ในการพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2562 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ ก่อนเริ่มต้นฤดูเพาะปลูก
หลังจากพระยาแรกนา ประกอบ พิธีแรกนาเสร็จแล้ว พราหมณ์นำสิ่งของเสี่ยงทาย 7 สิ่ง ประกอบด้วย ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่ว งา เหล้า น้ำ และหญ้า ไปเลี้ยงพระโคเพิ่ม-พระโคพูล
ปรากฏว่า ผลการเสี่ยงทายพระโคกินข้าว พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
พระโคกินน้ำ และหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอควร พร้อมด้วยธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร อุดมสมบูรณ์ดี
ส่วนการที่พระยาแรกนา เสี่ยงทายผ้าสำหรับนุ่งในการประกอบพิธีพืช มงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ได้ ผ้านุ่ง 5 คืบ โหรหลวงให้คำพยากรณ์ว่า
น้ำสำหรับปีนี้ จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
คำทำนายจากสิ่งของเสี่ยงทายที่ออกมา ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีแก่บรรดาพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา กระดูกสันหลังของชาติ อาชีพหลักของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
ทำให้เกิดขวัญกำลังใจ ในการเริ่มต้น ไถ หว่าน ปัก ดำ ในฤดูเพาะปลูกของปีนี้
แต่ขณะเดียวกัน จากการที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ไว้ว่า ฤดูร้อนปีนี้มาเร็วและจะนานกว่าทุกปี จากปรากฏการณ์เอลนีโญ
ประกอบกับข้อมูลช่วงปลายเดือน เม.ย. น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 36 เขื่อนทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำ รวม 41,730 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุกักเก็บ
โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำใช้การได้ 5,620 ล้านลูกบาศก์เมตร
แม้จะเพียงพอต่อการใช้นํ้าตลอดช่วงฤดูแล้งและรองรับภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือน มิ.ย.–ก.ค. แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่อปัญหาภัยแล้ง
ท่ามกลางสภาพอากาศปัจจุบัน หลายพื้นที่ยังเผชิญความร้อนจากฤดูร้อนที่ยาวนานกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหาภัยแล้งรุนแรง กระทบต่อพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานเป็นบริเวณกว้าง
อย่างล่าสุด ในพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ จ.เชียงราย อ่างเก็บน้ำหนองหลวง ขนาดกว่า 9 พันไร่ ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอเวียงชัย น้ำแห้งจนหญ้าขึ้น ไม่สามารถทำน้ำประปาได้ ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย ลำน้ำปาว น้ำลดจนตื้นเขิน เกิดปัญหาแย่งน้ำกันทำนา เสี่ยงต้นข้าวยืนต้นตาย
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ประเทศไทยตอนบนบางพื้นที่ยังมีอากาศร้อนจัด และ 11–14 พ.ค.นี้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
โดนภัยแล้งกระหน่ำ ตามด้วยพายุฤดูร้อนถล่มซ้ำ พืชผลเสียหาย เกษตรกรชาวนาชาวไร่ จึงได้แต่ชีช้ำกะหล่ำปลีไปตามๆกัน
...
ดังนั้น “ครม.ลุงตู่” ที่ยังนั่งเก้าอี้อยู่ ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยา แบบด่วนจี๋
อย่าปล่อยให้เกษตรกรต้องเช็ดน้ำตารอไปจนถึงรัฐบาลชุดใหม่เลยนะคุณโยม!!!
“พ่อลูกอิน”