“โควิด-19” ยังคงระบาด สถานการณ์ผู้ติดโควิด-19 ที่มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น...ควรดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติ ระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอโดยเริ่มจากข้อที่หนึ่ง...ติดตามสถานการณ์การระบาด เพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการปฏิบัติตัว

ถัดมา...ประเมินความเสี่ยงในชีวิตประจำวันว่าในแต่ละสถานที่ แต่ละกิจกรรมมีความเสี่ยงมากหรือน้อย เพื่อป้องกันการติดเชื้อของตนเองและไม่แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

สาม...ตระหนักถึงความรุนแรงของโรคโควิด-19 อยู่เสมอว่าแม้เป็นโรคประจำถิ่น แต่ติดเชื้อแล้วป่วยได้ ตายได้ สี่...พึงรับรู้ว่าหากติดเชื้ออาจทำให้เกิดความผิดปกติระยะยาวหรือภาวะลองโควิด (Long COVID) ได้ และสุดท้ายข้อที่ ห้า...การใส่หน้ากากอนามัยยังเป็นอาวุธสำคัญที่จะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อ

“สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” หรือ “สปสช.” ได้รับมอบนโยบายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในการจัดระบบสายด่วน สปสช.1330 เพื่อเป็นระบบเสริมในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ภายหลังจากตรวจ ATK แล้วมีผลขึ้น 2 ขีด แต่ยังไม่ได้รับบริการ

...

ทั้งในกลุ่ม 608 และที่ไม่ใช่ 608 โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาฯ สปสช. บอกว่าในช่วงสองวันแรกของการเปิดระบบมีประชาชนที่ผลตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด โทร.เข้ามายังสายด่วน สปสช.1330 เพื่อขอรับการบริการจำนวนมาก

ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยโควิดที่อยู่ในกลุ่ม 608 และได้รับการประเมินตามหลักเกณฑ์แล้วว่า...จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 5 จังหวัด คือนนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

ข้อมูลเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา สปสช. ได้จัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วย 542 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 ราย รวมเป็นยาจำนวน 27,217 เม็ด และวันที่ 24 กรกฎาคม ได้จัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยอีก 218 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 13 ราย รวมเป็นยาจำนวน 11,103 เม็ด

ข้อเท็จจริงมีว่า...ด้วยจำนวนการจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับผู้ป่วยกว่า 700 รายนี้ ทำให้ “ยาฟาวิพิราเวียร์” ที่ สปสช.หมดลง ส่งผลให้ในวันที่ 25 ก.ค. สปสช.ไม่สามารถจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยได้ จึงประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มเติมแล้ว

โดย โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ได้ร่วมให้การสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 100,000 เม็ด เพื่อให้ สปสช.ดำเนินการจัดส่งยาให้ผู้ป่วยกลุ่ม 608 ที่ยังไม่เข้าสู่ระบบบริการ สปสช.ขอขอบคุณที่ร่วมดูแลผู้ป่วยกลุ่ม 608 ใน กทม.และปริมณฑลที่ยังเข้าไม่ถึงบริการนี้

นพ.จเด็จ ย้ำว่า การจ่ายยาให้กับผู้ป่วยโควิดที่เราดำเนินการอยู่นี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจ่ายยาในการดูแลผู้ป่วยโควิดของกรมการแพทย์ ภายใต้การประสานความร่วมมือกับ รพ.นพรัตน์ และ รพ.เลิดสิน

นอกจากนี้ สปสช.ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณการจัดส่งยาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมง โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่าการให้บริการ “ผู้ป่วยโควิด-19” ของ “สปสช.” เป็นเพียงระบบที่ช่วยเสริมการบริการหลักเท่านั้น รวมถึงผู้ป่วยกลุ่ม 608 ซึ่งผู้ป่วยโควิดสามารถรับบริการผ่าน 3 ช่องทางหลักได้ ดังนี้ หนึ่ง...บริการที่คลินิก โรงพยาบาลตามสิทธิสุขภาพของตัวเอง

...

สอง...รับบริการแบบเทเลเมดิซีน ซึ่งทีมผู้ให้บริการจะทำการคัดกรองเบื้องต้น หากไม่มีอาการจะจ่ายยาแล้วติดตามอาการภายใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้ามีอาการ ผู้ให้บริการจะประสานส่งต่อคลินิก โรงพยาบาลเพื่อดูแลตามแต่ละการจัดการของโรงพยาบาล

สาม...บริการที่ร้านยา ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว สิทธิบัตรทอง และสิทธิประกันสังคม โดยรับยารักษาตามอาการ–คำแนะนำการใช้ยา (ครอบคลุมทั่วประเทศ)

ให้พึงรู้ชัดเจนกันอีกนิดว่า...กรณีที่ไม่สามารถรับบริการตาม 2 รูปแบบข้างต้นได้ ก็สามารถประสานสายด่วน 1330 เจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองเบื้องต้น หากไม่มีอาการ จะทำการส่งยาให้ทางไปรษณีย์หรือ สปสช.จัดรถไปส่งให้ พร้อมติดตามอาการภายใน 24 ชั่วโมง

แต่หากมีอาการ เจ้าหน้าที่จะประสานหาเตียงในโรงพยาบาล หรือจัดหาหน่วยบริการเพื่อดูแลแบบโฮมไอโซเลชัน...รักษาที่บ้าน และถ้ามีอาการรุนแรงก็จะประสานสายด่วน 1669 เพื่อส่งรถฉุกเฉินมารับตัวไปยังโรงพยาบาลต่อไป

รวมลิงก์ลงทะเบียนเพื่อการรักษาผู้ป่วยโควิด https://www.nhso.go.th/news/3680 ...ลงทะเบียนรักษาโควิด-19 ด้วยระบบการแพทย์ทางไกล จัดส่งยาถึงบ้าน ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย, https://www.nhso.go.th/news/3681 ป่วยโควิด-19 สิทธิบัตรทอง 30 บาท รักษาที่ไหนได้บ้าง?

...

ดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197, แผนที่ดิจิทัล ร้านยาใกล้ฉัน (Nostra Map) https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/covid19pharmacy,feed/th

ย้ำว่า...สำหรับกลุ่มที่ไม่ใช่ 608 ในกรณีไม่มีอาการ เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน และสามารถออกจากบ้านได้โดยต้องป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวดอีก 3 วัน ตามหลักเกณฑ์ของกรมควบคุมโรค

แต่ในกรณีที่มีอาการนั้น เบื้องต้นสามารถไปรับยาแบบ “เจอ แจก จบ”... “ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน” ได้ที่คลินิก โรงพยาบาลตามสิทธิสุขภาพของตัวเอง รวมทั้งรับยาที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการก็ได้

“แต่ในกรณีที่ไม่สามารถเข้ารับบริการได้ด้วยสาเหตุใดก็ตาม ให้โทร.มาที่สายด่วน 1330 เจ้าหน้าที่จะแนะนำขั้นตอนการใช้บริการตามสิทธิการรักษาของท่านให้ กรณีไม่สะดวกเดินทางไปรับบริการเจอ แจก จบ ที่สถานพยาบาลตามสิทธิ” นพ.จเด็จว่า

...

ก็มีทางเลือก เช่น...ลงทะเบียนออนไลน์ของหน่วยบริการที่จัดระบบนี้ หรือร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ รอรับยาที่บ้าน หรือรับการดูแลแบบเทเลเมดิซีน ระบบบริการการแพทย์ทางไกลผ่านแอปพลิเคชันที่ตอนนี้มีความร่วมมือ 2 แห่ง คือ “แอป Good Doctor” และ “แอปหมอดี”

ขณะนี้กำลังมีความร่วมมือกับอีกแห่งเพื่อปรึกษาแพทย์ผ่านออนไลน์ พร้อมจัดส่งส่งยาถึงบ้าน นอกจากนั้นในรายที่เจ้าหน้าที่ 1330 ประเมินอาการแล้วพบว่าเข้าเกณฑ์ต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ก็จะจัดส่งยาไปให้ที่บ้าน ซึ่งเป็นยาที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข

แต่...กรณีนี้ยังครอบคลุมเฉพาะ กทม.และปริมณฑล

ผู้ที่มีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

“โควิด-19” ยังคงอยู่กับเรา “ตื่นตัวอย่าตื่นตูม” ป้องกันตัวการ์ดอย่าตก 24 ชั่วโมง.