เอ็นจีโอและพรรคฝ่ายค้านแฉ ตำรวจร่วมกับ สมช.แอบส่งชาวอุยกูร์ 40 คนขึ้นเครื่องบินกลับไปให้จีนแล้ว พฤติกรรมน่าสงสัยดำเนินการแบบปกปิดช่วงกลางดึก มีทีมสกัดสื่อห้ามติดตาม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนตีข่าวรับชาวจีน 40 คนกลับมณฑลซินเจียงแล้ว พร้อมภาพครอบครัวมารอรับ ยืนยันดูแลอย่างดีตามหลักสิทธิมนุษยชน ผบ.ตร.รับทั้งหมดถูกควบคุมที่ ตม.สวนพลูมากว่า 10 ปีแล้ว พยายามเสนอให้รัฐบาลผลักดันกลับมานานแล้ว เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ประกอบกับประเทศจีนร้องขออย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดสิทธิพร้อมให้ตรวจสอบ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯลับมีดรอ เชิญนายกฯ รองนายกฯ สมช. และ ผบ.ตร.ชี้แจงไม่ให้ส่งตัวแทน อ้างหวั่นความสัมพันธ์กับสหรัฐฯถูกปรับลดเทียร์ลงมาอีกกรณีปรากฏภาพข่าวในสังคมออนไลน์ อ้างว่า ชาวอุยกูร์ถูกขนจากสถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ (ซอยสวนพลู) ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาส่งกลับประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.พ. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีภาพรถบรรทุกกักขังสีเลือดหมูคาดขาว ใช้เทปสีดำปิดบังช่องหน้าต่างรอบคันและปิดบังโลโก้หน่วยงานที่ประตูจำนวน 6 คัน ขับออกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู ช่วงเช้ามืดมุ่งหน้าถนนพระราม 4 ขึ้นทางด่วนแยกบ่อนไก่ มีนายตำรวจนำรถปิดขบวนติดตามทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารถบรรทุกอะไรจำนวนมากว่า เรื่องดังกล่าวยังตอบรายละเอียดมากไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง คงใช้เวลาสักระยะถึงจะให้รายละเอียดได้ ถามว่าเห็นภาพหรือยัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตอบได้เพียงเท่านี้ ก่อนยกมือขอบคุณสื่อมวลชนและเดินเข้าห้องประชุม ก.ตร.ที่ศาลอาญาเวลา 13.00 น. น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และนักสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นศาลอาญาให้ไต่สวนฉุกเฉิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกร้องที่ 2 กรณีละเมิด พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานและบังคับสูญหาย ส่งชาวอุยกูร์จำนวน 40 คนกลับไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน น.ส.พรเพ็ญ กล่าวว่า ตนมายื่นคำร้องศาลอาญาให้ไต่สวนฉุกเฉิน กรณีมีผู้อ้างว่าพบเห็นเหตุการณ์ทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม สื่อมวลชนรายงานว่า ใช้รถขนผู้ต้องขังปิดบังรายละเอียด โดยเฉพาะการนำเทปดำมาปิดไม่ให้ผู้อื่นเห็น ไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่อยู่ในขบวนรถเป็นใคร นำตัวไปที่ใด ภาคประชาสังคมและทนายความพบว่า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการอุ้มหายมาตรา 26 สามารถร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลได้ สามารถเรียกผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าผู้ปฏิบัติการ ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้มีหลายภาคส่วนกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ คาดหวังบทบาทของฝ่ายตุลาการว่าศาลจะสามารถเข้ามาเยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้ได้น.ส.พรเพ็ญกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถยื่นคำร้องต่อศาลในท้องที่ ที่ตนเข้ามายื่นศาลอาญา เพราะว่ามีอำนาจครอบคลุมทั่วประเทศ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อศาล หากศาลยกคำร้องขอยืนยันว่าจะมายื่นใหม่ทุกวันจนกว่าศาลจะไต่สวน ตนเกรงว่ากลุ่มคนในขบวนรถมีความเสี่ยงการอุ้มหายและทรมาน รวมถึงปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม คาดว่าชาวอุยกูร์กลุ่มดังกล่าวน่าจะเดินทางเข้าประเทศไทยช่วงปี 2557 ถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย เคยส่งกลับไปแล้ว 1 ชุด ผ่านเครื่องบินสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่หลักในการปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ หากขึ้นรถไปโดยบังคับตนถือว่าละเมิด พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานและบังคับสูญหายต่อมาเวลา 16.00 