ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติบรรจุตำแหน่งข้าราชการให้บุคลากรสาธารณสุขปฏิบัติงานโควิด-19 จำนวน 45,684 ตำแหน่ง ล่าสุดพบว่ามีบุคลากรสาธารณสุขส่วนหนึ่ง มีคุณสมบัติครบแต่ชื่อตกหล่น ขณะที่การบรรจุตำแหน่งแบ่งออกเป็น 3 รอบ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะไม่ทันและอาจตกหล่นนั้น

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตามที่ ครม. มีมติบรรจุข้าราชการของบุคลากรสาธารณสุขภายใต้การปฏิบัติงานด้านโควิด-19 ซึ่งได้กรอบอัตรากำลัง 45,684 ตำแหน่งนั้น ที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการพิจารณาถึงแนวทางการแก้ไขในส่วนที่เป็นปัญหา เช่น กรณีมีตำแหน่งแต่ไม่มีตัวคน ต้องมาปรับเกณฑ์ใช้หลักการเดิม เพียงแต่ต้องมาพิจารณาโดยคำนึงถึงหลักการ 2 ข้อ คือ ผู้ปฏิบัติหน้างานกับผู้สนับสนุน และเรามีการเลื่อนการบรรจุข้าราชการในส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่มีความเหมาะสม มีการปฏิบัติหน้าที่หน้างาน โดยเดิมได้กำหนดระยะเวลาของการบรรจุรอบ 3 ช่วงเดือน พ.ย. เนื่องจากไม่มีเงินพอ ต้องใช้งบประมาณปี 2564

แต่การบรรจุข้าราชการรอบแรก สธ.ช้าไป 1 เดือน ประกอบกับมีเงินเหลือจ่ายที่เพียงพอเหลือจ่ายทำให้สามารถบรรจุได้เร็ว ที่ประชุมจึงมีมติให้เลื่อนการบรรจุรอบ 3 ให้เร็วขึ้น โดยรวมการบรรจุรอบ 3 เข้าไว้กับการบรรจุรอบ 2 และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเดือน ก.ย.นี้ รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ส่วนแต่ละกลุ่มสาขาวิชาชีพ หากไม่ได้อยู่ในสายงาน 24 สายงานตามมติ ครม. คงไม่สามารถบรรจุได้ และส่วนอื่นที่มีจำนวนมากกว่าอัตราที่มี ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลจะไปจัดการ โดยจะดูเกณฑ์ประเมินจะเป็นในเชิงรายละเอียด โดย อ.ก.พ. สธ. จะพิจารณากรอบใหญ่ แต่ให้ นโยบายชัดเจนว่า การได้รับการจัดสรรอัตราข้าราชการครั้งนี้ สธ.ต้องการสนับสนุนคนที่ปฏิบัติหน้างานสถานการณ์โควิด-19 และอยู่ในตำแหน่งการจ้างตามเกณฑ์ เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติ หลังจากนี้ก็จะดูว่า เมื่อบรรจุไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังมีขาดตกบางส่วน ก็ต้องมาดูในอัตราที่เราได้แต่ละปีตามกฎของ ก.พ.

...

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีคุณสมบัติครบแต่ตกหล่น และยังมีปัญหาการบรรจุข้าราชการทั้งที่เป็นผู้ปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ ดร.สาธิต กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ ผอ.บริหารงานทรัพยากรบุคคลของกระทรวงสาธารณสุขว่าให้สื่อสารให้ครบถ้วน นอกจากนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดีทุกคนต้องชี้แจงว่า หลักการอยากบรรจุทุกคน แต่ได้อัตรามาแค่นี้ ก็ต้องจัดสรรด้วยความเป็นธรรม ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการบรรจุ ก็ต้องได้รับคำตอบ หรือคำชี้แจงว่าไม่ได้เพราะสาเหตุใด แต่หากใครมีเรื่องทุกข์ใจและต้องการคำตอบให้มาถามทาง ผอ.บริหารงานทรัพยากรบุคคลของกระทรวงสาธารณสุข.