สถานการณ์ในเมียนมาหลังรัฐประหารส่อเค้าทวีความรุนแรง ประชาชนเรือนแสนดาหน้าออกมา แสดงพลัง มีตำรวจ-ข้าราชการบางส่วนตามหัวเมืองเข้าร่วมประท้วง หลังผู้ชุมนุมหญิงในกรุงเนปิดอว์ถูกกระสุนจริงยิงที่กกหู อยู่ในภาวะสมองตาย โฆษกทำเนียบขาวแถลงยืนยันผู้อยู่เบื้องหลังรัฐประหารครั้งนี้ต้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่ “บิ๊กตู่” รับมีจดหมายจาก ผบ.สส.เมียนมาส่งถึง แจงเหตุที่ต้องยึดอำนาจ ระบุถือเป็นเรื่องการบริหารจัดการภายใน ชี้ไทยต้องตระหนักถึงการค้าชายแดนและภาพรวม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศในประเทศเมียนมา หลังกองทัพเมียนมา หรือทัดมาดอว์ ก่อรัฐประหาร ส่อเค้าทวีความตึงเครียดอย่างรุนแรง มีประชาชนดาหน้าออกมาท้าทายคำสั่งห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะและเคอร์ฟิว เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการกระทำครั้งนี้ โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. มีชาวเมียนมาออกมารวมตัวกันแสดงพลังประท้วงกองทัพ พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมา และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ที่ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือน พ.ย.63 ติดต่อกันเป็นวันที่ห้าแล้ว
ในนครย่างกุ้ง มีกลุ่มผู้ประท้วงกว่า 100,000 คน ชุมนุมเดินขบวนกันตามถนนใจกลางเมือง อย่างไม่เกรงกลัวต่อความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น หลังก่อนหน้านี้มีผู้ชุมนุมหญิงรายหนึ่งในกรุงเนปิดอว์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งกระแสข่าวที่ว่ากองทัพได้เสริมกำลังเข้านครย่างกุ้ง เพื่อคุมสถานการณ์ น.ส.เอสเตอร์ นาว 1 ในแกนนำชุมนุม ระบุว่าหากปล่อยให้กองทัพเข้าครองประเทศจะมีการเสียเลือดเนื้อมากกว่านี้ นอกจากนี้ผู้ประท้วงบางกลุ่มยังไปรวมตัวหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเมียนมา เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯช่วยเหลือ
สำนักข่าวการ์เดียนรายงานว่า กลุ่มคนหลากหลายอาชีพตัดสินใจเข้าร่วมชุมนุมประท้วงกองทัพอย่างมีนัยสำคัญ ที่เมืองลอยกอ เมืองเอกของรัฐกะยา ทางภาคตะวันออก มีตำรวจอย่างน้อย 40 นาย เข้าร่วมการประท้วงกับผู้ชุมนุม แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วพร้อมป้ายเราไม่เอาเผด็จการทหาร เช่นเดียวกับใน กรุงเนปิดอว์ มีกลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าร่วมชุมนุมหลายร้อยคน แต่ยังไม่มีรายงานการสลายชุมนุม เหมือนในวันที่ 9 ก.พ. ที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงและยิงกระสุนยาง จนมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน และ 1 ในนั้นถูกกระสุนจริงยิงบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้มีรายงานผู้ถูกจับกุมไม่ต่ำกว่า 60 คน ทั้งนี้สำนักข่าวบีบีซี รายงานด้วยว่ามีผู้ชุมนุมหญิงในกรุงเนปิดอว์ไม่เปิดเผยชื่อและอายุ 1 คนถูกกระสุนจริงยิงเข้าที่กกหูขวา กระสุนฝังอยู่ในทำให้สมองถูกทำลาย ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนฟอร์ติฟาย ไรต์ รายงานว่า ผู้ชุมนุมหญิงรายนี้อยู่ในสภาพสมองตาย
...
ขณะที่นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงการณ์เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาคืนอำนาจแก่รัฐบาลพลเรือนที่ชนะการเลือกตั้ง พร้อมปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมและให้เปิดสัญญาณการสื่อสาร หลีกเลี่ยงใช้ความรุนแรง ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯพร้อมกระทำการใดๆเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารครั้งนี้จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่นายโอลา อาล์มเกรน ผู้แทนสหประชาชาติประจำเมียนมา เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาเคารพสิทธิประชาชนในการชุมนุมอย่างสันติ การใช้กำลังใดๆเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผบ.สส.เมียนมา ส่งจดหมายส่วนตัวถึงเพื่ออธิบายเหตุผลการยึดอำนาจและสถานการณ์ในเมียนมา ว่ามีจดหมายส่งมาถึงจริง แต่ส่งมาหาตนในฐานะ รมว.กลาโหม สรุปคือขอให้ไทยสนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมา ซึ่งตนสนับสนุนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องบริหารจัดการภายในเป็นเรื่องภายในของเขา ตามหลักการของอาเซียน และสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ทีเอซี) ที่มีกติกามากมาย อย่างน้อยเราก็สนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยในเมียนมา แต่สิ่งที่จำเป็นวันนี้คือเราต้องรักษาความสัมพันธ์ทีดีต่อกันไว้ให้มากที่สุด เพราะมีผลต่อประชาชนโดยรวม ต่อเศรษฐกิจ การค้าขายชายแดน
ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จ.เชียงใหม่ เวลา 12.00 น. มีกลุ่มแรงงานเมียนมาจำนวนหนึ่งรวมตัว ถือป้ายประท้วงต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพเมียนมาและเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในการสลายการชุมนุม มีตำรวจ สภ.ช้างเผือก เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยประกาศให้ยุติการชุมนุมทันที เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตชุมนุมตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ไม่มีการคัดกรองโรค อาจส่งผลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจึงแยกย้ายกันอย่างสงบ เพื่อกลับไปทำหนังสือขออนุญาตชุมนุมอีกครั้ง