ตรวจเจอ 96 ราย ติดโควิดจากตลาดบางแค ทํายอดพบใหม่ทะลัก 170 คน อนุทินลงพื้นที่ยังไม่ปิด

อั้นไม่อยู่ไทยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งปรี๊ด 170 คน เป็นครั้งแรกของเดือน มี.ค. พบคลัสเตอร์ใหม่จากตลาดย่านบางแค กทม. เพิ่งเผยผลตรวจช่วง 7-13 มี.ค. เฉพาะตลาดวันเดอร์ที่เดียวตรวจ 2,335 คน พบติดเชื้อ 96 คน รอลุ้นผลตรวจอีกกว่า 3.1 พันคน หนำซ้ำพบลามไปนอกพื้นที่ ล่าสุด “นครปฐม-สุพรรณบุรี-เพชรบุรี” โดนด้วย หลายจังหวัดต้องประกาศให้คนที่ไป 6 ตลาดย่านบางแค ช่วง 27 ก.พ.-13 มี.ค.2564 เร่งตรวจเชื้อโควิดด่วน ด้าน “อนุทิน” โวมั่นใจไทยไม่ขาดวัคซีน ซิโนแวคถึงไทยอีก 8 แสนโดสในเดือนนี้ เล็งซื้อเพิ่ม 5 ล้านโดส ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อสะสมรวมทะลุ 120 ล้านคน ขณะที่ “นอร์เวย์-อิตาลี” พบอีกมีลิ่มเลือด-แพ้รุนแรงถึงตาย หลังฉีดวัคซีนแอสตราฯ แต่องค์การอนามัยโลกยังมั่นใจปลอดภัย

จำนวนผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทยที่นิ่งๆ อยู่ในกรอบไม่เกินเลขสองหลักต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลาย ก.พ.กลับแตกกระเจิงเรียบร้อยเมื่อเจอคลัสเตอร์ใหม่จากตลาดสดใน
กทม.ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งพรวดเกิน 100 คน เป็นครั้งแรกของเดือน มี.ค.

ยอดติดเชื้อพุ่งพรวด 170 คน

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.เวลา 11.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดข้อมูลพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 170 คน เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 156 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากการเฝ้าระวังและระบบบริการ 20 คน จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 136 คน เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศรวม 14 คน แบ่งเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 13 คน และผู้เดินทางจากต่างประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติไม่ได้เข้าที่กักกันของรัฐ 1 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,927 คน หายป่วยแล้ว 26,154 คน ยังรักษาตัวอยู่ 687 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 86 คน โดยประเทศที่ยังมีสถิติผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา บราซิล อินเดีย รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ส่วนประเทศไทย อยู่ในลำดับที่ 112

กทม.ติดเชื้อแซงขึ้นอันดับ 1

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศ ศบค.ระบุ พบผู้ติดเชื้อใน 6 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. 93 คน สมุทรสาคร 43 คน ปทุมธานี 12 คน นครปฐม 3 คน เพชรบุรี 3 คน และนราธิวาส 2 คน ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันของรัฐ 13 คน มาจากอียิปต์ 2 คน ฝรั่งเศส 2 คน สหราชอาณาจักร 2 คน มาเลเซีย 2 คน แทนซาเนีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา กานา และปากีสถาน ประเทศละ 1 คน ส่วนที่เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ คือสัญชาติเมียนมา เดินทางมาจากมาเลเซีย 1 คน

พบคลัสเตอร์ใหม่ย่านบางแค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากยอดพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุกใน กทม.ที่มีจำนวนสูงถึง 90 คน เป็นการพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ใหม่ ศบค.จึงออกประกาศผ่านเพจ ศบค.ให้ผู้ที่เดินทางไปตลาดในพื้นที่บางแคได้แก่ 1.ตลาดสิริเศรษฐนนท์ (แสงฟ้าเก่า) 2.ตลาดศูนย์การค้าบางแค 3.ตลาดกิตติ 4.ตลาดภาสม 5.ตลาดใหม่บางแค และ 6.ตลาดวันเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.-13 มี.ค. ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ทุกโรงพยาบาลใกล้บ้าน

