ตอนนี้มีดราม่าว่าญี่ปุ่นโจมตีศาสนาพุทธ ประสงค์ก็คืออาจจะอยากให้คนไทยเข้าใจญี่ปุ่นผิด ขอเรียนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีต ไม่เกี่ยวกับปัจจุบันครับระยะหลังเริ่มมีการวิจารณ์เรื่องที่คนญี่ปุ่นในปัจจุบันหันไปใช้ประเพณีแบบตะวันตกมากขึ้น เช่น การแต่งงานก็ไปแต่งในโบสถ์แบบตะวันตก ขณะนี้ คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเริ่มประกาศว่าตนไม่มีศาสนา ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ก็จะเจอเรื่องฮะอิบุสึคิชะกุ ซึ่งเป็นเรื่องในอดีต คำนี้หมายถึงการล้มล้างพุทธศาสนาที่ทำมาอย่างต่อเนื่องในอดีตในญี่ปุ่นรัฐบาลเมจิเคยมีนโยบายแยกชินโตออกจากพุทธศาสนา และกำจัดบทบาทของพุทธศาสนา รัฐบาลญี่ปุ่นสมัย ค.ศ.1868-1871 ทำลายวัดพุทธ พระพุทธรูป เอกสารบันทึกพระธรรมคำสอนต่างๆ ก็นำไปเผาทิ้ง แถมยังบังคับพระสงฆ์ให้สึกออกมาเป็นฆราวาสพุทธศาสนาได้รับการเผยแผ่เข้ามาในดินแดนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 6 เมื่อกษัตริย์ของอาณาจักรแพกเจบนคาบสมุทรเกาหลีส่งพระพุทธรูป เครื่องสักการะบูชา และบางส่วนของพระไตรปิฎกมาถวายจักรพรรดิคิมเม และยังมีพระราชสาส์นแนะนำศาสนาพุทธ ในตอนนั้นขุนนางตำแหน่งนะกะโตะมิและอิมิเบะที่ทำหน้าที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามความเชื่อดั้งเดิมและโมะโนะโนะเบะซึ่งรับผิดชอบด้านการทหารต่อต้านศาสนาพุทธแรงมาก เพราะขุนนางที่มีอิทธิพลในราชสำนักญี่ปุ่นกลัวว่าศาสนาพุทธจะลดอำนาจของพวกตัวเองกลุ่มหนุนก็มี ขุนนางตระกูลโซะงะสนับสนุนการรับพุทธศาสนาเข้ามาในราชสำนักญี่ปุ่นเพราะต้องการลดบทบาทและอำนาจของขุนนางตำแหน่งนะกะโตะมิและอิมิเบะ ต่อมาขุนนางโซะงะขึ้นมามีอำนาจและอิทธิพลในราชสำนัก จึงทำให้ศาสนาพุทธได้เผยแผ่อย่างกว้างขวาง จนทำให้พุทธศาสนาเข้ามาผสมกลมกลืนกับศาสนาชินโตในเวลาต่อมาจักรพรรดิญี่ปุ่นศรัทธาพุทธศาสนามากจนพระราชทานทรัพย์สินเงินทองของมีค่ามากมายให้กลายเป็นของสงฆ์ พุทธศาสนจักรในญี่ปุ่นเข้มแข็งมากจนมีบทบาททางการเมือง ถึงขนาดเคยมีพระสงฆ์ยกกองทัพไปข่มขู่พระจักรพรรดิ และเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุของการย้ายเมืองหลวงจากนะระไปเกียวโต เพราะต้องการฉีกตัวจากอิทธิพลจากวัดพุทธ ด้วยอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของวัดพุทธที่มีมากจนเกินไป ทำให้ในช่วงคริสต์ศตวรรษ ที่ 16 แคว้นโอะกะยะมะ แคว้นอะอิซุ และแคว้นมิโตะต้องสั่งปิดวัดพุทธและบังคับให้พระสงฆ์สึกพอถึงสมัยเมจิก็มีการต่อต้านศาสนาพุทธเข้มข้น เพราะรัฐบาลในสมัยนั้นมีนโยบายฟื้นฟูพระราชอำนาจทางการเมืองการปกครองให้พระจักรพรรดิ ด้วยการเน้นความศักดิ์สิทธิ์และการเป็นเทพเจ้าของจักรพรรดิตามความเชื่อของชินโต และพยายามให้ศาสนาชินโตหลุดพ้นจากอิทธิพลของศาสนาพุทธและลัทธิขงจื๊อ ในที่สุด ค.ศ.1868 รัฐบาลเมจิก็ประกาศให้ชินโตเป็นศาสนาประจำชาติญี่ปุ่น และให้แยกศาสนาชินโตออกจากพุทธศาสนาอย่างเด็ดขาดผู้ปกครองสมัยโทะกุงะวะดึงพระสงฆ์มาช่วยรักษาอำนาจการปกครองของตัวเอง ดังนั้น วัดและพระสงฆ์ของพุทธศาสนาจึงเหมือนตัวแทนของระบบศักดินา เมื่อรัฐบาลเมจิต่อต้านทั้งโชกุนและระบบศักดินา ก็เลยทำให้พุทธศาสนาถูกต่อต้านไปด้วย รวมทั้งวัดพุทธจำนวนมากมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่งคั่งจากครอบครัวที่อยู่ในสังกัดบริจาคให้รัฐบาลเมจิก็จัดการยึดทรัพย์สินของวัดมาใช้ในการปฏิรูปในครั้งนั้นด้วยหลังจากคำประกาศแยกชินโตออกจากศาสนาพุทธ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากประชาชนอย่างกว้างขวาง มีการนำพระพุทธรูปออกจากวิหารชินโต มีการทำลายวัด เจดีย์ไม้ในวัดโคฟุกุ เมืองนะระถูกรื้อนำไม้ไปขาย เฉพาะวัดในจังหวัดคะโงะชิมะถูกปิดไปมากถึง 1,616 แห่ง และพระสงฆ์ในจังหวัดนี้ถูกจับสึกไป 2,966 คนการต่อต้านศาสนาพุทธในญี่ปุ่นสงบจบลง ค.ศ.1871ต่อมาก็เลยมีการสังคายนาพุทธศาสนาในญี่ปุ่นกรุณาอย่านำเรื่องในอดีตมาใช้โจมตีญี่ปุ่นในปัจจุบันครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com