ศูนย์วิจัยพิว + สถาบันนโยบายการย้ายถิ่น + กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ประมาณตัวเลขผู้ลักลอบเข้าเมืองรัฐแคลิฟอร์เนียเอาไว้ใกล้เคียงกันว่า “ก่อน ค.ศ.2024 มี 2.2-2.5 ล้าน ประชากรแคลิฟอร์เนียมี 40 ล้านคน หมายความว่า 1 ใน 6 ของชาวแคลิฟอร์เนียเป็นชาวต่างชาติที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง”

ผู้ลักลอบเข้าเมืองมาจากเม็กซิโกและหลายชาติในอเมริกากลาง จีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม แอฟริกา และยุโรปตะวันออก ผู้ลักลอบเข้าเมืองพวกนี้เป็นคนงานตัวจริงเสียงจริงที่ได้รับค่าแรงต่ำในภาคเกษตร ก่อสร้าง ทำความสะอาด และร้านอาหาร เป็นพวกที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนีย

ลูกของผู้ลักลอบเข้าเมืองจำนวนไม่น้อยเรียนในระบบโรงเรียนของรัฐ รัฐแคลิฟอร์เนียให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ไม่มีเอกสารแสดงความเป็นพลเมือง แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่คำนึงสิทธิมนุษยชนซึ่งขัดกับนโยบายของรัฐบาลกลางในด้านการไล่จับผู้ลักลอบเข้าเมืองและส่งกลับ รัฐบาลกลางของทรัมป์ตัดงบรัฐที่ให้การคุ้มครองผู้ลี้ภัย แคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในบรรดารัฐที่ถูกตัดเป็นประจำ

คนที่ผมชื่นชมมากคือผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียผู้มีจุดยืนให้แคลิฟอร์เนียเป็น ‘รัฐที่ปลอดภัยสำหรับผู้อพยพ’ แต่ทรัมป์ไม่ยอม ทรัมป์บอกว่าจะไม่ให้คนต่างด้าวควบคุมเมืองในสหรัฐฯ ทรัมป์สั่งกองกำลังพิทักษ์ชาติของสหรัฐฯ (กองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งเป็นกองกำลังสำรองกึ่งทหารกึ่งพลเรือน) เข้าปราบ

ขณะที่ผมเขียนข้อความนี้คือเวลา 14.00 น. ของวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2025 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกจับผู้อพยพในโรงเรียนและศูนย์พักพิง นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย (อดีตนายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโก) บอกว่าทรัมป์ใช้กองกำลังเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำลายหลักสิทธิมนุษยชน และประกาศว่าจะฟ้องทรัมป์ในข้อหาใช้กองกำลังผิดกฎหมาย

...

เสียงคนที่สนับสนุนสิทธิมนุษยชนทั่วโลกตะโกนก้องร้องสนับสนุนผู้ว่าฯนิวซัม ผู้ที่มีจุดยืนและทัศนคติทางการเมืองตรงกันข้ามกับทรัมป์ นิวซัมเป็นผู้นำรัฐคนแรกในสหรัฐฯที่อนุญาตให้มีการแต่งงานเพศเดียวกันได้ในซานฟรานซิสโก มีจุดยืนทางการเมืองเสรีนิยม สนับสนุนกลุ่มหลากหลายทางเพศ ให้สิทธิในการทำแท้ง สนใจสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือให้สิทธิแก่ผู้อพยพ

เห็นคลิปการล้อมจับมนุษย์ด้วยกันของรัฐบาลสหรัฐฯแล้วเศร้าใจครับ ไม่นึกว่าจะมีประเทศไหนในโลกนี้ที่ใช้กองกำลังปฏิบัติการด้วยอาวุธครบมือต่อผู้อพยพที่ไม่มีทางสู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่าง 6-9 พฤษภาคม 2025

ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วัน 4 มิถุนายน 2025 นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งไปแสดงความไว้อาลัยแก่นักศึกษาจีนที่เสียชีวิตจากการปราบปรามโดยรัฐบาลที่เทียนอันเหมินครบ 36 ปี ไปสดุดีความกล้าหาญของผู้ประท้วง และตำหนิรัฐบาลจีนกรณีการปราบปรามประชาชน

ผมเพิ่งเขียนเรื่องนายรูบิโอลง นสพ.ไทยรัฐเมื่อ 6 มิถุนายน 2025 อ้าวเฮ้ย คนที่ด่าเขา กลับกระทำโหดเหี้ยมมากกว่า ตะโกนด่าชาวบ้านทั่วไป แต่ประเทศตัวเองกลับมีปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงมากที่สุดประเทศหนึ่ง

ในยุคแรกของการเป็นประธานาธิบดี ทรัมป์เคยแม้แต่แยกเด็กออกจากครอบครัวที่ชายแดนเม็กซิโกให้ไปอยู่ในศูนย์กักกันที่มีสภาพเลวร้ายจนทุกคนที่ไปเห็นต้องเบือนหน้าหนี เจ้าหน้าที่ขององค์การนิรโทษกรรมสากล ได้ไปเห็นศูนย์กักกันของทรัมป์แล้วก็สรุปว่า รัฐบาลอเมริกันละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลสหรัฐฯชอบใช้ไปกดดันประเทศอื่น

ทรัมป์กับรัฐบาลอิสราเอลมีสิ่งที่คล้ายกันหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านการใช้กำลังทหารกับกลุ่มคนที่ไม่มีอาวุธ ไม่ว่าทรัมป์หรือเนทันยาฮูมักจะใช้สื่ออธิบายการกระทำอันโหดเหี้ยมของตนเองต่อประชาคมโลก ว่าพวกที่ถูกปราบปรามเป็นพวกละเมิดความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งที่ชาวกาซาถูกปิดล้อมไม่ให้สามารถหนีภัย ขาดอาหาร น้ำ ไฟฟ้า และยารักษาโรค ทรัมป์เองนอกจากชอบพรากลูกจากพ่อแม่แล้ว ยังปฏิเสธไม่ให้ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นเข้าถึงระบบยุติธรรม

สหรัฐฯใช้การสื่อสารที่ตนได้เปรียบปฏิบัติการจิตวิทยาลวงโลก วันนี้หน้ากากสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ หลุดแล้ว.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com 

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม