เหรียญมี 2 ด้านเสมอ...
บางเรื่องมันดูกระอักกระอ่วน ต้องเอาระเบียบข้อบังคับมาตรวจสอบดีที่สุด?
อย่างเรื่องข้อครหากรณีเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปลงที่วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ขณะมีการจุดประทัดแก้บนกว่า 3 ล้านนัด เพื่อแก้บน “ไอ้ไข่”
งานนี้คนเอาเรื่องไปปะติดปะต่อ กลายเป็นว่า นายตำรวจที่เอา ฮ.ไปลง มาแก้บนเอิกเกริก เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อกันไปโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง
พอไปสอบถามจุดเกิดเหตุ เจ้าของร้านประทัดชี้แจงว่า ประทัดที่เอามาจุดเป็นของนักธุรกิจชาวเกาหลีจุดแก้บนไอ้ไข่ ไม่ได้เกี่ยวกับ ฮ.ตำรวจที่มาลงแม้แต่น้อย!
แต่เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป มันเลยเถิดถึงการวิเคราะห์ว่า ตำรวจนายไหนนำ ฮ.ไปลง และมีเหตุจำเป็นอะไร? ขนาดไหน?
สืบสาวราวเรื่องทราบว่า ฮ.ลำดังกล่าว พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สูงมูลนาค ผบก.ทท.3 มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นำไปลงที่วัดเจดีย์ เพื่อเข้าพบเจ้าอาวาสและเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยเพื่อวางแผนรับมือนักท่องเที่ยว หลังเริ่มผ่อนปรนมาตรการโควิดระยะ 3
และที่ต้องใช้ ฮ.เดินทาง เพราะวันดังกล่าวมีหลายภารกิจในหลายจังหวัด...
หลังเป็นเรื่องดัง พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประเด็นการเดินทางไปตรวจราชการดังกล่าวภายใน 7 วัน
พร้อมสั่งย้าย พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สูงมูลนาค ผบก.ทท.3ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.บช.ทท.ขาดจากตำแหน่งเดิม!
เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกิดความเป็นธรรม โปร่งใส คลายข้อสงสัยให้ความกระจ่างแก่สังคม
งานนี้มีข้อครหาหลายกระทอก ที่สำคัญคือ เอา ฮ.ราชการไปได้ยังไง? เร่งด่วนแค่ไหน?
เพราะ ฮ.ขึ้นที แค่ค่าน้ำมันก็หลายตังค์ มันคุ้มกันหรือเปล่า?
...
สหบาท