เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายเบน วอลเลซ รมว.กลาโหมอังกฤษ ประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนว่า สถานการณ์จะดำเนินต่อไป และเชื่อมั่นว่าในปีนี้และปีหน้า กองทัพยูเครนจะสามารถสร้างโมเมนตัมที่ทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่มีทางที่จะมีเวทมนตร์ใดมาทำให้รัสเซียล่มสลายได้

ทั้งนี้ คำกล่าวของ รมว.กลาโหมอังกฤษมีขึ้นหลังจากเอกสารลับเพนตากอนสหรัฐฯบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่กองทัพยูเครนจะปฏิบัติการตีโต้ทวงคืนดินแดนระลอกใหม่ในช่วงวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งบรรดาสื่อความมั่นคงสายรัสเซียประเมินว่า อาจจะเป็นจังหวัดเคียร์ซอนและซาโปริชเชียทางภาคใต้ แต่ทางฝ่ายความมั่นคงยูเครนกล่าวย้ำหลายครั้งว่า การตีโต้ที่อาจจะเกิดขึ้นจะต้องพึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์จากชาติตะวันตกจำนวนมาก

วันเดียวกัน จากกรณีเอกสารลับที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังถูกสหรัฐฯกดดันเรื่องการส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครน แต่ติดในเรื่องนโยบายของเกาหลีใต้ที่จะไม่ส่งอาวุธให้ชาติที่อยู่ในภาวะสงครามนั้น นายยุน ซอก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ในลักษณะเปลี่ยนท่าทีว่า อาจเป็นการยากที่เกาหลีใต้จะช่วยยูเครนเพียงแค่ด้านมนุษยธรรม หากเกิดเหตุการณ์ที่ประชาคมโลกรับไม่ได้จริงๆ เช่น การสังหารหมู่ การโจมตีพลเรือนเป็นวงกว้าง หรือการละเมิดกฎการทำสงครามอย่างร้ายแรง.