ก็ถือเป็นข่าวดีที่ยิ่งใหญ่ของโลกเลยทีเดียว เมื่อบริษัทยายักษ์ใหญ่สหรัฐฯ Merck & Co แถลงเปิดเผยว่า บริษัทสามารถผลิตยารักษาไวรัสโควิด-19 แบบ “ยาเม็ดรับประทานทางปาก” ได้แล้ว ชื่อ Molnupiravir เป็นยาเม็ดที่มีประสิทธิภาพ ต้านไวรัสโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์รวมทั้งเดลตา การทดลองทางคลินิกได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โมลนูพิราเวียร์สามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตได้ถึง 50% เมิร์คได้รายงานผลการทดลองนี้ต่อ นพ.แอนโทนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาการแพทย์ทำเนียบขาวก่อนแถลงข่าว และจะ ยื่นขออนุญาต FDA คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ทันทีที่พร้อม

ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ ผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ของสหรัฐฯ ก็เปิดเผยว่า กำลังทดลอง “ยาเม็ดต้านโควิด-19” ที่สามารถ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่สำคัญของไวรัสโคโรนา เช่นเดียวกับ โมลนูพิราเวียร์ หากทดลองสำเร็จจะยื่นขออนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉินต่อ FDA ในไตรมาส 4 นี้ทันทีเช่นเดียวกัน

เมิร์คเปิดเผยถึง ผลการทดลองระยะที่ 3 ของยาโมลนูพิราเวียร์ว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ร่วมทดลอง 775 ราย เมื่อได้รับยา Molnupiravir มีเพียง 7.3% ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายใน 29 วัน และไม่มีผู้เสียชีวิตเลย ส่วน ผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอก มี 14.1% ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลภายใน 29 วัน แต่เสียชีวิต 8 ราย ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนที่ร่วมทดลอง ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาก่อน แต่ละคนยังมีปัจจัยเสี่ยงหนึ่งอย่างที่ทำให้เกิดอาการรุนแรง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ผู้สูงอายุกว่า 60 ปีขึ้นไป ผลการศึกษายังพบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากผู้ป่วยได้รับยาในช่วงแรกของการได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19

...

เมิร์ค ได้ทำการทดลองยา Molnupiravir ทางคลินิกระยะที่ 3 กว่า 170 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง สหรัฐฯ บราซิล กัวเตมาลา อิตาลี แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น และ ไต้หวัน

ยา Molnupiravir ตอนแรกเมิร์คพัฒนาให้เป็น “ยารักษาไข้หวัดใหญ่” ต่อมาได้พัฒนาเป็นยาที่ ทำให้รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 บกพร่อง เพื่อไม่ให้แพร่กระจายเชื้อในร่างกาย โดยเล็งเป้าไปที่ viral polymerase ซึ่งเป็น “เอนไซม์” สำคัญของไวรัสโควิด-19 ในการคัดลอกตัวเองเพื่อแพร่กระจายเชื้อ ยาโมลนูพิราเวียร์จะไป ทำให้รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 เกิดความผิดพลาด จนไม่สามารถขยายเชื้อได้ โมลนูพิราเวียร์จึงมีประสิทธิภาพ ยับยั้งไวรัสโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ แม้จะมีการกลายพันธุ์ก็ตาม เมิร์คแถลงด้วยว่า ยาโมลนูพิราเวียร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อพันธุกรรมในเซลล์มนุษย์แต่อย่างใด

ยาโมลนูพิราเวียร์ จึงแตกต่างจาก วัคซีนโควิด-19 ที่ออกแบบให้เล็งไปที่ “โปรตีนหนาม” ของไวรัสโคโรนา เพื่อให้ร่างกายจดจำและกำจัดโปรตีนหนามที่เป็นเชื้อไวรัสออกไป

เมิร์คได้เริ่มผลิตยาโมลนูพิราเวียร์แล้ว คาดว่าจะสามารถผลิตได้ 10 ล้านเม็ดในปีนี้ และมากขึ้นในปีหน้า แม้ขณะนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์ จะยังไม่ได้รับการรับรองจาก FDA แต่มีหลายประเทศทั่วโลกเริ่มสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ล่วงหน้าแล้ว รวมทั้ง รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้สั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ล่วงหน้า 1.7 ล้านเม็ด

ผมเลยขอสะกิด “เสี่ยหนู” คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข ให้รีบสั่งซื้อ “ยาโมลนูพิราเวียร์” ล่วงหน้าโดยด่วน เดี๋ยวจะตกรถเหมือนวัคซีนอีก

ยารักษาโควิด-19 Molnupiravir ถือเป็นการ พลิกเกมไวรัสโควิด-19 ของโลกเลยทีเดียว เมื่อมียารักษาได้ก็ไม่ต้องฉีดวัคซีน หุ้นวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาเลยร่วงกันระนาว เมื่อติดเชื้อโควิด-19 กินยารักษาได้ ก็ไม่ต้องไปตรวจเชื้อ ไม่ต้องมีขั้นตอนการรักษาที่ยุ่งยากแบบต้องลาจากกันต่อหน้าต่อตา ฉีดวัคซีนก็เสี่ยงกับผลข้างเคียงหลอดเลือดอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผมขอยกให้ Molnupiravir เป็นสุดยอดยาแห่งยุคนี้เลยครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”