น. ศาลมีคำสั่งยกคำร้องที่ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งกลับชาวอุยกูร์ 40 คนไปประเทศจีน ระบุเนื่องจากบุคคลที่เป็นผู้ร้องไม่ได้เป็นบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ในการกระทำแทนผู้เสียหายจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องที่อาคารรัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยกรณีกระแสข่าวรัฐบาลส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีนว่า ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด พูดจริงๆว่าเรื่องแบบนี้ถ้าประเทศใดก็ตามในโลกจะทำอะไรต้องยึดหลักกฎหมาย ยึดกระบวนการระหว่างประเทศ รวมถึงยึดเรื่องหลักสิทธิมนุษยชน อันนี้คือเรื่องใหญ่ ทุกประเทศต้องยึดเรื่องนี้เป็นหลักด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เผยว่า ตนพยายามพูดคุยกับผู้ใหญ่ของบ้านเมืองว่าตกลงแล้วข่าวลือว่าจะขนชาวอุยกูร์ส่งกลับไปประเทศจีนชัดเจนอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมต่างปฏิเสธ แต่มีข้อบ่งชี้หลายอย่างที่ทำให้กังวลหากส่งชาวอุยกูร์ไปยังประเทศจีนจริง คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นเรื่องใหญ่ส่งผลกระทบทั่วโลก อาจทำให้บรรยากาศตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย อีกประการคือ เรามีพระราชบัญญัติซ้อม ทรมานและป้องกันการอุ้มหาย หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ จะไม่ส่งคนที่รู้ว่าเมื่อส่งไปแล้วจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกาย และเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศต่อมานายรังสิมันต์ โรม ฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทน ราษฎร เผยอีกว่า วันที่ 6 มี.ค. เวลา 09.30 น. กมธ.จะเชิญนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รมว.การต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจงด้วยตัวเองไม่รับตัวแทน เพราะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องเป็นผู้กำหนดนโยบายและผู้ตัดสินใจเชิงนโยบายด้านนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวว่า ตนและ น.ส.ธิษะณา ชุณหวัณ สส.กทม. พรรค ปชน.ไปสังเกตการณ์ที่ ตม.สวนพลู พบความผิดปกติหลายอย่าง พยายามคุยกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน แต่ไม่ให้ข้อมูลและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน เพราะไม่ได้ติดต่อไปก่อน ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีสื่อมวลชนพยายามติดตามรถขนคนไปบนทางด่วน แต่ตำรวจปิดการใช้งานตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. พอช่วงเช้ากลับพบว่ามีไฟลท์บินปริศนาเดินทางไปยังประเทศจีน ตนพยายามสื่อสารถึงนายกรัฐมนตรีรวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ข้าราชการประจำทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาล ทั้งหมดจึงเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายกฯ ไม่ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะบวกจะลบ นายกฯต้องตอบคำถามต่อวิกฤตินี้ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ออกแถลงการณ์ยืนยันรายงานการส่งตัวพลเมืองชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายจากไทยกลับจีน จำนวน 40 ราย เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ภายใต้การประสานงานปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายของพลเมืองจีน รายงานระบุว่า ปฏิบัติการส่งตัวบุคคลดังกล่าวข้างต้นดำเนินการตามกฎหมายของจีนและไทย ข้อบังคับระหว่างประเทศ และแนวปฏิบัติที่มีมานาน ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติอย่างต่อเนื่องส่วน นสพ.เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ของสหรัฐอเมริการายงานว่า ทางการไทยส่งผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวน 40 คนกลับประเทศจีน ระบุว่าเป็นชาวอุยกูร์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน อาจเผชิญกับการทรมานและโทษจำคุกระยะยาวเมื่อเดินทางกลับประเทศ ข้อมูลจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า บุคคลกลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์มากกว่า 300 คน ที่หนีออกจากจีนในปี 2557 หวังใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านไปยังตุรกีซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนอุยกูร์ขนาดใหญ่ แต่กลับถูกควบคุมตัวในกรุงเทพฯมานานกว่าทศวรรษ บางรายอดอาหารประท้วงเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากกลัวว่าจะถูกส่งกลับจีนนสพ.เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ยังรายงานว่า ผู้สื่อข่าวเห็นรถบรรทุก 6 คัน ทุกคันใช้ผ้าสีดำปิดหน้าต่างอย่างมิดชิด ออกจากศูนย์กักกันผู้อพยพในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่คุมขังชาวอุยกูร์ เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. พร้อมด้วยรถตำรวจหลายคัน จากนั้นเที่ยวบินของสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ไปยังเมืองคัชการ์ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกสุดของประเทศจีน บ้านเกิดของชาวอุยกูร์ เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นวันเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่ข่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจของสถานทูต ระบุสั้นๆว่า ชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 40 คนถูกส่งตัวจากประเทศไทยกลับถึงเขตการปกครองตนเองซินเจียง โดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำของบริษัทการบินพลเรือนของจีน และเผยแพร่ภาพผู้ถูกส่งตัวกลับได้พบกับครอบครัวที่มารอรับอย่างอบอุ่นในห้องรับรอง มีภาพนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปรากฏอยู่ในภาพด้วยต่อมาเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีเครือข่ายเอ็นจีโอนำเรื่องส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนไปยื่นขอศาลไต่สวนฉุกเฉินว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการร่วมกับ สมช. มีหนังสือเป็นทางการจากรัฐบาลจีนมายังรัฐบาลไทย ยืนยันว่าชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่ส่งกลับมีทั้งหมด 40 คน ส่วนอีก 8 คนเป็นชาวจีนที่ทำผิดกฎหมายในไทย ชาวอุยกูร์ 40 คน ถูกจับกุมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ควบคุมตัวในความดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาตลอด ทางการจีนทำหนังสือแสดงความจริงใจและเจตจำนงว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจะได้รับความปลอดภัย มอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.ไปกำกับดูแล ขณะนี้เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว ได้รับการตรวจสุขภาพตามหลักสิทธิมนุษยชน ทางการจีนรับปากทั้งเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่ และให้ญาติมารอรับที่มณฑลซินเจียง มีวงรอบการตรวจสอบความเป็นอยู่เพื่อความมั่นใจถามว่ากระบวนการส่งชาวอุยกูร์ทำไมถึงต้องปิดบัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดเป็นเทคนิคและยุทธวิธีเพื่อความปลอดภัย ความเรียบร้อย รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงการส่งตัวช่วงกลางดึกเพื่อไม่ให้กระทบการจราจร แม้ว่าชาวอุยกูร์อยู่กับเรามานานกว่า 10 ปี แต่เป็นภาระที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายการดูแล ถามว่าการส่งชาวอุยกูร์จะสร้างผลกระทบและความโกรธแค้นเหมือนในอดีตหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานความมั่นคงมีมาตรการตั้งรับ ดูแลประชาชน สถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อไม่ประมาทและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ยืนยันไม่มีการบังคับหรือขัดขืน อยากขอความเห็นใจให้ตำรวจ หากกักตัวต่อไปจะเกิดกระแสเรื่องสิทธิมนุษยชน พอปล่อยตัวกลับไปก็ถูกตำหนิ ขอให้เข้าใจว่าตำรวจรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ“การส่งตัวผู้กระทำผิดหลบหนีเข้าเมืองตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ผมว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนเราจับคนต่างชาติแล้วส่งกลับ ยังไงก็ต้องส่ง เราต้องกักไว้อีก 10-11-12-13 ปีหรือ เขาเป็นมนุษย์ควรได้กลับบ้าน ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหนังสือเสนอแนะไปยังรัฐบาลมาตลอด เกี่ยวกับเรื่องส่งตัวชาวอุยกูร์ให้ทางการจีนตามคำร้องขอ พรุ่งนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ จะแถลงรายละเอียดเรื่องนี้กับสื่อมวลชน” ผบ.ตร.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่