ลุ้นผลตรวจเชื้อกว่า 3.1 พันคน

ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม.ชี้แจงผ่านเฟซบุกส่วนตัวระบุว่า การค้นหาเชิงรุกในตลาดพื้นที่เขตบางแค ตั้งแต่วันที่ 7-13 มี.ค.2564 ตรวจผู้ค้าในตลาดทั้งหมด 4,046 คน พบผู้ติดเชื้อ 96 คน ไม่ติดเชื้อ 764 คน รอผลตรวจ 3,186 คน รายละเอียดการตรวจเชิงรุก แยกเป็นที่ตลาดวันเดอร์ตรวจทั้งหมด 2,335 คน พบผู้ติดเชื้อ 96 คน ไม่ติดเชื้อ 764 คน รอผล 1,475 คน และตลาดใกล้เคียงกับตลาดวันเดอร์ ตรวจทั้งหมด 1,711 คน รอผลตรวจทั้งหมด ประกอบด้วย ตลาดสิริเศรษฐนนท์ ตลาดศูนย์การค้าบางแค ตลาดกิตติ ตลาดภาสม ตลาดใหม่บางแค ตรวจทั้งหมด 1,400 คน และที่ตลาดคลองขวาง ตรวจทั้งหมด 311 คน

ขอบคุณที่ชาวตลาดร่วมมือ

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. กล่าวอีกว่า กทม.ลงพื้นที่ออกสอบสวนโรคทันที คัดกรองผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และทำความสะอาดสถานที่โดยรอบแล้ว สำหรับผู้ที่ผ่านการตรวจคัดกรองจะได้รับชุดป้องกันที่ประกอบด้วย แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ถุงขยะติดเชื้อ สำหรับใช้ดูแลตนเองที่บ้านระหว่างที่รอผลการตรวจ 14 วัน ขอบคุณผู้ค้าในตลาด ผู้ใช้บริการ และผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมด ที่ให้ความร่วมมือ กทม.เป็นอย่างดี ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคตรวจค้น หาผู้ติดเชื้อเชิงรุก เร่งสอบสวนโรคผู้ที่มีความเสี่ยง และทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงได้รวดเร็ว จะทำให้ควบคุมโรคได้และช่วยคนอื่นๆอีกหลายคนไม่ให้ติดเชื้อโรคเพิ่มขึ้น

พบปมผู้ค้า–คนงานการ์ดตก

ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีการพบผู้ติดเชื้อที่ตลาดบางแค กรุงเทพมหานคร ว่ากรณีที่เกิดขึ้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และผู้บริหาร สธ. เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคได้ลงพื้นที่ดูสภาพปัญหาจริงที่ตลาดบางแคแล้วพบว่าเป็นตลาดสดขนาดใหญ่มีตลาดย่อย 6 ตลาดติดเรียงกัน มีคนสัญจรไปมามากมายตลอดเวลาไม่น้อยกว่า 1,000 กว่าคน โครงสร้างเป็นตลาดเก่า หลังคาไม่สูงระบบระบายอากาศไม่ค่อยดี พ่อค้าแม่ค้า และคนงานใส่หน้ากากไว้ใต้จมูก ใต้ปากใต้คาง ซึ่งมีโอกาสทำให้แพร่เชื้อและรับเชื้อได้ง่าย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่คือ พ่อค้าแม่ค้าและแรงงาน ส่วนประชาชนทั่วไปที่เป็นลูกค้ายังไม่ค่อยเป็นปัญหา แต่หากมีอาการไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือไม่สบายใจให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และวันที่ 15 มี.ค.นี้ กระทรวงสาธารณสุข จะนำรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยและรถตรวจห้องปฏิบัติการด่วนพิเศษให้บริการฟรีกับประชาชนบริเวณสวนสาธารณะข้างเดอะมอลล์ บางแค เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป รวมทั้งจะให้บริการด้วยที่ รพ.ราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันควบคุมโรคเขตเมือง บางเขน ส่วนผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องอยู่ในจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ สุพรรณบุรี นครปฐม เพชรบุรี สมุทรสาคร ได้ส่งรายชื่อให้จังหวัดทราบเพื่อนำตัวมารักษาในโรงพยาบาลแล้ว

รอตรวจสอบที่มาของเชื้อ

“กรณีที่เกิดขึ้นในตลาดบางแค ถือเป็นคลัสเตอร์หรือกลุ่มก้อนใหม่ของการระบาดในระลอกใหม่นี้ ไม่ใช่การระบาดครั้งใหม่ ส่วนจะเชื่อมโยงกับการระบาดใน จ.สมุทรสาคร หรือไม่นั้น แม้ว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อจากตลาดบางแคอยู่ใน จ.สมุทรสาคร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนขอตรวจในรายละเอียดก่อน หากเจ้าของตลาดบางแค พ่อค้าแม่ค้า คนงาน รวมทั้งประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขมีการใส่หน้ากากกันทุกคน จำกัดจำนวนคนเข้าออกตลาด เพื่อไม่ให้แออัด และปรับสภาพอากาศให้ถ่ายเทจะทำให้เราควบคุมโรคได้เร็วและตลาดจะกลับมาเปิดได้อย่างรวดเร็ว” นพ.โอภาสกล่าว

ฉีดวัคซีนแล้วเกือบ 5 หมื่นคน

ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนซิโนแวค ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ถึงวันที่ 13 มี.ค.เวลา 18.00 น.อธิบดีกรมควบคุมโรคสรุปว่ามียอดรวมสะสม 44,963 คน ไม่มีการรายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงที่ได้รับการยืนยันจากคณะผู้เชี่ยวชาญ ส่วนอาการไม่พึงประสงค์เล็กน้อยผ่านไลน์หมอพร้อม มีจำนวน 4,141 คน คิดเป็นร้อยละ 9.21 ของผู้รับวัคซีนทั้งหมด เป็นระดับที่ปกติ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 19 มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว ร้อยละ 15 คลื่นไส้ ร้อยละ 12 ปวดศีรษะ

อนามัยโลกยันแอสตราฯปลอดภัย

ส่วนความคืบหน้าผลการสอบสวนสาเหตุการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด ภายหลังรับวัคซีนแอสตราเซเนกา ในหลายประเทศในทวีปยุโรป ส่งผลให้ไทยชะลอการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เพื่อรอผลการสอบสวนนั้น อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ล่าสุดองค์การอนามัยโลก และองค์กรยาแห่งสหภาพยุโรป ยืนยันผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้วว่าวัคซีนแอสตราเซเนกามีความปลอดภัย และการเกิดลิ่มเลือดก็ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน เรื่องนี้ตนได้รายงานนายอนุทินให้ทราบแล้ว นายอนุทินได้สั่งการให้รายงานผลดังกล่าวต่อคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบ และให้ดำเนินการฉีดวัคซีนตามแผนเดิมต่อไป นอกจากนี้ ในวันที่ 20 มี.ค.ได้รับการยืนยันแล้วว่า วัคซีนซิโนแวค ลอตที่สอง จำนวน 8 แสนโดส จะมาถึงประเทศไทย ลอตนี้อาจจะพิจารณาให้ฉีดในพื้นที่ระบาดขณะนี้ ได้แก่ กทม. สมุทรสาคร ปทุมธานี ขณะนี้ถือว่าเรามีประสบการณ์การฉีดวัคซีนมากพอแล้ว สัปดาห์หน้าจะพิจารณาจัดสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เพื่อให้การฉีดวัคซีนทำให้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น

