วาเลรี ฌิสการ์ เดสแต็ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นั่งคุยกับเฮล์มุต ชมิดท์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แล้วก็มีความคิดว่า เราประเทศใหญ่ทั้งหลายควรจะมาชุมนุมสุมหัวกันตั้งกลุ่มเพื่อหารือเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อ และน้ำมันแพง

พอคิดว่าจะตั้งกลุ่มก็นำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับผู้นำอีก 4 ประเทศ คือ อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐฯ เมื่อเห็นพ้องต้องกัน แล้วก็ตั้งกลุ่ม G 6 ใน ค.ศ.1975 ปีถัดมาก็เชิญแคนาดาเข้าร่วมกลายเป็น G 7 ค.ศ.1977 เริ่มเชิญสหภาพยุโรปเป็นผู้เข้าร่วมถาวรโดยไม่มีสิทธิออกเสียงเท่าสมาชิกหลัก

ค.ศ.1997 รัสเซียก็ถูกเชิญเข้าร่วมกลุ่มนี้อย่างเป็นทางการ จึงเปลี่ยนสภาพเป็น G 8 อีก 7 ปีต่อมา รัสเซียมีปัญหาเรื่องผนวกไครเมีย เรื่องนี้นำความโมโหโกรธาให้กับบางประเทศของกลุ่ม G 8 จึงลงมติระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซีย แต่ไม่มีการขับออกอย่างเป็นทางการ

รัสเซียบอกงั้นข้าฯขอลาออกเองดีกว่า กลุ่ม G 8 ก็เลยกลับมา เป็น G 7 เหมือนเดิม ตั้งแต่ 2020s จนถึงปัจจุบัน G 7 มีบทบาทเกี่ยวกับ เรื่องของโควิด-19 สงครามรัสเซีย-อูเครน และความมั่นคงไซเบอร์

การประชุมสุดยอด G 7 ครั้งที่ 51 ที่อุทยานคานานาสคิส รัฐอัลเบอร์ตา แคนาดา ระหว่าง 15-17 มิถุนายน 2025 โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีแล้วพูดว่า...

“The G7 used to be the G8. Barack Obama and a person named Trudeau didn’t want to have Russia in. And I would say that was a mistake because you wouldn’t have a war right now”

“G 7 เคยเป็น G 8 บารัค โอบามา และไอ้คนที่ชื่อทรูโด ไม่ต้องการให้รัสเซียเข้าร่วม ผมขอบอกว่า อ้า นั่นแหละคือความผิดพลาด เพราะ (ถ้าตอนนั้นคุณไม่เอารัสเซียออก ตอนนี้...) เราคงไม่ต้องเจอกับสงคราม (รัสเซีย-อูเครน)”

...

วิสัยทัศน์ของทรัมป์ยังเลอเลิศประเสริฐศรี ใครฟังแล้วต้องเคลิ้ม ว่าใต้สมองของผู้นำท่านนี้ใฝ่สันติสุขจุกอกนกฮูกกระดูกหัก ด้วยการ ที่แกพูดว่า “Maybe it should be the G9. We’ll see. Maybe China too, at some point.” อาจเป็น G 9 ก็ได้ เดี๋ยวค่อยมา ดูกัน บางทีจีน (ก็อาจจะถูกเชิญให้ร่วมด้วย) ในสักวันหนึ่ง

ถ้าพูดออกจากใจ แสดงให้เห็นว่าทรัมป์ไม่สนใจเรื่องลัทธิอุดมการณ์ เพราะแนวคิดและหลักปฏิบัติของสมาชิก G 7 ไม่ชอบจีน การกระดิกพลิกตัวของกลุ่ม G 7 มักอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจีนในประเด็นเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชน

ทันทีที่ทรัมป์พูดจบ ฟรีดริช เมิร์ช นายกรัฐมนตรีเยอรมนีถึงกับงัวเงียหัวเสีย อ้า ไม่เห็นด้วยที่จะเอารัสเซียเข้ามาอีก นโยบายของเยอรมนี เราต้องการที่จะกดดันอิหร่านและรัสเซียในประเด็นอูเครน ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา

เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ค้านทันทีว่า อ้ากระผม พอใจกับโครงสร้างปัจจุบันของ G 7 (จะไปเอารัสเซียเข้ามาอีกทำไม) สิ่งที่ G 7 ควรทำก็คือ ขยายความร่วมมือกับธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และพันธมิตรอื่นๆ ขยายความร่วมมือ ไม่ใช่ขยายโครงสร้าง (ไม่เพิ่มจำนวนสมาชิก)

เอ็มมานูแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไม่ได้ขึ้นเวทีวิจารณ์ ตรงๆ แต่ดูทรงการพูดคุยทั่วไป แกต้องการแค่ร่วมมือกับพันธมิตร และไม่สบายใจกับนโยบายของกลุ่ม G 7 ที่กระโดดไปกระโดดมา (อาจจะหมายถึง เดี๋ยวระงับ เดี๋ยวเชิญสมาชิกกลับเข้ามาใหม่)

นายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ ซึ่งบุคลิกภาพเป็นผู้ใหญ่ ใจเย็นเห็นสัจธรรมดำดิ่งนิ่งสนิท พยายามพูดจารักษาบรรยากาศสร้างสรรค์ ไม่ให้การประชุม (ที่มีการนำประเด็นเชิญรัสเซียกับจีน) นำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันในหมู่สมาชิก คาร์นีย์บอกว่า อ้า ท่าน ทั้งหลาย เรามาสนใจไฟป่า โครงข่ายแร่ และความมั่นคงด้านพลังงาน ดีกว่าเรื่องที่จะไปขยงขยายสมาช้งสมาชิก (แบบที่ทรัมป์เสนอ)

ชิเกรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นั่งเงียบๆ ไม่ชี้โบ๊ชี้เบ๊ตาม เพื่อนสมาชิก แต่การคาดเดาของผู้คนที่ตามนโยบายของญี่ปุ่นบอกว่า นายกฯญี่ปุ่นน่าจะสนใจด้านขยายความร่วมมือและการแก้ไขปัญหาภูมิภาคมากกว่า

ฟังการเสนอของทรัมป์ในครั้งนี้แล้วก็มีความเชื่อว่า ถ้ามองเข้าไปในลูกตาของปูตินที่จ้องมองทรัมป์ จะไม่เห็นว่ามีก้อนขี้ตา ทว่าเห็นก้อนมิตรภาพ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com 

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม