Hands Off! ความหมายตรงตัวคือ ‘อย่าแตะต้อง!’ หรือ ‘อย่ายุ่ง!’ ถูกนำมาเป็นชื่อการประท้วงต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด 5 เมษายน 2025 เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่ากลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดแทรกแซง ตัดลด หรือทำลายสิทธิ เสรีภาพ หรือสวัสดิการของประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องการปลดพนักงานภาครัฐ ตัดงบสาธารณสุข การศึกษา และการใช้เทคโนโลยีสอดแนมพลเมือง

การประท้วง Hands Off! เกิดขึ้นในทั้ง 50 รัฐของสหรัฐฯ และในเมืองใหญ่ต่างๆทั่วโลก ทั้งเบอร์ลินของเยอรมนี ลอนดอนของอังกฤษ ปารีสของฝรั่งเศส โรมของอิตาลี ฯลฯ

จากการประเมินของหน่วยงานต่างๆ มีผู้ประท้วงทั่วสหรัฐฯหลายแสนคน เฉพาะในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีผู้ประท้วงรวมกันที่อุทยานเนชั่นแนล มอลล์หลายหมื่นคน ขณะที่เมืองอื่นๆก็มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก อย่างที่ซีแอตเทิลประมาณ 14,000 คน เดนเวอร์ประมาณ 8,000 คน แม้แต่ที่ชิคาโกก็มีผู้ประท้วงหลายพันคน

การประท้วงทั่วสหรัฐฯครั้งใหญ่สะท้อนถึงความไม่พอใจอย่างแรงต่อการบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ และนโยบายของอีลอน มัสก์ ที่ใช้มาตรการไล่ออกข้าราชการเพื่อยกเครื่องรัฐบาลและขยายขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดี ซึ่งกระทบต่อบริการสาธารณะและสิทธิของประชาชน

หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่ถึง 3 เดือน ทรัมป์และมัสก์ตัดงบประมาณของรัฐบาลกลาง ทั้งยกเลิกเงินอุดหนุนด้านสุขภาพกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การปลดข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ การลดงบประมาณของสถาบันทางวัฒนธรรม ฯลฯ

กุมภาพันธ์ 2025 รัฐบาลทรัมป์ปลดพนักงานทดลองงานกว่า 2.4 หมื่นคน ซึ่งเป็นพนักงานที่มีอายุงานน้อยกว่าหนึ่งถึงสองปี จำนวนไม่น้อยโจมตีว่าไม่เป็นธรรมและอาจผิดกฎหมาย

นอกจากนั้น รัฐบาลของทรัมป์ยังสั่งให้หน่วยงานรัฐบาลกลางจัดทำแผนการลดจำนวนพนักงาน รวมไปถึงการปิดหน่วยงานบางแห่งและยกเลิกโครงการต่างๆ แถมยังมีการใช้วิธีการสแกนบัตรพนักงานเพื่อแจ้งการปลดพนักงาน ซึ่งเป็นวิธีที่เคยใช้ในบริษัทเทสลามาก่อนอีกด้วย

...

รัฐบาลทรัมป์ตัดงบประมาณและปรับโครงสร้างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ CDC 14 กุมภาพันธ์ 2025 มีการปลดพนักงานของ CDC ประมาณ 1,300 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ปีแรกของโครงการ Epidemic Intelligence Service ทำให้กระทบต่อ CDC ในการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ

ในช่วง 2 เดือนแรกของ ค.ศ.2025 มีการปลดพนักงานของรัฐบาลกลางและผู้รับจ้างประมาณ 280,253 คน ครอบคลุม 27 หน่วยงาน เฉพาะเดือนมีนาคม 2025 มีการประกาศปลดพนักงานรวม 275,240 คน โดยในจำนวนนี้ 216,670 คนมาจากการดำเนินการของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE

การปลดพนักงานภาครัฐจำนวนมากภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ เพียงไม่กี่สัปดาห์ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประชาชนคนอเมริกันในหลายด้าน ที่สำคัญที่สุดคือการให้บริการสาธารณะลดลง ทันทีที่ทรัมป์ปลดพนักงานกว่า 1 หมื่นคนในกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้โปรแกรมสุขภาพสำหรับแม่และเด็กถูกยกเลิกหรือปรับลดลงอย่างมาก ทำให้ชุมชนที่เปราะบางขาดการสนับสนุนที่จำเป็น

นอกจากนั้น การลดจำนวนพนักงานสำนักงานประกันสังคมสหรัฐฯ (SSA) ทำให้เกิดความล่าช้าในการให้บริการ ทั้งเว็บไซต์ล่ม เวลารอสายโทรศัพท์ยาวนานขึ้น และมีพวกหลอกลวงเพิ่มมากขึ้น สำหรับกรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) ก็เกิดการปั่นป่วนไม่แพ้กัน เพราะการลดจำนวนพนักงานส่งผลให้ความสามารถในการตรวจสอบและกฎหมายบังคับใช้กฎหมายภาษีลดลง กระทบโดยตรงต่อรายได้รัฐบาล

จากนี้ต่อไป ความปลอดภัยและการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติของสหรัฐฯก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะทรัมป์สั่งปลดพนักงานในสำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการพยากรณ์อากาศและเตือนภัยล่วงหน้า ทำให้คนอเมริกันเสี่ยงต่อภัยพิบัติมากขึ้น

การปลดพนักงานภาครัฐทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นได้รับผลกระทบโดยตรง จากที่เคยมีรายได้จับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ทันทีที่ตกงาน รายได้สูญหายก็ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลต่อธุรกิจและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่ไปด้วย

การประท้วงครั้งนี้ไม่เฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการตัดงบและปลดพนักงานภาครัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณชัดเจนว่าประชาชนจำนวนมากไม่ยอมรับนโยบายรัฐบาลที่เน้นประสิทธิภาพภาครัฐ เน้นเรื่องกำไร ขาดทุน แต่กลับละเลยความมั่นคงของประชาชน

นี่คือจุดเริ่มต้นของแรงต้านที่อาจจะใหญ่จนทรัมป์ต้านไม่อยู่ในอนาคต.


นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม