เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ กฎกระทรวงการแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินของผู้ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2567 ที่ลงนามโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญหลายเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปจากกฎกระทรวงฉบับเดิม เช่น การตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม มีการระบุว่า เมื่อผู้ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมถึงแก่ความตาย หรือศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ให้สิทธิในที่ดินดังกล่าวตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรมที่มีสิทธิได้รับมรดกตามลำดับญาติ (ตามกฎหมายมรดก) ที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือ กรณีหนี้ที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการกับ ส.ป.ก. เฉพาะที่สถาบันการเงินดังกล่าวได้รับหนังสือแสดงสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของผู้ที่ได้รับสิทธิไว้เป็นหลักประกัน ให้นับรวมถึงหนี้ที่เกิดจากการกู้ยืมเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยหลักเกณฑ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. มีเพียงช่องทางการโอนไปสู่ทายาทของผู้ที่ได้รับสิทธิที่ดิน ส.ป.ก.เท่านั้น ไม่สามารถโอนให้บุคคลอื่นได้ หมายถึงว่าไม่สามารถนำไปซื้อขาย หรือยกให้บุคคลอื่นนอกจากทายาทได้สำหรับในกรณีที่ ไม่มีทายาทโดยธรรม (บิดา มารดา ภริยา สามี บุตร) หรือมีทายาทโดยธรรมแต่ทายาทโดยธรรมทุกคนไม่ประสงค์จะรับสิทธิในที่ดิน ให้สิทธิในที่ดินตกเป็นของ ส.ป.ก.กรณีมีทายาทโดยธรรมคนเดียวให้สิทธิในที่ดินตกเป็นของทายาทโดยธรรมผู้นั้นทั้งหมด กรณีที่มีทายาทโดยธรรมหลายคนให้แบ่งสิทธิที่ดินโดยธรรมตามสิทธิ ที่พึงมีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เว้นแต่ทายาทโดยธรรมจะตกลงแบ่งกันเองเป็นอย่างอื่น รวมทั้งคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ถือเป็นทายาทโดยธรรมเมื่อได้รับการโอนกรรมสิทธิ์แล้วจะ ต้องทำไปใช้ประโยชน์เพื่อประกอบเกษตรกรรมเท่านั้น หากใช้ที่ดินฝ่าฝืนตามระเบียบที่กำหนดไว้ให้ ส.ป.ก.แจ้งเตือนไปยังทายาทผู้ครอบครอง หากพ้นกำหนดระยะเวลาไม่แก้ไขให้ถูกต้อง ให้ ส.ป.ก.มีคำสั่งให้ทายาทผู้รับที่ดิน คืนที่ดินให้กับ ส.ป.ก. หรือในกรณีที่ทายาทที่ได้รับที่ดินไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดินทั้งหมด สามารถที่จะแบ่งแยกหรือโอนที่ดินบางส่วน หรือทั้งหมดให้แก่ สถาบันเกษตรกร เฉพาะเพื่อชำระหนี้แก่สถาบันเกษตรตามที่ตกลงกัน (เป็นการชำระหนี้)การจะแบ่งแยกหรือโอนสิทธิในที่ดินไปยังผู้อื่น จะกระทำมิได้ ยกเว้น ให้เจ้าของเดิม หรือ ทายาทโดยธรรมของเจ้าของเดิม ซื้อคืนเพื่อนำไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมทั้งนี้ไม่เป็นการห้าม สถาบันเกษตร ที่จะนำที่ดินไปให้ เจ้าของเดิม ทายาทโดยธรรมของเจ้าของเดิม หรือเกษตรกรอื่นตามลำดับ เช่าเพื่อประกอบเกษตรกรรม ได้สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ผ่อนผันให้สามารถใช้ช่องทางในการนำที่ดิน ส.ป.ก.ไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เช่น การนำไปค้ำประกันการกู้ยืมตามที่สถาบันการเงินกำหนดและให้นำไปให้เช่าทำการเกษตรได้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องใช้ประกอบเกษตรกรรมเท่านั้น จะไปทำรีสอร์ตหรือที่จัดสรร หรือบ้านพักตากอากาศไม่ได้โดยเด็ดขาด.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม