แต่ก่อนเคยมีข่าว “รถสวมทะเบียน” วิ่งเกลื่อนเมือง มีหลายคนถูกนำทะเบียนรถไปสวมรถคันอื่นเพื่อเอาไปใช้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขับรถเร็ว ขับรถฝ่าไฟแดง ถูกกล้องตำรวจส่งใบสั่งทางไปรษณีย์มาถึงบ้านหลายครั้ง บางคนถูกใบสั่งเป็น 10-20 ใบ ส่งมาเรียกเก็บเงินที่บ้าน ทั้งที่ไม่เคยใช้รถขับไปแถวนั้นเจ้าของรถตัวจริงต้องวิ่งไปแจ้งความถอนเรื่องกับต้นสังกัดที่ออกใบสั่ง ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และรถคันที่ถูกใบสั่งไม่ใช่รถของตัวเอง พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. เห็นปัญหาความเดือดร้อนของคนที่ถูกสวมทะเบียนโดนใบสั่งค่าปรับและมีโอกาสกระทบกระทั่งระหว่างตำรวจที่ออกใบสั่งกับเจ้าของรถที่ถูกสวมทะเบียนให้ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ทล. จัดวางระบบข้อมูล “รถสวมทะเบียน” เพื่อตามจับผู้ที่ครอบครอง นำข้อมูลรถที่ถูกสวมทะเบียน มีเรื่องร้องเรียนมาใส่ไว้ในถังข้อมูลขนาดใหญ่ของตำรวจทางหลวงส่งเข้าระบบกล้องตรวจจับผู้ทำผิดหากรถที่มีคนนำมาสวมทะเบียนวิ่งผ่านเครื่องจะเตือนขึ้นทันที เป็นอีกทางให้ตำรวจทางหลวงช่วยสกัดจับรถ นำมาขยายผลหาต้นตอของกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมขบวนการสวมแผ่นป้ายทะเบียนรถระบบใช้ได้เห็นผลทันที เมื่อรถยนต์ทะเบียน 2กข 2947 กรุงเทพมหานคร รถสวมทะเบียนถูกใบสั่งของตำรวจทางหลวงสระบุรี 20 ใบ เจ้าของตัวจริงร้องขอให้ตำรวจทางหลวงช่วยจับ รถคันนี้วิ่งผ่านกล้องที่ อ.สีคิ้ว ของตำรวจทางหลวงนครราชสีมา พ.ต.ต.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา เห็นข้อความเตือนแจ้งไปยังตำรวจทางหลวงกลางดง ให้ ด.ต.ปฏิกรณ์ เอี่ยมยัง และ ด.ต.นภดล ฤทธานันท์ ออกไปตรวจสกัดจับตำรวจทางหลวงนครราชสีมาใช้เวลา 1 ชม. เฝ้าติดตามพบรถวิ่งผ่านช่วงกลางดง จึงไล่ติดตามจับกุม ก่อนประสาน พ.ต.ต.อภิชน ขันกา สารวัตรตำรวจทางหลวงสระบุรี ให้ช่วยสกัดจับได้ที่ อ.ทับกวาง จ.สระบุรีสอบถามคนขับรับสารภาพว่า ได้ซื้อรถยนต์คันนี้มาจากนายตุ๊ก ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ในราคา 165,000 บาท ช่วงเดือน ก.ค.2561 ตำรวจพบว่า แผ่นป้ายทะเบียน แผ่นป้ายภาษี และสำเนารายการจดทะเบียนไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้ แจ้งข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” นำส่งพนักงานสอบสวนเป็นความใส่ใจของตำรวจทางหลวงที่ลงมาแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่อง “รถสวมทะเบียน” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม เรื่องนี้ทำกันเป็นขบวนการ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐบางคนเกี่ยวข้องตำรวจทางหลวงแก้ที่ปลายเหตุต้นเหตุของปัญหา “รถสวมทะเบียน” เกลื่อนเมือง คงจะไม่เกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ ถ้าหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องทะเบียนรถมีมาตรการเข้มงวดกวดขันกันจริงจัง และหาทางแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาการสวมทะเบียนรถ ไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่บางส่วนรู้เห็นเป็นใจ.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th