นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีสภาเภสัชกรรมออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า อย.ได้หารือร่วมกับสภาเภสัชกรรม ชมรมเภสัชกร ชมรมเภสัชสาธารณสุขแห่งประเทศไทย และสมาคมเภสัชสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจในร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ ใน 2 ประเด็น คือ 1.กรณีร้าน ขย. 2 ที่ปัจจุบันอนุญาตให้เปิดได้ 2,800 ร้านทั่วประเทศ แต่ยังเกิดความไม่เข้าใจในการเขียนมาตรา 24 (3) ที่กำหนดให้คนที่ผ่านการอบรมกับ อย.สามารถขายปลีกยาที่ไม่ใช่ยาตามใบสั่งและยาที่ต้องจ่ายโดยใบสั่งได้ และมาตรา 25 (6) เรื่องใบอนุญาตการขายปลีกยาที่ไม่ใช่ยาตามใบสั่งและยาที่ต้องจ่ายโดยใบสั่งได้ ไว้ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ร้านสะดวกซื้อ แต่วิธีเขียนและการตีความของกฎหมายทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ดังนั้น จึงเห็นพ้องกันว่าให้เขียนไว้ในบทเฉพาะกาลให้ชัดเจน และอาจตัดมาตรา 24 (3) และ 25(6) ออกเพื่อให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เพื่อให้ร่างกฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์ในทิศทางที่เห็นพ้องต้องกัน และ 2.เรื่องการจ่ายยาก็จะยึดตามมาตรา 22 (5) ที่ให้ผู้จ่ายยามี 3 วิชาชีพ คือ แพทย์ ทันตแพทย์และสัตวแพทย์

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ เพราะร้านสะดวกซื้อสามารถขายได้แค่ยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น.