้คนยากไร้มากกว่า 70 หลัง เพื่อให้พวกเขาได้มีที่พักอาศัยที่ดี มีรอยยิ้มคืนความสุขให้ประชาชน แล้วเมื่อเราเห็นรอยยิ้มนั้นคนทำงานก็พลอยมีความสุขไปด้วยอันเป็นความสุขทางใจที่หาได้ยาก

อีกทั้งยังมี “โครงการช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้สูงอายุติดเตียง” ในการสนับสนุนชุดวัสดุอุปกรณ์คลายทุกข์แก่ผู้ป่วยติดเตียงไม่ว่าจะเป็นแผ่นรองซับ และสิ่งจำเป็นไปมอบให้ผู้ป่วยมีฐานะยากจน และคอยติดตามเยี่ยมเยียนดูแลสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยคลายเศร้า และมีความหวังที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้

“สิ่งนี้แสดงออกถึงความมีน้ำใจ เสียสละช่วยเหลือสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนที่ไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์โดยตรงให้แก่ผู้ได้รับความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีก่อให้เกิดความรักความศรัทธาต่อองค์กรตำรวจในสายตาของประชาชนอีกด้วยนับเป็นอาชีพแห่งความภูมิใจมาก” พ.ต.อ.อภิรัตน์ ว่า

ย้ำตำแหน่งปัจจุบัน “เป็นครูฝึก” เพื่อให้ ตชด.มีสมรรถนะคุณลักษณะของผู้มีความรู้ มีทักษะทางยุทธวิธีการปฏิบัติงาน มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง และเชี่ยวชาญในวิชาชีพยึดหลักผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมอันดี และยึดมั่นในจรรยาบรรณอุดมการณ์ผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้ดี

ทำให้การรับข้าราชการ ตชด.เป็นอาชีพที่น่าภาคภูมิใจเนื่องจาก “ได้ปกป้องอธิปไตยของชาติ” เป็นแนวหน้าในการรักษาความมั่นคง ลาดตระเวนตามแนวชายแดนป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และภัยคุกคามอื่นๆ “เสียสละเพื่อส่วนรวม” ในการสร้างโรงเรียน บริการทางการแพทย์เบื้องต้น หรือเป็นครูในพื้นที่ห่างไกล

...

จนเรื่องราวของ ตชด.มากมายเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชน ทำให้เครื่องแบบมิได้เป็นแค่สัญลักษณ์ของอาชีพแต่เป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศ ความภาคภูมิใจ และความเสียสละที่ประชาชนยอมรับเคารพอยู่จนทุกวันนี้

นี่คือชีวิตตำรวจตระเวนชายแดน “ผู้ที่มีทั้งความเสียสละ ความกล้าหาญ ความรับผิดชอบ” เป็นได้ทุกอย่างในยามสังคมต้องการ พร้อมจะปกป้องประเทศ และประชาชน ทุกเวลาโดยไม่หวั่นไหว...

คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม