โคราชลุ้นระทึก น้ำเก่ายังไม่ทัน แห้งสนิทส่อจมอีกรอบ อ่างลำตะคอง เต็มความจุ เร่งปล่อยน้ำออก รอรับพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาช่วงปลายเดือน ผวจ.สั่งพร้อมรับมือน้ำท่วมซ้ำจุดเดิม เขื่อนอุบลรัตน์ปรับเพิ่มระบายน้ำรับพายุเช่นกัน ชาวน้ำพองยอมรับสภาพต้านไม่ไหวต้องปล่อยให้น้ำท่วมพื้นที่ อุบลฯเตรียมอพยพชาวบ้าน 2 อำเภอลุ่มน้ำมูล ฝนถล่มเมืองไชยา 140 มม. น้ำป่าซัดหมู่บ้าน 30 หลังสาหัสหนัก ถนนพัง ไฟดับ ไม่มีสัญญาณมือถือ แม่น้ำท่าจีนยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ตลาดสามพรานจมบาดาลแล้ว กอนช.เร่งผลักดันน้ำลงทะเล กู้วิกฤติเมืองสุพรรณฯ-นครปฐมถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่มีแนวโน้มคลี่คลาย แต่ต้องเฝ้าจับตาอาจมีพายุลูกใหม่เข้ามาอีกในช่วงปลายเดือน เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา นำคณะลงพื้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา ตรวจร่องรอยความเสียหายจากน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลังน้ำลดต้องระดมกำลังครูอาจารย์ช่วยกันทำความสะอาดเพื่อเตรียมเปิดภาคเรียนวันที่ 1 พ.ย. ทั้งนี้ ชุมชนในเขตเทศบาลนครราชสีมาถูกน้ำท่วม 22 ชุมชน กว่า 5,000 หลังคาเรือน ผู้ประสบภัยกว่า 25,000 คน ขณะนี้น้ำแห้งเกือบหมดแล้วทั้ง 22 ชุมชน ยังคงเหลือในเขตรอบนอกกำลังเร่งระบาย พื้นที่รับน้ำต่อไปคือ อ.โนนสูง อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.พิมาย ผวจ.นครราชสีมาเผยต่อไปว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคองมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกมาอีก เนื่องจากอาจจะมีดีเปรสชันมาอีกลูกช่วงวันที่ 28-29 ต.ค. ตอนนี้ปริมาณน้ำในอ่างเกินความจุแล้ว ดังนั้นน้ำจะเอ่อขึ้นมาอีกในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. ขอให้ประชาชนพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคองที่เคยถูกน้ำท่วมมาแล้วเพิ่มความระมัดระวัง แต่พยายามจะไม่ให้ท่วมซ้ำอีก นอกจากนี้ยังแจ้งเตือนไปถึงลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ต้องระบายน้ำออกเช่นกัน จะได้รับผลกระทบตั้งแต่ อ.โนนไทย อ.โนนสูง อ.พิมาย รวมถึงอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำมูลบนที่ต้องระบายน้ำออกด้วย จากนั้นนายวิเชียร พร้อมคณะเหล่ากาชาดจังหวัด นำถุงยังชีพและข้าวกล่องพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ไปมอบให้ผู้ประสบภัยที่ชุมชนวัดท่าตะโก ต.ในเมือง และบ้านช่องอู่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา เป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นจ.ขอนแก่น เขื่อนอุบลรัตน์ปรับเพิ่มการ ระบายน้ำจากวันละ 25 ล้าน ลบ.ม.เป็น 35 ล้าน ลบ.ม. และช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. อาจมีพายุลูกใหม่เข้ามาจะพิจารณาปรับเพิ่มเป็นอย่างน้อยวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. นายไชยยา วงค์วร กำนันตำบลท่ากระเสริม อ.น้ำพอง เผยว่า พนังดินที่กั้นลำน้ำพองที่บ้านท่าโพธิ์ทรุดหนัก หากไม่ซ่อมหรือทำให้แข็งแรงกว่าเดิม น้ำจะทะลักท่วมพื้นที่กว่า 10 หมู่บ้านและท่วม ต.ทรายมูล ด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชลประทานนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่อง สูบน้ำออกจากลำห้วยใหญ่ดี 9 เร่งระบายลงลำน้ำพอง เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมที่หนองแม่ซับเพิ่มสูงขึ้นเกรงจะเอ่อท่วมที่นาของชาวบ้าน ถ้าเขื่อนอุบลรัตน์ยังระบายน้ำเพิ่มทุกวันแบบขั้นบันได หรือระบายถึง 40 ล้าน ลบ.ม.คงป้องกันไม่ได้ ต้องปล่อยให้น้ำท่วมพื้นที่ทั้งหมดเหมือนปี 60นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.อุบลราชธานี นำคณะล่องเรือจากปากแม่น้ำชี อ.วารินชำราบ ไปตามแม่น้ำมูล เพื่อประเมินระดับน้ำในการรับมือมวลน้ำจากจังหวัดด้านเหนือที่ไหลมาสมทบ คาดว่าน้ำจะสูงขึ้นต่อเนื่องไปถึงวันที่ 28 ต.ค.ทำให้มีน้ำล้นตลิ่งไม่เกิน 30 ซม. แต่ระดับน้ำอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกเนื่องจากมีการก่อตัวของพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามา ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำมูลเตรียมรับมือ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมเข้าช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัย แม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย ระดับน้ำสูง 7.12 เมตร มีน้ำล้นตลิ่ง 12 ซม. ระดับน้ำขึ้นเฉลี่ย 4 ชม.ต่อ 1 ซม. มีผู้ต้องอพยพ 25 ชุมชนใน 2 อำเภอคือ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ รวมกว่า 1,300 คน จ.สุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงเมื่อตอนค่ำวันที่ 23 ต.ค.ในพื้นที่ อ.ไชยา ปริมาณน้ำฝนวัดได้ถึง 140 มม. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำคลองเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 7 ต.ปากหมาก น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 30 หลัง ชาวบ้านรีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น หลังฝนหยุดตก นายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นอภ.ไชยา นำกำลังฝ่ายปกครองและทีมกู้ภัยยางโพรงลงสำรวจพื้นที่พบว่าน้ำป่าไหลบ่าท่วมถนนหลายจุด บางจุดน้ำลดลงแล้วแต่ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ทั้งดินโคลนที่ถูกน้ำซัดมากองเต็มถนน ไฟฟ้าดับทุกจุด สัญญาณโทรศัพท์ใช้การไม่ได้ ต่อมานายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านพร้อมเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ พยากรณ์อากาศยังมีฝนตกอยู่ ให้ทางอำเภอและผู้นำท้องถิ่นเฝ้าระวังเตรียมสถานที่อพยพและขนย้ายสิ่งของไปอยู่ในที่ปลอดภัย หากฝนตกหนักลงมาอีก ส่วนถนนและสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ชำรุดให้เร่งซ่อมแซมต่อไปที่วัดพลายชุมพล หมู่ 5 บ้านหางคลอง ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย พระปลัดวัฒนา สิริสุวัณโณ เจ้าอาวาส พร้อมพระลูกวัดและชาวบ้านช่วยกันเทปูนซ่อมแซมพื้นถนนภายในวัดและรอบวิหารแดง ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณสมัยสุโขทัย ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำป่าไหลหลากเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร หลังน้ำลดถนนในวัดเป็นหลุมบ่อได้รับความเสียหายหนักต้องซ่อมแซมให้แล้วเสร็จก่อนจะมีงานทอดกฐินสามัคคีในวันที่ 11 พ.ย. ล่าสุดมีฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนเหนือของ จ.สุโขทัย ทำให้มวลน้ำก้อนใหม่จากอ่างแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง และอ่างแม่รำพัน อ.บ้านด่านลานหอย เอ่อล้นสปิลเวย์เริ่มไหลทะลักลงมาตามเส้นทางน้ำเป็นรอบที่สองแล้ว ฝากบอกบุญถึงญาติโยมร่วมกันบูรณะวัดพลายชุมพล โอนเงินบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทย หมายเลขบัญชี 616-053-914-0 ชื่อบัญชีวัดพลายชุมพลจ.อุทัยธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 ตำบลของ อ.เมืองอุทัยธานี ระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรังยังทรงตัวถึงลดลงเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่เทศบาลติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลายเครื่องเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังมานานนับเดือนจนเน่าเหม็นระบายออกจากหลายชุมชนที่อยู่ริมน้ำและเป็นการเตรียมรับมือพายุลูกใหม่ที่กำลังก่อตัวคาดว่าจะเข้าไทยปลายเดือนนี้ ขณะที่ อบจ.อุทัยธานี นำรถแบ็กโฮมาก่อคันดินรอบสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ต.เกาะเทโพ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อล้นออกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง จ.นครปฐม ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ท่วมบ้านเรือนริมน้ำ 3 อำเภอ บางเลน นครชัยศรีและสามพราน เรือกสวนไร่นาเสียหายกว่าพันไร่ ล่าสุดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมตลาดสดสามพราน ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. พ่อค้าแม่ค้าต้องปิดร้านหยุดขายของ นอกจากนี้ยังมีวัดดัง เช่น วัดกลางบางพระ อ.นครชัยศรี ที่ประดิษฐานหลวงพ่อสมหวัง พระพุทธรูปขนาดใหญ่สูง 30 เมตร น้ำท่วมเข้ามาถึงลานองค์พระ พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาส ต้องระดมชาวบ้านและเจ้าหน้าที่มูลนิธิทำคันดินสูงกว่า 1 เมตรล้อมรอบวัด ขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนสูงกว่าตลิ่ง 10-30 ซม. หากมีฝนตกลงมาและยังมีการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนต่อเนื่อง ปริมาณน้ำจะลุกลามเข้าตัวเมืองจนท่วมหนักกว่าปี 54พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ 15 จังหวัดที่ยังประสบปัญหาอุทกภัย และกังวลพายุลูกใหม่ซ้ำเติม ฝนยังมากต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงน้ำทะเลหนุนสูง ระหว่างวันที่ 23-27 ต.ค. กำชับ สทนช.ติดตามสภาพอากาศและพายุ “หมาเหล่า” ประเมินสถานการณ์น้ำเข้าเขื่อนและพิจารณาปรับการระบายน้ำลงแม่น้ำสายหลักไม่ให้ล้นตลิ่งกระทบพื้นที่โดยรอบ การบริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน ให้ใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตามจุดต่างๆ เร่งระบายออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้นเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และ จ.นครปฐมนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรอง ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะ ผอ.กอนช. มอบหมายให้ สทนช.ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน และเร่งรัดให้ระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว ภายหลัง กอนช.มอบหมายให้กรม ชลประทานตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัย (ส่วนหน้า) ลุ่มน้ำท่าจีน มี 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.จัดจราจรน้ำโดยใช้ประตูระบายน้ำ (ปตร.) ต่างๆ 2.ปรับลดการรับน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีน ตามปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ลดลง เพื่อควบคุมไม่ให้ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น และปรับลดการระบายน้ำ ปตร.ท่าโบสถ์ ปตร.กระเสียว-สุพรรณ และ ปตร.โพธิ์พระยา รวมทั้งให้หน่วงน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำและทยอยระบายน้ำเมื่อระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนเริ่มลดลง และ 3.ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำให้ลงสู่ทะเลโดยเร็ว ขณะเดียวกันได้ประสานกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือแนวทางเพิ่มการระบายน้ำจากทุ่งเจ้าเจ็ด พระยาบรรลือ และพระพิมล ลงสู่พื้นที่แก้มลิงมหาชัยเพื่อช่วยลดระดับน้ำท่วม และประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ อย่างเป็นระบบ รวมถึงใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ช่วงวันที่ 24- 27 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือยังพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นและคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่างช่วงวันที่ 27-28 ต.ค.นี้