“เลอพงษ์ ซาร์ยีด” นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน หนึ่งในทีมเจรจาช่วยเหลือตัวประกัน ไทย เผยข่าวดีกลุ่มฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกัน 50 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทย 25 คน แต่ยังไม่ระบุจะปล่อยจุดไหนอย่างไร ส่วนศพแรงงานไทยถูกส่งกลับคืนครอบครัวอีก 5 ศพ อิสราเอลเปิดภาพโชว์ชาวโลก พบหลักฐานกลุ่มฮามาสเจาะอุโมงค์ในโรงพยาบาลใช้เป็นศูนย์บัญชาการสู้รบ พบอาวุธยุทโธปกรณ์การทำสงครามจำนวนมากและยังพบภาพทหารหญิงอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกัน กาตาร์ขออิสราเอลหยุดยิง 3 วัน แลกกับการปล่อยตัวประกันของกลุ่มฮามาสและให้อิสราเอลปล่อยนักโทษหญิงกับเยาวชนชาวปาเลสไตน์ แต่อิสราเอลเมินข้อตกลง

ร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตในสงครามอิสราเอล-ฮามาส ถูกส่งกลับภูมิลำเนามาอีก 5 ราย โดยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบิน LY 081 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 16 พ.ย. มีนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายอารี ไกรนรา เลขานุการ รมว.แรงงาน และคณะร่วมรับร่างและวางพวงหรีดแสดงความอาลัยศพแรงงานไทยทั้ง 5 รายที่ถูกส่งกลับมาชุดนี้ คือ นายเทียนชัย ยอดทองดี นายไชยา รักษานนท์ นายศักดิ์สิทธิ์ จำปาสิม นายสมชัย แซ่ย่าง และนายจักรพันธ์ เดี่ยวไธสง หลังเสร็จสิ้นการประกอบพิธีไว้อาลัยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงศพทั้งหมดใส่รถตู้นำไปส่งให้แก่ครอบครัวตามภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตต่อไป

...

ก่อนหน้าที่ร่างของแรงงานไทยในอิสราเอลจะถูกส่งกลับภูมิลำเนา เมื่อเวลา 15.00 น. (เวลาท้องถิ่นของอิสราเอล) วันที่ 15 พ.ย. ทางการอิสราเอลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยประกอบพิธีไว้อาลัย ที่ลานบินท่าอากาศยานเบนกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ โดย น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ นายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน เป็นผู้แทนฝ่ายไทยเข้าร่วมพิธี ส่วนผู้แทนฝ่ายอิสราเอล มีนายเดวิด เลวี ผอ.กองแปซิฟิก นางชิริ เลวี ผู้ตรวจการคณะกรรมการดูแลสิทธิประโยชน์แรงงานต่างชาติในอิสราเอล ผู้แทนกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ผู้แทนสำนักงานประชากรและตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงผู้แทนสายการบิน El Al เข้าร่วมพิธี

เอกอัครราชทูตไทยได้วางพวงหรีดเคารพศพ จากนั้นนายเลวีได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียของคนไทยที่ไม่ควรเป็นเหยื่อของโศกนาฏกรรมครั้งนี้โดยย้ำว่า ทางการอิสราเอลจะดูแลและเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ ด้านเอกอัครราชทูต ได้กล่าวขอบคุณผู้มาร่วมพิธีทุกคนที่เดินทางมาส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายเป็นการให้เกียรติต่อผู้วายชนม์ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นแรงงานที่ตั้งใจมาทำงานเพื่อหาเลี้ยง ครอบครัว หวังว่าการส่งร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สงครามครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับผลกระทบต่อคนไทยจากสถานการณ์อิสราเอลและกาซา (สถานะวันที่ 15 พ.ย.66) สถานทูตฯ ระบุว่า มีคนไทยเสียชีวิต จำนวนเท่าเดิมคือ 39 ราย บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย ถูกจับเป็นตัวประกันยังมีจำนวนเท่าเดิม 25 ราย

อีกด้าน ที่รัฐสภา นายเลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน ในฐานะตัวแทนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน แถลงความคืบหน้าการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันไทยกับกลุ่มฮามาสว่า ได้เช็กข่าวกับทางฮามาสล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 16 พ.ย. ฮามาสจะปล่อย 50 ตัวประกัน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทย 25 คน คณะทำงานประธานสภาฯ จึงประสานไปว่า ขอให้เป็นคนไทยทั้งหมด กลุ่มฮามาสรับปากจะปล่อยตัว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีกไม่กี่วันจะได้รับข่าวดี คาดว่าไม่เกิน 10 วัน หรือเร็วสุดคือ 2-3 วันนับจากวันนี้ แต่จะปล่อยที่จุดไหนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันเป็นสำคัญ

“ฮามาสให้ความสำคัญการเจรจาระหว่างประธานสภาฯ กับผู้นำชีอะห์ เพราะเป็นมุสลิมด้วยกัน คุยกันเป็นภาษาอาหรับด้วยกัน จึงมีน้ำหนักมากกว่า สามารถสื่อสารกันได้มากกว่า เราพูดคุยแบบขอร้องให้เห็นอกเห็นใจ บอกฮามาสไปว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ทางฮามาสก็บอกว่า แต่ที่เกิดปัญหาเพราะแรงงานต่างประเทศไปทำงานในสถานที่เป็นข้อพิพาท จึงจำเป็นต้องจับแรงงานต่างประเทศไป เพราะถือว่าไปรุกรานเขตของเขา ฮามาสอยากให้ช่วยสื่อสารว่าอิสราเอลไม่ได้ให้ความสำคัญมนุษยธรรมใดๆ ขณะที่ฮามาสดูแลตัวประกันอย่างดี” นายเลอพงษ์กล่าว

วันเดียวกัน นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่าได้เร่งให้ความช่วยเหลือตามแนวทางที่สำนักงานอัยการสูงสุดวางไว้ กรณีแรงงานกลับมาแล้วไม่มีงานทำ กังวลว่าจะขาดรายได้ ได้ให้คำแนะนำและช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องที่เพื่อช่วยหางานใหม่ให้ได้เร็วยิ่งขึ้น ขณะนี้มีแรงงานไทยจากอิสราเอลและครอบครัวมาขอรับความช่วยเหลือจากทั่วประเทศ จำนวน 880 ราย แรงงานไทยที่ซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับเองให้นำหลักฐานมาเบิกจากทางราชการได้ หรือหากต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมายติดต่อสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและการบังคับคดีจังหวัด และสาขาทั่วประเทศได้ หรือติดต่อขอคำปรึกษาทางกฎหมายได้ที่ สายด่วน 1157

...

ขณะที่สถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอล (IDF) กับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส ที่ยืดเยื้อมากว่า 40 วัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า กองทัพอิสราเอลถอนกำลังออกจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟา โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกาซาซิตี้ ทางเหนือของฉนวนกาซา แต่ยังคงปฏิบัติการอยู่ในบริเวณรอบนอกโรงพยาบาล ขณะ เดียวกันกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์เผยว่า กองทัพใช้รถปราบดินทำลายทางเข้าทางใต้ของโรงพยาบาลอัล-ชิฟา หลังจากเมื่อวันที่ 15 พ.ย. อิสราเอลบุกโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสอ้างว่าอยู่ในโรงพยาบาลดังกล่าว พบอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากและยังตรวจค้นผู้คนในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ทั้งคนไข้ บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ที่มาหลบภัยโดยพุ่งเป้าไปที่ชายหนุ่ม

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่วิดีโอขณะกองทัพอิสราเอลบุกค้นโรงพยาบาล ภาพจากวิดีโอเผยให้เห็นทหารอิสราเอลตรวจค้นแต่ละห้องตามอาคารในโรงพยาบาลท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่นเป็นระยะ พบปืนไรเฟิลซ่อนอยู่หลังเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) พบระเบิด กระสุน อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เอกสารเกี่ยวกับการทำสงครามภาษาอารบิก เครื่องแบบกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส เสื้อเกราะกันกระสุน รวมถึงได้ตรวจสอบข้อมูลในแล็ปท็อปคาดว่าเป็นของฮามาส พบภาพ ส.ต.หญิง โอรี เมกิดิช ทหารหญิงสังกัดกองทัพอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปจากนิคมเกษตรนาฮัล ออซ ไปฉนวนกาซา หลักฐานเหล่านี้บ่งชี้ว่ากลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลเป็นศูนย์บัญชาการสู้รบ สิ่งที่พบขณะนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่กลุ่มฮามาสมีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กองทัพไม่ได้เผยให้เห็นอุโมงค์ใต้ดินที่อิสราเอลอ้างว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส

ด้านสำนักข่าววาฟาของปาเลสไตน์รายงานว่า เครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีใกล้โรงพยาบาลอินโดนีเซีย ในเมืองเบต ลาฮิยาและย่านเรมัล เมืองกาซาซิตี้ ทางเหนือของฉนวนกาซา แต่ยังไม่มีการยืนยันยอดผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ในภาคกลางมีการโจมตีทางอากาศเช่นกัน อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่มัสยิดในย่านอัล-ซาบราห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 50 ศพ บาดเจ็บนับสิบราย เช่นเดียวกับการโจมตีทางอากาศบริเวณโรงเรียนมาเลเซีย ในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัด ยังคร่าชีวิตประชาชนอีก 3 ศพ เครื่องบินรบของอิสราเอลยังโจมตีเสาโทรคมนาคมในเมืองข่านยูนิส ทางใต้ของฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับสิบราย ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย และกองทัพยังจู่โจมจับกุมชาวปาเลสไตน์ 2 คน ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองเจริโช ทางตอนใต้ และจับประชาชนอีก 2 คน ในเมืองนาบลุส ทางเหนือของเขตเวสต์แบงก์เช่นกัน

...

ส่วนความคืบหน้าการเจรจาปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสคุมขังในฉนวนกาซา สำนักข่าว รอยเตอร์เผยว่า กาตาร์เจรจาร่วมกับกลุ่มฮามาสและอิสราเอล ผลักดันให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาจำนวน 50 คน แลกกับการที่อิสราเอลต้องหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา รวมถึงการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ที่เป็นเยาวชนและสตรีที่ถูกจับกุมในอิสราเอล แต่อิสราเอลมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่