รอพิจารณาเกณฑ์ปิดตลาด

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจตลาดบางแค ว่าการติดเชื้อในตลาดย่านบางแค ยังไม่ยืนยันว่าเกิดจากตัวสถานที่หรือจากบุคคลอื่นนำเชื้อเข้ามาแพร่ เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีตลาดย่อยถึง 6 แห่ง มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคได้ร่วมมือกับ กทม. เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุด ส่วนประชาชนขอแนะนำให้ตั้งการ์ดสูง สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง เพราะนอกจากจะป้องกันตนเองแล้วยังต้องป้องกันคนรอบข้างด้วย ส่วนผู้ที่มีประวัติเข้ามาในตลาดย่านบางแคขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะบุคคลอื่น แยกกักตัวเองและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ จากรถตรวจเชื้อพระราชทานที่มาให้บริการประชาชน ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ขอให้ผู้รับบริการต้องแจ้งข้อมูลครบถ้วน สำหรับการปิดตลาดมีเกณฑ์การพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

เล็งซื้ออีก 5 ล้านโดส

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ในเดือน มี.ค.นี้จะมีวัคซีนจากซิโนแวคทยอยเข้ามาในประเทศไทย 800,000 โดส และเดือน เม.ย. อีก 1,000,000 โดส ตอนนี้กำลังเจรจาขอเพิ่มอีก 5,000,000 โดส เนื่องจากมีความจำเป็นในการนำวัคซีนมาใช้เพื่อควบคุมสถานการณ์ระบาด แต่วัคซีนหลักยังเป็นของแอสตราเซเนกา จะพร้อมฉีดในเดือนปลายเดือน พ.ค. หรือต้นเดือน มิ.ย. ฉะนั้นจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีเราจะไม่มีคำว่าขาดวัคซีนอีกแล้ว เพียงแต่ว่าเรายังไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งหมด แต่เราสามารถบริหารจัดการสิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้ได้ ทั้งนี้วัคซีนซื้อมาเก็บนานก็ไม่ดี

จากบางแคลามสู่สุพรรณฯ

ต่อมา วันเดียวกัน มีการประกาศจาก ศปก.โควิด สุพรรณบุรี ถึงจากการลงตรวจเชิงรุกในกลุ่มตลาดบางแค ทำให้พบผู้ป่วยอีก 5 คน แบ่งเป็น ผู้ป่วยรายที่ 20 หญิงไทย 47 ปี ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง ผู้ป่วยรายที่ 21 หญิงไทย 23 ปี ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง ผู้ป่วยรายที่ 22 ชายไทย 38 ปี ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง ผู้ป่วยรายที่ 23 หญิงไทย 56 ปี ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง ผู้ป่วยรายที่ 24 หญิงไทย 36 ปี ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ ซึ่งผู้ป่วยใน 5 ราย หลังมีการเดินทางไปซื้อขายมะม่วงในตลาดบางแค กทม. ทำให้ขณะนี้ จ.สุพรรณบุรี มีผู้ติดเชื้อสะสมจากการระบาดระลอกใหม่รวม 24 คน อยู่ระหว่างรักษา 6 คน และรักษาหายแล้ว 18 คน ทั้งนี้ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี ได้ประกาศขอความร่วมมือจากประชาชนที่มีการเดินทางไปยัง 6 ตลาด ในพื้นที่บางแค กทม. ได้แก่ ตลาดศิริเศรษฐนนท์ (แสงฟ้าเก่า) ตลาดภาสม ตลาดศูนย์การค้าบางแค ตลาดใหม่บางแค ตลาดกิตติ และตลาดวันเดอร์ ในช่วงระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 13 มีนาคม 2564 ให้สังเกตอาการ รวมถึงไปแสดงตัวพบเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินความเสี่ยง และขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข D-M-H-T-T อย่างจริงจัง คืออยู่ห่างไว้-ใส่แมสก์-หมั่นล้างมือ-ตรวจวัดอุณหภูมิ และใช้แอปไทยชนะ เพื่อพี่น้องชาวสุพรรณบุรี จะได้ปลอดภัยจากเชื้อร้ายนี้โดยเร็ว

