ไม่ว่าประชาคมโลกที่เข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ จะสามารถบรรลุเป้าของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ “net zero” ภายในปี 2050 เพื่อจัดการกับภาวะโลกร้อนได้หรือไม่ ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นตั้งใจของ วิลเลียม แคมค์วัมบา หนุ่มน้อยชาวมาลาวี ที่สามารถสร้างกังหันลมตัวแรกให้หมู่บ้านวิมเบ ชุมชนยากจนแห่งหนึ่งในประเทศมาลาวีได้สำเร็จ เมื่อ 10 ปีก่อน ขณะที่เขามีอายุเพียง 14 ปี
เป็นที่ทราบกันดีว่า ชุมชนมากมายในแอฟริกามีความยากลำบากในการที่จะเข้าถึงสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นน้ำสะอาด หรือไฟฟ้า
แคมค์วัมบา ก็ไม่ต่างจากเด็กแอฟริกันคนอื่นๆที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากเช่นนั้น เขาเริ่มต้นคิดและออกแบบกังหันลม ที่ต้องบอกว่า เป็นไอเดียที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะวัสดุที่เขาตั้งใจนำมาทำกังหัน คือ ไม้ กับ เศษขยะจากสุสานรถยนต์

เริ่มต้นคนก็หัวเราะเสียแล้ว แต่หลังจากที่ผลงานประ ดิษฐ์กังหันลมชิ้นแรกของเด็กวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ แทบทุกบ้านมีแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าแทนการใช้ตะเกียงน้ำมัน ทุกสายตาที่เคยหมิ่นก็มองแคมค์วัมบาต่างไปจากเดิม และไม่ใช่แค่มีไฟฟ้าใช้เท่านั้น ควันของตะเกียงน้ำมันที่เคยทำให้ชาวบ้านมีอาการไอและป่วยกันบ่อยๆ ก็เริ่มหายไป และทำให้พวกเขาสามารถบอกลาตะเกียงน้ำมันไปชั่วชีวิต
...
และจากกังหันลมตัวแรก ก็ทำให้เกิดกังหันลมตัวที่สองและอีกหลายๆตัว ที่คนทั้งหมู่บ้านร่วมมือ ร่วมแรงกันสร้างขึ้นตามมาหลังจากนั้น
เรื่องราวของกังหันลมตัวแรกที่สร้างโดยฝีมือของนักเรียนคนหนึ่งที่ต้องลาออกจากโรงเรียน เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินจะส่งเสียให้เรียนกลายเป็นหนังสือชื่อว่า The Boy Who Harnessed the Wind ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่เสริมสร้างกำลังใจให้แก่คนที่ด้อยโอกาส ให้กล้าลุกขึ้นมาลงมือทำเพื่อเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

แคมค์วัมบา บอกว่า เขาจำได้ว่าปีนั้น คนทั้งหมู่บ้านอดอยากกันมากเพราะผลผลิตไม่ดี เขาเห็นภาพกังหันลมในหนังสือ มันบอกว่ากังหันลมสามารถดึงพลังงานลมมาใช้แปลงเป็นไฟฟ้าได้ ปั๊มน้ำก็ได้ แย่หน่อยที่หนังสือไม่ได้บอกวิธีการสร้าง สำหรับหมู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้ามาก่อน การมีปั๊มน้ำคือสวรรค์ มันหมายถึงการเพาะปลูกได้สองรอบ เขาคิดว่าถ้ามีไฟฟ้าใช้ปั๊มน้ำจากแหล่งน้ำกระจายไปในไร่นาได้ คือการแก้ปัญหาที่ต้นตอเขาใช้เวลาอยู่ในห้องสมุด ตะลุยอ่านหนังสือ และตระเวนไปตามสุสานรถยนต์เก็บขยะมาทดลองจนได้กังหันลมตัวแรก ความสูง 12 เมตร เป็นกังหันลมที่ “สวยมาก” ทุกสัดส่วนเหมือนจะส่งเสียงแห่งชัยชนะจากความทุ่มเท
วันนี้ แคมค์วัมบา อายุ 34 ปี จบการศึกษาจาก African Bible College Christian Academy และได้ทุน African Leadership Academy ไปศึกษาต่อจนจบที่วิทยาลัยดาร์ตมัธ นิวแฮมเชียร์ สหรัฐอเมริกา เขาได้รับเชิญไปพูดในหลายที่ หนังสือ The Boy Who Harnessed the Wind ได้รับเลือกให้เป็นหนังสือที่ทุกหมู่บ้านในมาลาวีต้องมีติดไว้ตามโครงการ “1 Book, 1 Community”
เรื่องราวและแรงบันดาลใจการสร้างกังหันลมเพื่อเปลี่ยนโลกให้คนในหมู่บ้านวิมเบได้รับการสร้างเป็นสารคดีชื่อ “William and the Windmill” และก็ได้รับรางวัล Grand Jury Prize for Best Documentary Feature ในเทศกาล South By Southwest Film Festival เมืองออสติน รัฐเท็กซัส เมื่อปี 2556 สะท้อนให้เห็นถึงพลังความมุ่งมั่นของเด็กคนหนึ่งที่ไม่ยอมถอดใจ ทำให้ฝันของคนทั้งหมู่บ้านเป็นจริงได้

จากมาลาวี ไปที่เคนยา เมื่อไม่นานมานี้ เคนยาแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำด้วยแสงอาทิตย์ โดยใช้โซลาร์เซลล์เปลี่ยนน้ำทะเลเป็นน้ำดื่ม ผลิตน้ำสะอาดเพียงพอสำหรับ 35,000 คนต่อวัน
...
ในขณะที่โลกมีน้ำเป็นส่วนประกอบใหญ่ แต่ยังมีคนบนโลกนับไม่ถ้วนที่ขาดแคลนน้ำกว่า 1 ใน 3 ของประชากรโลก และปัญหากำลังทวีคูณขึ้น เป็นที่มาของการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยสร้างน้ำสะอาด โดยใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรไม่แสวงผลกำไร Give Power ได้ทำโรงบำบัดน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโรงแยกเกลือออกจากน้ำ (solar powered desalination plant) ในเมือง Kiunga ประเทศ Kenya เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยแปลงน้ำจากมหาสมุทรอินเดียมาเป็นน้ำดื่มที่สะอาด
โรงบำบัดน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เปิดใช้งานเมื่อกลางปี 2018 จนถึงขณะนี้สามารถผลิตน้ำได้ 19,800 แกลลอน หรือ 75,000 ลิตร เพียงพอสำหรับ 35,000 คนต่อวัน ได้อย่างยั่งยืน

ที่ผ่านมาโรงกลั่นน้ำทะเลมีต้นทุนและราคาสูง และต้องใช้ไฟฟ้ามหาศาล ไม่มีทางที่ประเทศยากจนและขาดแคลนหลายประเทศจะสามารถดำเนินการได้ แต่สำหรับโรงผลิตน้ำพลังงานแสงอาทิตย์นี้ผลิตพลังงาน 50 กิโลวัตต์ลงในแบตเตอรี่เทสลา ใช้ปั๊มน้ำ 2 ตัวเพื่อสูบน้ำตลอดเวลา รวมถึงยังสะอาดกว่าน้ำกลั่นทั่วไป และไม่มีข้อเสียด้านสิ่งแวดล้อม
...
Hayes Barnard ผู้ก่อตั้ง Givepower บอกว่า มนุษย์ควรต้องใส่ใจปัญหาขาดแคลนน้ำทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ในพลังงานทดแทนอิสระ Givepower สามารถทำโรงผลิตน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยชีวิตผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนทั่วโลกได้ โดยพัฒนาเครื่องมือเทคโนโลยีที่หวังว่าจะเข้าถึงคน 2 พันล้านคนที่ขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งพัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้สร้างอาหาร น้ำ ไฟฟ้าในโรงเรียน โรงพยาบาลหลายพื้นที่ทั่วโลก
“ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพิ่งเริ่มต้น ในปี 2025 มีการคาดการณ์ว่าประชากรกว่าครึ่งโลกจะเผชิญปัญหานี้” Barnard ทิ้งท้ายให้ทุกคนบนโลกได้ตระหนักถึงความขาดแคลนอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง.