เมื่อวันพุธ 12 ส.ค.ซึ่งเป็น “วันช้างโลก” (World Elephant Day) หน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ป่าศรีลังกาเปิดเผยข้อมูลว่า ผลกระทบจากมาตรการ “ล็อกดาวน์” ปิดเมืองเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.ถึงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากเหตุเผชิญหน้าระหว่างฝูงช้างป่ากับชาวบ้านเกษตรกรลดลงมาก เนื่องจากมาตรการห้ามผู้คนออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น ยกเว้นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือซื้อหาข้าวของเครื่องใช้จำเป็นเท่านั้นทั้งนี้ อัตราช้างป่าถูกมนุษย์ล่าในปีนี้ลดลง โดยปีที่แล้วมีรายงานช้างป่าถูกฆ่า 405 ตัว และมนุษย์เสียชีวิตจากช้างป่า 121 คน ส่วนปี 2561 ช้างถูกฆ่า 360 ตัว ส่วนค่าเฉลี่ยช้างป่าในศรีลังกาถูกฆ่าช่วงปี 2553-2560 มากราวปีละ 240 ตัว จากนั้นก็เพิ่มขึ้นมาก ทั้งๆที่ช้างป่าสายพันธุ์ เอเชียถือเป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์ โดยข้อมูลช้างป่าในศรีลังกาปัจจุบันคาดว่าลดลงเหลือราว 7,000 ตัว จากเคยมีมากกว่า 12,000 ตัวเมื่อช่วงทศวรรษ 1900 รัฐบาลศรีลังกาอยู่ระหว่างเร่งหารือกำหนดมาตรการลดความขัดแย้งเผชิญหน้ากันระหว่างฝูงช้างป่าที่ออกมาหาอาหารกับเกษตรกรตามพื้นที่ชนบท ขณะที่อินเดียก็เผชิญสถานการณ์คล้ายคลึงกับศรีลังกา.