นางแอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน อาจเริ่มลดจังหวะลงในช่วง 2-3 เดือนนี้ เนื่องจากทั้งยูเครนและรัสเซียจะพยายามหาทางเสริมกำลังและสะสมเสบียง เพื่อปฏิบัติการรุกในช่วงหลังฤดูหนาว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ารัสเซียมีแผนจะทำการรุกหรือไม่ ส่วนการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนก่อนฤดูหนาว ก็ไม่พบหลักฐานว่าจะทำให้ชาวยูเครนหมดกำลังใจที่จะต่อต้านรัสเซียแต่อย่างใด
วันเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียออกแถลงการณ์ว่า จะไม่ยอมรับการกำหนดราคาน้ำมันรัสเซียของชาติตะวันตก และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการตอบสนอง หลังชาติอุตสาหกรรมชั้นนำจี 7 และสหภาพยุโรปตกลงกันที่จะกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาขายปกติ 67-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. กระนั้น นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน มองว่าการกำหนดราคาที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจะส่งผลกระทบต่อรัสเซียน้อยมาก ส่วนนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ควรเตรียมตัวที่จะมอบหลักประกันทางความมั่นคงแก่รัสเซีย ในการเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้งระหว่างยูเครน รัสเซีย และตะวันตก.