ภาคเหนือ อีสาน นิยมปลูกข้าวเหนียว แต่ข้าวเหนียวพันธุ์ดั้งเดิม ต้นสูงโค่นล้มง่าย ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตยาก ผลผลิตได้เพียง 600-700 กว่า กก. แถมเสี่ยงเสียหายจากโรคใบไหม้ และขอบใบแห้ง โรคยอดฮิตในข้าวเหนียวศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน วิจัยพันธุ์ข้าวมุ่งเน้นไปที่การต้านทานโรค จนประสบความสำเร็จได้ข้าวเหนียวพันธุ์ใหม่ น่าน 59...ที่พัฒนาพันธุ์มาจากข้าวเหนียว กข 6“การพัฒนาพันธุ์ข้าวเหนียวครั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และไบโอเทค ได้ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ ด้านโมเลกุลเครื่องหมายคัดเลือก และจำแนกสายพันธุ์ข้าว เข้ามาปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่ปี 2546 มาประสบความสำเร็จในปี 2559 ได้ข้าวเหนียวพันธุ์ใหม่มาทั้งหมด 20 สายพันธุ์ และเมื่อนำไปปลูกทดสอบเปรียบกับพันธุ์ข้าวชนิดอื่นๆ ซิวแดง, ธัญสิริน, หอมทอง, ก่ำเหนียว, ก่ำเจ้า, แม่โจ้, กข 6 และ กข 18 ปรากฏว่า ข้าวเหนียวสายพันธุ์ใหม่ เบอร์ 17 และ 18 ให้ผลผลิตสูงกว่า หอมกว่า และต้านทานโรคได้ดี จึงให้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า น่าน 59” ดร.บุญรัตน์ จงดี หัวหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อความมั่นคงและยั่งยืน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. บอกถึงที่มาของข้าวเหนียวพันธุ์ใหม่...ที่มีความต้านทานโรคไหม้ในข้าวเหนียวได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเชื้อ และต้านทานเชื้อโรคขอบใบแห้งได้ 11 กลุ่ม จากเชื้อทั้งหมดที่มีอยู่ 13 กลุ่มนอกจากทนต่อเชื้อโรคได้กว้างขวางมากขึ้น น่าน 59 ยังมีความหอมกว่า กข 6 ต้นเตี้ยกว่า กข 6 ประมาณ 1 ฟุตที่สำคัญยังให้ผลผลิตเฉลี่ย 800-1,000 กก. ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของสภาพพื้นที่ จากการนำไปทดลองปลูกในหลายพื้นที่ของ จ.น่าน โดยเฉพาะแปลงของกลุ่มชาวนา บ.บุญเรือง ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน พบว่า ลำต้นข้าวเหนียวยังแข็ง ทนทาน ไม่หักล้ม สามารถทนทานต่อแรงลมได้ดี ทำให้ใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวแทนการใช้แรงงานคนได้ ข้าวแตกกอดี ให้ผลผลิตไร่ละ 1 ตัน เมล็ดข้าวเรียว หลังขัดสีไม่แตกหัก มีคุณภาพการหุงต้มดี และหอม รสชาติดี เหนียวนุ่มคล้ายพันธุ์ กข 6ชาวนาสนใจข้าวเหนียว น่าน 59 ติดต่อได้ที่ 08-6118-3921.กรวัฒน์ วีนิล