ช่วงนี้ร้อนแรงไม่มีใครเกิน...
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่เมื่อปี 2559 เพื่อเร่งพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบโดยเฉพาะ
อย่างเมื่อวันก่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดีดังวันเดียว 2 คดี...
ตัดสินลงทัณฑ์จำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดังกว่า 13 ปี และตัดสินจำคุก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ คดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ 2 ปี
เรียกว่าเดินหน้าพิจารณาคดีเอาผิดให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทำให้คนที่คิดจะทำผิดต้องกลับมาเอาเท้าก่ายหน้าผากคิดใหม่ให้จงหนัก!
ระหว่างนี้เห็นการปฏิบัติหน้าเชิงรุกของหน่วยงานปราบปรามการทุจริตมากขึ้น อย่างวันก่อน เจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ เจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ลงมาลุยเอง
วางแผนจับกุม นายอินใจ วงศ์รัตนเสถียร อายุ 53 ปี พลังงานจังหวัดพิจิตร ได้คาหนังคาเขา!
หลังผู้ทำธุรกิจค้าน้ำมันหลายรายเข้าร้องเรียนว่า ถูกเรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตขนส่งและบรรทุกน้ำมันเป็นเงิน 1 หมื่นบาท
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เคยเรียกรับเงินแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว...
ถ้าคนไม่อยู่ในธุรกิจน้ำมันคงไม่รู้ว่าจะขนส่งน้ำมันยังต้องขอใบอนุญาต
ขอใบอนุญาตที...จ่ายที...อย่างนี้คงไม่ไหว
แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่าเงินของกลางเป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่ “ส่วย” ที่เรียกรับ...
งานนี้เชื่อว่าระดับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.คงไม่หมู...ไม่ซีร็อกซ์เงินของกลางลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองพิจิตร ก่อนเอาไปจ่ายส่วยหรอกนะครับ
ไม่อย่างนั้นจะเป็นช่องทางสู้คดีของผู้ต้องหาได้
นี่เป็นอีกตัวอย่างของการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่มีอยู่ทุก หย่อมหญ้า...
...
ถึงไม่ใช่คดีใหญ่ เงินที่เรียกรับระดับหมื่นบาท แต่ทำให้เห็นว่าการเรียกรับผลประโยชน์มีอยู่จริง
ถ้าไม่รีบเร่งปราบปรามให้น้อยลงหรือหมดไป ประเทศไทยคงจะเดินวนอยู่กับที่แบบนี้แหละ?
สหบาท