นนท์เพิ่ม 1 โยงตลาดพรพัฒน์

ด้าน ศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 จ.นนทบุรี รายงานเมื่อวันที่ 14 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1 คน เป็นชายไทย อายุ 64 ปี อยู่ ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย เป็นพ่อค้าขายของที่ตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานี ตรวจหาเชื้อเชิงรุกไปเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2564 ไม่พบเชื้อ ช่วงวันที่ 27 ก.พ. เดินทางไปขายของที่ตลาดเช่นเดิม โดยรับหมากพลูจากพ่อค้าแม่ค้าที่มาจากตลาดสามพราน จ.นครปฐม มาส่งให้ที่บ้าน กระทั่งการตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 มี.ค.พบติดเชื้อโควิด-19 พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 คน เป็นคนในครอบครัว รอผลตรวจเชื้อ ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี แจ้งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 12 คน เป็นคนไทย 4 คน ต่างด้าว 8 คน พร้อมประกาศให้ประชาชนที่เดินทางไปตลาดบางแค กทม. ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.-13 มี.ค.2564 ให้ไปประเมินความเสี่ยงและตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ได้ทุก รพ.ใกล้บ้านด้วย เช่นเดียวกับ จ.เพชรบุรี พบติดเชื้อ 3 คน โยงกับตลาดวันเดอร์ บางแค กทม.

เริ่มยืนยันสิทธิ “ม33เรารักกัน”

ส่วนการเยียวยาในกลุ่มผู้ประกันตนนั้น น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการ ม33เรารักกันที่เปิดให้ลงทะเบียนมาระหว่างวันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค.ที่ผ่านมา จะเปิดลงทะเบียนอีกครั้งสำหรับรอบขอทบทวนสิทธิระหว่างวันที่ 15-28 มี.ค.นี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ไม่ผ่านการลงทะเบียนรอบแรก สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.ม33เรารักกัน.com ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อรักษาสิทธิการได้รับเงินเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จากรัฐบาลโดยนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดไปขอลงทะเบียนได้ ซึ่งผู้รับสิทธิต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทย มียอดเงินจากทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท (นับถึง 31 ธ.ค.2563) ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะ

ขยายเวลายืนยันผ่านแอป

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ทั้งนี้ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบการขยายเวลาการยืนยันตัวตนเพื่อใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ส่วนโครงการม33เรารักกัน กลุ่มที่ลงทะเบียนแล้วเสร็จระหว่างวันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค. จากเดิมที่จะต้องกดใช้งานและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังระหว่างวันที่ 15-21 มี.ค. ให้สามารถขยายเวลาเป็นระหว่างวันที่ 15 มี.ค.-31 พ.ค.2564 เช่นเดียวกับกลุ่มรอบทบทวนสิทธิ ที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15-28 มี.ค. จากเดิมที่จะต้องยืนยันตัวตน ระหว่างวันที่ 5-11 เม.ย. ให้ขยายเป็น 5 เม.ย.-31พ.ค.ทุกคนที่ได้ยืนยันตัวตน จะได้รับวงเงินคนละ 4,000บาท ตามมาตรการที่กำหนด

โควิดก่อปัญหาหนี้สิน

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ครอบครัวไทยในยุคโควิด-19” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,184 คน ระหว่างวันที่ 9-12 มี.ค.2564 พบว่าในยุคโควิด-19ปัญหาครอบครัวที่พบมากที่สุด คือ ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 75.41 หากมองในแง่บวกเห็นว่าโควิด-19 ทำให้ระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น ร้อยละ 70.28 พฤติกรรมครอบครัวไทยที่เพิ่มขึ้นคือ การดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว ร้อยละ 75.17 พฤติกรรมที่ลดลงคือ การเดินทางท่องเที่ยว ร้อยละ 63.77ปัญหาหนักอกเกี่ยวกับครอบครัวคือ รายรับไม่พอกับรายจ่าย ร้อยละ 44.27

