เป็นอีกเรื่องราวความเดือดร้อนของผู้คนอยู่ในสังคมไทยกับปัญหาภัยใกล้ตัวขบวนการ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ล่าสุด นางบรรจง นนท์แก้ว อายุ 60 ปี แจ้งความ พ.ต.ท.ธุวานันท์ เงินยวง สว. (สอบสวน) สน.บึงกุ่ม ว่า น.ส.กัญญ์วรา หรือชมพู เมฆลอย อายุ 17 ปี หลานสาวหายตัวไปจากบ้านพักย่านบึงกุ่มก่อนหลานสาวหายตัวไปมีโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชายโทร.เข้ามาอ้างว่าหลานสาวกู้เงินนอกระบบแล้วไม่ยอมคืนเงิน จึงจับตัวน้องชมพูหลานสาว และโทร.มาข่มขู่ว่า ถ้าอยากจะได้ตัวหลานสาวกลับคืนให้โอนเงินกลับมาแลกกับการปล่อยตัวหลังจากนั้นมีโทรศัพท์เข้ามาหานางบรรจงอีกครั้งบอกว่า หลานสาวถูกจับตัวมาอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ถ้าไม่อยากให้หลานสาวโดนส่งไปขายที่ชายแดนให้เอาเงินโอนเข้ามาแลก 500,000 บาท นางบรรจงไม่มีเงิน 500,000 บาท โอนเงินทั้งหมดที่มีในบัญชี 30,000 บาท ไปให้คนร้ายแลกกับขอดูหน้าหลานสาวก่อนแจ้งความพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่ง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 ช่วยเหลือเหยื่อวัย 17 ปีหลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กุเรื่องขึ้นมาเพื่อรีดค่าไถ่กับย่าแลกกับการปล่อยตัวหลานสาวพล.ต.ต.นพศิลป์ นำทีม สืบนครบาล สืบ บก.น.4 และ สืบสวน สน.บึงกุ่ม แกะรอยติดตามค้นหาเร่งช่วยเหลือเหยื่อน้องชมพู เพราะคาดว่าจะตกอยู่ในอันตราย พบข้อมูลเหยื่อมาเปิดห้องพักพื้นที่ อ.เมือง จ.อุทัยธานีชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบพบน้องชมพูอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียว ขณะเข้าช่วยเหลือเหยื่อกำลังโทรศัพท์พูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการควบคุมบังคับสั่งการเหยื่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือตำรวจเข้าช่วยเหลือทันทีก่อนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะไหวตัวและตัดสายทิ้งไปนำตัวหลานสาวคืนสู่อ้อมกอดย่าปลอดภัย.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม