“เพื่อนส่งมาคิดว่าได้ประโยชน์และมีจุดที่กำลังหาเตียง วัด จุดพักคอย จุดคัดกรองข้อมูลเหล่านี้ เป็นประโยชน์ที่... จิตอาสาทำเพื่อจะได้หาความช่วยเหลือ ลองดูรอบๆบริเวณที่เราพัก...ที่เห็นจุดแดงๆคือคนที่ยังไม่ได้เตียง ที่อยู่ใกล้ๆพื้นที่เรา...กดที่จุดแดงแต่ละจุดจะมีรายละเอียดครับ”สู้กันต่อไป ปลอดภัยกันทุกคน กดดูที่ลิงก์ด้านล่างครับ https://jitasa.care/ ข้อมูลข้างต้นนี้โพสต์โดย “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” เฟซบุ๊กเพจ 28 กรกฎาคม เวลา 17.14 น.ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 บันทึกสถานการณ์การแพร่ระบาด มองอดีตสะท้อนปัจจุบัน เพื่อคลี่คลายปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต14 วันแรก...“ล็อกและแพร่” แต่สถานการณ์ กทม. และจังหวัดต่างๆในปริมณฑลดูคับขัน โรงพยาบาลต่างๆปิดตัว สำหรับที่จะรับ ที่ไม่มี คนไม่พอ เพราะติดเชื้อไปด้วย และไม่ใช่แต่ที่โรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง...ประสบปัญหาเหมือนกันหมด การตั้งรับ เต็มกลืน การป้องกันตนเองเป็นหัวใจแต่สิ่งที่ “รัฐ” จะช่วยได้คือการสนับสนุนสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ขิง กระชายขาวและยาฆ่าพยาธิไอเวอร์เม็กติน 12 มิลลิกรัมวันละครั้งกินติดกันห้าวันเมื่อมีอาการหรือรู้ว่าเป็นแน่ๆ เพราะไม่มีที่ ที่จะเข้าโรงพยาบาลและรัฐช่วยหาวัคซีนฉีดให้ได้ทุกคนในเวลาอันรวดเร็วที่สุด“ภาวนา” และ “หวัง” ในความกรุณาวันที่ 25 ก.ค.64 “คิดเลขในใจ”...จาก 100 ที่ติดเชื้อคิดว่ามี 10 เท่านั้น ที่เป็นสัดส่วนที่ต้องอยู่โรงพยาบาลและตัวเลขที่อยู่ในโรงพยาบาลขณะนี้ (มีที่มีอาการอีกมากที่เข้าไม่ได้) =...คำถาม ตัวเลขคนติดเชื้อที่ควรจะเป็น =... ตัวเลขที่ต้องเข้าโรงพยาบาลจะแปรตาม “วัคซีน” ที่ได้ ถ้ายิ่งได้ครบ “สองเข็ม”...ก็จะเข้าโรงพยาบาลน้อยลง ดังนั้น “อย่าเลือกวัคซีน” มีต้องฉีดไปก่อน และรัฐมีความรับผิดชอบที่ต้องหาวัคซีนจำนวนครอบคลุมประชากรให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพดีที่สุดวันที่ 24 ก.ค.64 “ฉีดซิิโนแวค”...เข็มที่หนึ่ง 24 มีนาคม เข็มที่สอง 21 เมษายนหนึ่งเดือนหลังเข็มที่สองตรวจได้ 93% ภูมิในการยับยั้งไวรัสที่โชคดีมากกว่าคนอื่นๆที่เจาะประเมินอีกหลาย 100 คน โดยมีจำนวนมากที่ระดับไม่ถึง 68% ที่เป็นตัวเลขคร่าวๆที่บอกถึงระดับการยับยั้งการติดเชื้อวันที่ 19 กรกฎาคม สามเดือนหลังเข็มที่สองได้ 65.94%...เป็นไปตามลักษณะของภูมิที่ตกลงเร็วและเริ่มมีความเสี่ยงของการติดเชื้อตั้งแต่เดือนที่สองเป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตามความสามารถในการป้องกันตาย ยังคงมีอยู่แต่จะลดลงตามลำดับอนึ่ง การดูค่าภูมิคุ้มกันจากการเจาะเลือด ต้องระบุให้ได้ชัดเจนว่าเป็นภูมิที่ยับยั้งไวรัสได้ (neutralizing antibody) หรือเป็นภูมิที่ตรวจหาแบบรวบรวมทั้งหมด ทั้งที่ยับยั้งได้และไม่ได้ ซึ่งมักจะได้ค่าสูงกว่ามาก และไม่สัมพันธ์กับประสิทธิภาพในการยับยั้งการติดเชื้อของไวรัสวันที่ 20 ก.ค.64 “สรุปการบริหารจัดการเชิงรุก”...แยกตัวก่อน ในชุมชนแออัด และค่อยคัดกรอง ไม่ใช่คัดกรองแล้วแยกตัว...ชุดตรวจเร็ว สำหรับทุกคน 8.5 ล้านชุดอาจจะไม่พอ...ทั้งนี้ ทุกคนเสี่ยงและต้องการตรวจ และทุกคนไม่อยากเป็นและไม่อยากแพร่ วัคซีนเข้าไปฉีดถึงที่เลย“โรงพยาบาลสนาม” สำหรับ “แดง” และ “แดงแจ๋” อินโดนีเซีย ซิโนแวค 2 เข็ม เจ้าหน้าที่สาธารณสุข “เอาไม่อยู่” เพราะเสี่ยงเชื้อตลอดเวลาเสียชีวิต พิจารณาโมเดอร์นาวกกลับมาวันที่ 22 ก.