เครียดหนี้สิน–โรคระบาด

ทั้งนี้ จากผลการสำรวจดังกล่าว พบว่าไม่ว่าจะก่อนหรือหลังมีโควิด-19 ปัญหาครอบครัวไทยก็ยังเป็นเรื่องปากท้อง รายได้ หนี้สิน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเรื่องเศรษฐกิจก็ยังเป็นปัญหาหลักของคนไทย ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะมองเห็นปัญหาระดับจุลภาคนี้หรือไม่ และจะมีแนวทางในการแก้ไขทั้งในระดับประเทศและระดับครัวเรือนอย่างไร เพราะครอบครัวนั้นเป็นหน่วยเริ่มต้นของสังคม ถ้าทุกครอบครัวอยู่ดีมีเงินใช้ก็ย่อมส่งผลให้ภาพรวมคุณภาพชีวิตของคนไทยนั้นดีมีความสุขนั่นเอง นอกจากนี้ ยังพบว่าผลกระทบเชิงลบหลักที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นเศรษฐกิจคือ ปัญหาการตกงาน ว่างงาน ส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ก่อให้เกิดหนี้สินตามมาและเกิดสภาวะความเครียด ซึ่งความเครียดนั้นมิได้มีเพียงแค่ปัญหาปากท้องเท่านั้น แต่มีความเครียดที่มาจากความกังวลใจในเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย อย่างไรก็ตาม ในสภาวการณ์แพร่ระบาดนี้ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือการที่ครอบครัวได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา ร่วมดูแลให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อก้าวข้ามผ่านสภาวการณ์เช่นนี้ไปได้ด้วยพลังใจที่เข้มแข็ง

พบอีก “ลิ่มเลือด-ตาย” หลังฉีด

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกว่า ในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่า 4.4 แสนคน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 120 กว่าล้านคน รักษาหาย 96.5 ล้านคน เสียชีวิตสะสม 2.6 ล้านคน ส่วนความคืบหน้าอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ล่าสุด รัฐบาลนอร์เวย์พบบุคลากรการแพทย์ 3 คน ทั้งหมดอายุต่ำกว่า 50 ปี เกิดอาการลิ่มเลือด เลือดออก และเกล็ดเลือดต่ำ หลังได้รับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา-มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ อาการโดยรวมน่าเป็นห่วง แต่เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับวัคซีน ขณะที่บริษัทแอสตราเซเนกาปฏิเสธให้ความเห็น ส่วนที่อิตาลี สำนักงานเวชภัณฑ์แห่งชาติ ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาลอตรหัส เอบีวี 2856 หลังพบทหาร วัย 43 ปี และตำรวจ วัย 50 ปี รวม 2 นาย เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน แต่ย้ำว่าจะดำเนินการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาลอตอื่นๆต่อไป ทั้งยังตรวจสอบไม่พบความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนเช่นกัน

ออกวีซ่าสำหรับคนรับวัคซีนจีน

ด้านสำนักงานกระทรวงต่างประเทศจีนในฮ่องกง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป รัฐบาลจีนจะออกวีซ่าสำหรับเดินทางเข้าออกประเทศจีน แก่ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในฮ่องกง เพื่อทำให้การไปมาหาสู่ระหว่างกันเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ แต่มีเงื่อนไขว่าชาวต่างชาติผู้ยื่นขอวีซ่าจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนของจีน หากได้รับการฉีดวัคซีนของประเทศอื่น จะยังต้องยื่นเอกสารการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับเอกสารประวัติการเดินทางตามปกติ แต่ทั้งนี้ รัฐบาลจีนมิได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ชาวต่างชาตินอกเกาะฮ่องกง จะยื่นขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปจีนในรูปแบบนี้ได้ด้วยหรือไม่