ทีมงานไปวัดอาวุธวิกสิตาราม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 บางพลัด กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่าวัดนี้ให้ความเมตตากับสัตว์ตกทุกข์ได้ยาก ทั้งสุนัข แมว ไก่ นก ฯลฯ ได้กราบนมัสการพระเทพปัญญามุนี (ทองดี ฐิตายุโก) เจ้าอาวาสแล้ว ก็ขอขอบคุณแทนสัตว์ตกทุกข์ได้ยาก อาจารย์นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เล่าให้ฟังว่า วัดอาวุธฯ แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ให้ความเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายมาตั้งแต่สมัยอาจารย์เป็นเด็กวัดที่นี่เมื่อ 45 ปีที่แล้ว ท่านใดจะมอบ ‘อาหารสัตว์’ ให้สุนัข แมว ไก่ นก ฯลฯ เชิญมอบได้ที่พระครูเพียร 08-1278-4923 พระครูเพียรมีหนังสือรวมเล่มเปิดฟ้าส่องโลกและเปิดฟ้าภาษาโลกมอบเป็นที่ระลึกให้กับผู้ที่มามอบอาหารสัตว์ที่วัดด้วยครับ

ตั้งแต่อาจารย์นิติภูมิธณัฐเข้าอูเครนครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1991 จนถึงปัจจุบัน แผนที่อูเครนเปลี่ยนไปแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่ออยู่กับโซเวียต ครั้งที่สองเมื่ออูเครนเป็นประเทศใหม่หลังจากโซเวียตล่ม ครั้งที่สามเมื่อคนในสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียลงประชามติขอแยกตัวออกจากอูเครนเพื่อไปรวมกับรัสเซีย (2014) และครั้งที่สี่เมื่อคนของแคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาปอริซเซีย และเคอร์ซอน ลงประชามติขอแยกตัวออกจากอูเครนไปอยู่กับรัสเซีย (2022) ถ้าสงครามยังไม่สงบจบลง ก็คงต้องลุ้นว่าแผนที่อูเครนจะเปลี่ยนไปอีกสักกี่ครั้ง

ตอนนี้มีเสียงโวยวายจากทั้งสหรัฐฯและอูเครนเรื่องการลงประชามติและการรับรองฝ่ายเดียวของรัสเซีย ทว่าขอโทษเถิดครับ เรื่องการรับรอง ‘ฝ่ายเดียว’ นี่อูเครนเคยทำมาก่อนรัฐสภาอูเครนแถลงคำประกาศ Declaration of State Sovereignty of Ukraine หรือคำประกาศเอกราชเป็นชาติอธิปไตยเมื่อ 16 กรกฎาคม 1990 ทำก่อนที่โซเวียตจะล่มเกิน 1 ปีซะด้วยซ้ำ โดยอูเครนบอกว่าพวกตนยึดหลัก Self-determination (หลักอัตวินิจฉัย) ในการสถาปนาอูเครนเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่แยกจากสหภาพโซเวียต

...

24 สิงหาคม 1991 รัฐสภาอูเครนแถลงคำประกาศอีกฉบับหนึ่งซึ่งก็คือ Act of Independence เพื่อเป็นการรับรอง ‘ฝ่ายเดียว’ หรือ Unilateral ถึงสถานะความเป็นประเทศเอกราชของอูเครน อูเครนประกาศแยกประเทศโดยไม่สนใจหรือรอการตัดสินใจจากสหภาพโซเวียต พอถึง 1 ธันวาคม 1991 อูเครนจัดให้มีการลงประชามติเพื่อเลือกประธานาธิบดี (ทั้งที่ตอนนั้นโซเวียตยังไม่ล่มสลาย แต่อูเครนก็เลือกที่จะมีประธานาธิบดีซ้อน) คนอูเครนมากกว่าร้อยละ 90 ของผู้มาลงคะแนนเสียงเลือกนายลีโอนิด คราฟชุคเป็นประธานาธิบดี

ในบรรดา 15 รัฐที่รวมกันเป็นสหภาพโซเวียต อูเครนมีความสำคัญมาก มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 รองจากรัสเซีย มีกองทัพใหญ่เป็นอันดับ 2 อูเครนเป็น 1 ใน 4 ของรัฐนิวเคลียร์ (รัสเซีย อูเครน เบลารุส และคาซัคสถาน) เมื่ออูเครนตัดสินใจไม่แคร์การอยู่รวมกันเป็นประเทศใหญ่ ก็ทำให้สถานภาพของโซเวียตง่อนแง่นและล่มสลายเมื่อปลายเดือนธันวาคม 1991

‘กงเกวียนกำเกวียน’ สิ่งที่รัฐบาลอูเครนเคยทำกรรมไว้ในอดีตได้ย้อนกลับมาสนองในปัจจุบัน คนรัสเซียในอูเครนแยกไครเมียออกจากแผ่นดินอูเครน (2014) และ 4 แคว้น (2022) โดยที่ไม่สนใจไยดีต่อรัฐบาลอูเครนเช่นเดียวกัน ตอนนี้มีการทำนายทายกันว่าอาจจะมีอีกบางดินแดนขอแยกตัวออกไปอยู่กับโปแลนด์ และก็ไม่แน่นะครับ ต่อไปในอนาคต อูเครนอาจจะกลายเป็นประเทศเล็กชาติน้อย เป็นประเทศกระจิริดกระจ้อยร่อย ใครๆ ก็อยากหนีการอยู่กับอูเครน เพราะในห้วงช่วงที่ผ่านมา อูเครนกู้หนี้ยืมสินจากสหรัฐฯและตะวันตกมาใช้จ่ายเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของเซเลนสกี มีหลายอย่างที่คนภายนอกคิดว่าเป็นความช่วยเหลือ แต่แท้ที่จริง เป็นการกู้ยืม

ตอนนี้คนไครเมีย โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาปอริซเซีย และเคอร์ซอน หายใจโล่งอกที่พวกตนได้กลับไปอยู่ในอ้อมอกของอดีตแผ่นดินแม่ ที่มีทรัพยากรธรรมชาติบานเบอะเยอะแยะ มีมากมายถึงขนาดเป็นอันดับ 1 ของโลก.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com