การรบยุคโบราณ ใช้พลม้าพลเดินเท้าเป็นกำลังสำคัญ อาวุธทั้งหลายไม่ว่า หอก ดาบ ง้าว โล่ ฯลฯ รวมแล้วเรียก “อาวุธเย็น”

สมัยสามก๊กของจีนราวๆ 1,800 ปีที่แล้ว เรารู้เรื่องการรบกันด้วยอาวุธเย็นมามากแล้ว แต่ดูจะไม่ค่อยรู้ว่าระหว่างการต่อสู้หักหาญ ชุลมุน พัลวัน เอาชีวิตกันแบบเอาเป็นเอาตายนั้น มีกฎกติกา

คำถามที่ 20 ใน 101 คำถามสามก๊ก (หลี่ฉวนจวิน และคณะเขียน ถาวร แปล มติชนพิมพ์ 2556) การรบในสามก๊ก ทำไมตี “เครื่องทอง” ถอยทัพ

การรบสมัยสามก๊ก ตีกลองเป็นสัญญาณให้รบหรือรุก ตีเครื่องทองเป็นสัญญาณให้หยุดหรือถอย

นิยายสามก๊กฉบับภาษาจีน ตอนที่ 65 บรรยายเรื่องเตียวหุยนำทหารตั้งประจันกับม้าเฉียว “แล้วรบกันร้อยกว่าเพลงไม่แพ้ชนะ เล่าปี่กลัวเตียวหุยจะเพลี่ยงพล้ำ รีบตีเครื่องทองให้หยุดรบ”

บทนิพนธ์เรื่อง กั้วฉินลุ่น วิจารณ์ผ่านฉิน ของเจี้ยอี้ กล่าวว่า หลังจากผนวกแคว้นทั้งหกเข้ากับจักรวรรดิฉินแล้ว ฉินสื่อหวงตี้ ก็สั่งให้คุมกองทัพทั้งหมดไว้ในที่กรุงเสียนหยาง (เมืองหลวงของฉิน)

ริบอาวุธหลอมเป็นมนุษย์ทองแดง 12 คน เพื่อตัดกำลังประชาชน

นั่นคือกองทัพของแคว้นทั้งหก ถูกควบคุมไว้ที่กรุงเสียนหยาง อาวุธถูกหลอมเป็นมนุษย์ทองแดง 12 คน

ในยุคชุนชิว และจั้นกั๋ว อาวุธส่วนมากทำด้วยทองแดง มิใช่ทองคำ คำว่าทองโดยทั่วไป หมายถึงทองแดงหรือทองสำริด ฉะนั้น สำนวนตีเครื่องทองหยุดทัพ จึงหมายถึงตีเครื่องดนตรีสำริด

เจิง-ม้าล่อชนิดหนึ่ง เหนา-ระฆังชนิดหนึ่ง เพื่อหยุดทัพ

เจิงเป็นเครื่องดนตรีโบราณ รูปร่างคล้ายระฆัง แต่แคบยาว มีด้าม เวลาตีมีเสียง ทำด้วยทองแดง ใช้ตีคุมจังหวะการเดินทัพ เหนา เป็นเครื่องดนตรีทำด้วยทองสำริด ที่ใช้ตีหยุดเสียงกลอง เป็นสัญญาณให้หยุดหรือถอย

...

รูปทรงสั้นแต่กว้าง ตรงกลางกลวง มีด้ามสั้น ถ้าใส่ไม้ต่อเข้าไปถือได้สะดวก ใช้ไม้ตีให้เกิดเสียง

ส่วนประกอบสำคัญของทองสำริด ได้แก่ ทองแดง ดีบุก และตะกั่ว เหนาสำริดเสียงใสกังวานทอดยาว มีพลังผ่านสิ่งกีดขวางไปได้ดี ส่วนเจิงทองแดงพอตีจะมีเสียงใสกึกก้องกังวานและกระหึ่มไปไกล

ขณะที่สองทัพรบกัน เสียงคน เสียงม้า เสียงอาวุธดังอยู่ตลอดเวลา จึงต้องการวัตถุที่มีเสียงดังเป็นพิเศษไว้ถ่ายทอดคำสั่ง

เสียงกึกก้องกังวานของเจิงและเหนามีพลังดังกระหึ่มไปทั่ว แม้ท่ามกลางการรบอันดุเดือด ทหารก็ได้ยินถนัด

การตีเครื่องทอง เป็นคำสั่งจัดระเบียบในกองทัพให้เกิดเอกภาพวินัยทัพดั่งภูผา ต้องปฏิบัติตาม มิฉะนั้นย่อมได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนัก

สมัยราชวงศ์วุ่ยเหนือ เริ่มมีม้าล่อออกมา กลมแบนคล้ายถาด เสียงกึกก้องกังวาน ดังกระหึ่มไปไกลมาก จึงถูกนำมาใช้ในกองทัพแทนเจิงทองแดง

ดังนั้น ต่อมาคำว่า ตีเครื่องทองหยุดรบ จึงค่อยๆเปลี่ยนเป็น “ตีม้าล่อหยุดรบ”

เครื่องมือให้สัญญาณ การรุก การรับ หยุดหรือถอย สงครามสมัยสามก๊ก จริงจังชัดเจนอย่างนี้ล่ะครับ แต่ถ้าเป็นสงครามการเมือง ของบางบ้านเมืองไม่ใกล้ไม่ไกลที่ผมเพิ่งได้ฟัง ลึกเร้นเป็นอีกอย่าง

คุณตู่ เจ้าเก่า วิจารณ์นายเก่า นายรายนี้มักใช้มุกซ้ำ วันไหน ถ้าตึงตังโผงผาง นั่นเป็นสัญญาณของการเตรียมหนี...ผมไม่เชื่อคุณตู่นะครับ ตอนยังไม่เค้าลางอะไรสักหน่อยเลย

หรือว่า! การที่ศาลท่านไม่อนุญาตให้ออกไปหาหมอรักษาโรคที่ดูไบ บอกสัญญาณคดีที่ค้างคา ออกมาไม่ดี

สัญญาณลับ เสียงม้าล่อหยุดรบ ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน จึงดังกังวานออกมาให้เผลอคิดว่า ท่านจะหนีอีกแล้วจริงๆ.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม