สืบนครบาลดักจับ “เดียร์ สายยัก” สาวทอมสายมูผู้ต้องหายักยอกฉ้อโกงหลังก่อเหตุหลายรูปแบบ อาทิ เช่าโทรศัพท์มือถือและแฟลชไดรฟ์ไปถ่ายรูปในงานคอนเสิร์ตเกาหลีแล้วเชิด หลอกขายบัตรคอนเสิร์ต รวมทั้งก่อคดีล้วงกระเป๋าขโมยโทรศัพท์มือถือ 2 ครั้งในคอนเสิร์ต เผยผู้เสียหายรายไหนไปแจ้งความยังซ่าแจ้งความกลับอ้างทำให้เสื่อมเสียชื่อ สุดท้ายเหยื่อรวมตัวร้องเพจสืบนครบาลวางแผนปิดบัญชีจับได้ที่ห้องพักเพื่อนสาวย่านบางนา ตรวจประวัติก่อคดียาวเป็นหางว่าวมากถึง 13 คดีอื้อ
สืบนครบาลจับสาวทอมแสบก่อคดีโกงเพียบ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 5 ธ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.สั่งการ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น.นำกำลังจับกุม น.ส.นภัสกมล เชียงขุนทด หรือเดียร์ อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ลงวันที่ 26 พ.ย.67 ข้อหา “ฉ้อโกง” และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมยักยอกทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง จับได้ที่ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่ง ถนนรามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือมาที่สืบนครบาลว่าถูกมิจฉาชีพเป็น “สาวทอม” หลอกลวงเช่าโทรศัพท์ก่อนเชิดหลบหนีหายไป ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่าช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สาวทอมรายนี้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกงคล้ายๆกันหลายสิบคดี อาทิ หลอกลวงขอเช่าโทรศัพท์หรือกล้องถ่ายรูปอ้างจะนำไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีแต่เมื่อได้ของหลบหนีนำไปขาย หลอกลวงการเช่าโรงแรม หลอกขายบัตรดูคอนเสิร์ตเกาหลี นอกจากนี้ยังขโมยโทรศัพท์ด้วยการล้วงกระเป๋าเหยื่อโดยอาศัยความชุลมุนในพื้นที่จัดคอนเสิร์ตเกาหลี เปิดเพจเฟซบุ๊กขายของออนไลน์ได้เงินแล้วหนี ลงมือก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังถูกแจ้งความได้ตระเวนแจ้งความกลับ ผู้เสียหายเกือบทุกรายอ้างว่าถูกข่มขู่ถูกกลั่นแกล้ง
...
หลัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ทราบเรื่องส่งชุดสืบสวนติดตามจับกุมพบว่าสาวทอมตระเวนเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยๆส่วนเงินที่โกงชาวบ้านมานำไปใช้ชีวิตแบบกินหรูซื้อของแพงใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ ก่อนที่จะมีหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายให้เบาะแสพบคนร้ายไปอยู่ห้องเช่ากับเพื่อนสาวคนหนึ่งย่านบางนา พล.ต.ต.ธีรเดชนำกำลังบุกไปที่ห้องพักแต่ไม่พบ พบเพียงเพื่อนผู้ต้องหา ได้วางแผนแอบดักรอในห้องกว่า 2 ชั่วโมง จนกระทั่งสาวทอมย้อนกลับมาจึงถูกจับกุม ตรวจสอบโทรศัพท์พบข้อความแชตที่ผู้ต้องหาไลน์คุยกับหมอดู ทายให้ผู้ต้องหาหลบออกจากห้องพักช่วงเวลาที่ชุดสืบสวนเข้าไปจับกุมด้วย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธเรื่องคดีที่เกิดขึ้น อ้างว่าเคลียร์หมดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้โกงใครได้แจ้งความกลับผู้เสียหายหลายๆราย หลังจับกุมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหานำส่งศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จากนี้จะขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายรายนี้อีกหลายคดีและจะนำหมายจับไปประสานอายัดตัวต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมน.ส.นภัสกมล เชียงขุนทด พบข้อมูลก่อเหตุ 13 คดี ตั้งแต่กลางเดือน ส.ค.67-1 ธ.ค.67 ในหลายท้องที่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้บริการเช่าโทรศัพท์นัดหมายรับกันผ่านไรเดอร์แล้วไม่นำมาคืน ท้องที่ สน.พหลโยธิน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อคดีล้วงกระเป๋าผู้เสียหายในงานคอนเสิร์ต 2 คดี ในท้องที่ สน.ปทุมวัน หรือหลอกขายโมเดลวันพีชทางออนไลน์ เปิดเพจประมูลของเล่นโดยขโมยรูปจากเพจอื่นแล้วมาลงให้ประมูล จากนั้นทักหาเหยื่อแสร้งว่าเหยื่อชนะประมูลจนหลงเชื่อโอนเงินแต่ไม่ส่งสินค้าให้
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้เสียหายและขอแสดงความห่วงใยผู้เสียหายหลายๆรายที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้แจ้งความกลับ วิเคราะห์จากพฤติกรรมผู้ต้องหาแล้วนอกจากจะตระเวนก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ขอยืนยันว่าตอนนี้ได้รายงานเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. สั่งการให้ขยายผลโดยละเอียดให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นภัยต่อสังคมและเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน ขอประชาสัมพันธ์ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ยักยอกหรือหลอกลวง ด้วยวิธีการใดๆแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจสืบนครบาล IDMB จะขยายผลให้ถึงที่สุดแม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่