รัฐบาลไต้หวันรับข่าวเศร้าคล้อยหลังผลการเลือกตั้งได้ข้อสรุปว่าประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันที่จะรับตำแหน่งในเดือน พ.ค. นี้ คือนายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวัน จากพรรครัฐบาลประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค. รัฐบาลชาติหมู่เกาะนาอูรู ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีน (ชื่อทางการของไต้หวัน) พร้อมขอประกาศยอมรับสาธารณรัฐประชาชนจีน ยอมรับหลักการจีนเดียว และหวังว่าจะฟื้นความสัมพันธ์กับจีนอย่างเต็มรูปแบบเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณรัฐและประชาชนนาอูรู
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การประกาศตัดความสัมพันธ์ดังกล่าวส่งผลให้หลงเหลือประเทศและเขตปกครองที่ยังคงสถานะความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวันเพียง 12 แห่ง ประกอบด้วยหมู่เกาะพาเลา มาร์แชล ไอแลนด์ส ตูวาลู เฮติ เซนต์วินเซนต์ เกรนาดีนส์ กัวเตมาลา เบลิซ เซนต์คิตส์ แอนด์ เนวิส ปารากวัย เซนต์ลูเซีย โฮลีซี (เขตปกครองคริสต์โรมันคาทอลิก) และเอสวาตินี อย่างไรก็ตาม นาอูรูซึ่งเริ่มสัมพันธ์การทูตกับไต้หวันในปี 2523 เคยตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันมาแล้วเมื่อปี 2545 และหันไปยอมรับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จนถึงปี 2548 ก่อนกลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์การทูตกับไต้หวันรอบใหม่
ด้านนายเถียน จุงกวาง รมช.ต่างประเทศไต้หวัน หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่า ถูกรัฐบาลนาอูรูเรียกร้องเงินสนับสนุนหรือไม่ แต่ระบุว่ารัฐบาลจีนเคยมีประวัติ “เล่นใหญ่” ที่ไม่ได้ส่งผลดีแก่เศรษฐกิจของประเทศนั้นๆตามที่พูด ขณะที่สื่อการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า รัฐบาลไต้หวันเคยกล่าวหารัฐบาลฮอนดูรัส ในภูมิภาคอเมริกากลางว่า ขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไต้หวันกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 72,000 ล้านบาท แต่หลังจากชั่งน้ำหนักแล้ว จึงประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน เมื่อเดือน เม.ย. 2566 และหันไปซบอกจีน
...
กระนั้น สำนักข่าวต่างประเทศระบุด้วยว่า รัฐบาลไต้หวันจับสัญญาณได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ หลังรัฐบาลนาอูรูเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีผ่านกระบวนการลงมติไม่ไว้วางใจ และประธานาธิบดีคนใหม่ นายเดวิด อาแดง ได้แสดงท่าทีวกไปวนมาระหว่างการต้อนรับตัวแทนจากรัฐบาลไต้หวัน แต่ก็ไม่ทันตั้งตัวต่อการประกาศตัดความสัมพันธ์ เนื่องจาก 1 วันก่อนหน้านี้ รัฐบาลนาอูรูได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีต่อรัฐบาลไต้หวันที่จัดการเลือกตั้งวันที่ 13 ม.ค. ได้อย่างราบรื่น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่