ค.64 ถึงเวลาแล้วหรือไม่? ต้องคิดถึง “โรงพยาบาลสนามเฉพาะโควิด” แยกออกไปต่างหาก และมีบุคลากรหมุนเวียนตามสัดส่วนที่ควรจะเป็นและ...โรงพยาบาลสำหรับรักษาโรคตามปกติที่มีการคัดกรองเข้มงวดที่สุด“ประเทศไทย” ไม่ได้สูญเสียชีวิตจากโควิดอย่างเดียว แต่คนป่วยโรคอื่นๆสูญเสียไปด้วยมากมหาศาลแนวคิดคุณหมอแก้วซึ่งพวกเราเห็นด้วย 100%“ถึงแม้คนสูงอายุมีโรคประจำตัวจะไม่ออกจากบ้านเลย แต่คนในบ้านที่ต้องออกไปทำงานหรือซื้อของที่จำเป็นติดจากข้างนอกมาให้คนในบ้านเต็มไปหมดความเสี่ยงอยู่ทั่วทุกหัวระแหง เราทุกคนต้องพยายามแข็งแรงเข้าไว้ บวกมีวินัย เดินได้เดิน วันละ 7 กิโลเมตร...รักตัวเองไม่เป็นโรคเท่ากับช่วยประเทศ” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอดื้อ” ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย้ำอีกว่า“6 อย่า” ช่วงโควิด รักษาตัวให้แข็งแรงเท่ากับช่วยประเทศ อย่า... ทะนงตนว่าเป็นหนุ่มสาวหรือไม่มีโรคประจำตัวแล้วไม่เป็นไร...“นอกจากจะเป็นตัวแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพแล้ว เราเห็นกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงพยาบาลขณะนี้ ที่คนแข็งแรงอาการหนักได้” อย่า...คิดว่าเมื่อติดเชื้อแล้วและเริ่มมีอาการจะรักษาง่ายๆ“กลไกของการติดเชื้อเมื่อเข้าร่างกายแล้วจะเพิ่มจำนวน และถ้าหยุดยั้งไม่ได้หรือไม่ทันเชื้อจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกระบบที่ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงกว่าเชื้อไวรัสอื่นๆ จากผลของการอักเสบจะกระทบทุกอวัยวะในร่างกาย และทำให้เลือดข้น เกิดลิ่มเลือดเล็กๆทั่วไปด้วย”อย่า...คิดว่ามียาต้านไวรัสแค่นั้นก็พอ เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นจำเป็นต้องให้ยากดการอักเสบ ซึ่งทำให้ติดเชื้ออื่นได้ง่ายขึ้นจากการกดภูมิคุ้มกันและปอดอักเสบที่เห็นนั้นจะกลายเป็นทั้งจากไวรัสและแบคทีเรียซ้ำซ้อน อย่า...คิดว่าถ้าตัวเลขลดลงหมายความว่าต่อไปนี้ไม่ต้องระวังตัวแล้ว “ต้องเข้าใจข้อจำกัดของการที่จะตรวจให้ได้ทุกคนในทุกพื้นที่ของประเทศ แม้ว่าตัวเลขจะลดลงก็ตามยังคงมีผู้ติดเชื้อที่ไม่รู้ตัวและไม่แสดงอาการอยู่ทั่วไปได้”อย่า...เข้าไปในสถานที่แออัด ที่อับ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก “สถานที่ดังกล่าวและยิ่งมีคนที่แพร่เชื้อได้หลายคน โอกาสที่จะได้รับเชื้อยิ่งสูงขึ้นและจำนวนเชื้อมากขึ้นตั้งแต่ต้น เชื้อที่อยู่กับละอองฝอยจะอบอวลอยู่ในอากาศได้นาน แม้เมื่อตกพื้นไปแล้วการเดินจะกระพือให้ละอองฝอยเหล่านี้ลอยขึ้นอีก (ข้อมูลประเทศจีนปี 63)”อย่า...นิ่งนอนใจในภาวะโรคประจำตัวทุกอย่าง ต้องคุมให้ได้ “โรคประจำตัวจะเปิดโอกาสทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เกี่ยวข้องกับกลไกในการรับเชื้อ...การเพิ่มจำนวนเชื้อได้เก่งขึ้น”โรคประจำตัวหลายชนิดจะมีลักษณะของการเอื้อให้เกิดมีการอักเสบในร่างกายอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ การอักเสบของข้อ การรักษาจะยิ่งซับซ้อนขึ้นทั้งจากโควิด-19 และโรคประจำตัวที่ปะทุซ้ำซ้อนขึ้นสรุปสุดท้ายแล้ว...ต้องรักษาตัวให้แข็งแรง คุมโรคประจำตัวให้หมดจดที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงการเอาตัวเข้าไปในที่เสี่ยง ท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ...“ช่วยตัวเองได้ = ช่วยคนไทยทั้งประเทศ”.