กลุ่มนักวิจัยนานาชาติกว่า 50 คน ที่จัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อมให้สหประชาชาติ เผยแพร่รายงานอันน่าตกใจเมื่อวันที่ 23 ก.พ. ระบุว่า สถานการณ์ไฟป่าทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นมากกว่าปกติถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงสิ้นสุดศตวรรษนี้ โดยจะมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไล่จาก ภายในปี 2573 นี้ จะเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ และภายในปี 2593 จะเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ในรายงานของสหประชาชาติครั้งนี้ ยังประเมินด้วยว่า ซีกโลกตะวันตกไปจนถึงตะวันออก จะเผชิญกับสถานการณ์ไฟป่ามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าออสเตรเลีย แคนาดา สหรัฐฯ จีน ไปจนถึงภูมิภาคยุโรปและผืนป่า แอมะซอน อย่างในปี 2564 ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้เผชิญกับไฟป่าครั้งใหญ่ เผาผลาญที่ดินไปกว่า 7.7 ล้านเอเคอร์ หรือมากกว่า 19.48 ล้านไร่ ซึ่งเป็นผลพวงจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น และด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จะทำให้ไฟป่าในระยะหลังมีลักษณะ “เมกะไฟร์” ที่มีความทนทานต่อมาตรการดับเพลิงที่ใช้กันในปัจจุบันทั้งนี้ นักวิจัยประเมินว่า รัฐบาลประเทศต่างๆควรปรับเปลี่ยนงบประมาณการใช้จ่ายให้ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับการรับมือเหตุฉุกเฉินมากกว่าการป้องกันไฟ.