ก่อนหน้านี้มีภารกิจส่งมัมมี่เด็กอายุ 2,000 ปี จากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่ถิ่นเดิมที่ประเทศเปรู และเมื่อเร็วๆนี้ก็มีการส่งคืนมัมมี่หญิงชาวอินคาอายุ 500 ปี กลับไปยังโบลิเวีย หลังจากมัมมี่ตนนี้ถูกบริจาคให้เป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกน ในสหรัฐอเมริกา มายาวนานประมาณ 129 ปี

ซากมัมมี่หญิงผู้นี้รู้จักกันในชื่อ ญัสตา (Nusta) ในภาษาเกชัว (Quechua) แปลว่า “เจ้าหญิง” เชื่อว่าเธอมีอายุประมาณ 8 ขวบ เมื่อตอนที่เสียชีวิตและถูกฝังอยู่ในชุดที่ทำจากเส้นขนของยามา (llama) หรืออัลปากา (alpaca) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในตระกูลอูฐของทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนเมื่อกว่า 4,000 ปีมาแล้วตามเทือกเขาแอนดีสหรือที่ราบสูงของโบลิเวีย เปรู อาร์เจนตินา และชิลี สภาพของมัมมี่ญัสตานับว่าน่าทึ่งไม่น้อย เนื่อง จากการถูกรักษาไว้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนชื่อของเธอแม้จะมีความหมายว่า “เจ้าหญิง” ทว่าก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าหญิงสาวอยู่ในฐานันดรศักดิ์นั้นจริงหรือไม่ แต่เธอน่าจะเป็นสมาชิกคนสำคัญของชนเผ่าพื้นเมือง เพราะชาวอินคาและชาวไอมารา (Aymara) นั้น การสร้างสุสานด้วยอิฐดิบหรือหินที่เรียกว่า chullpa จะมีไว้สำหรับสมาชิกชนชั้นสูงในกลุ่มชนของพวกเขา ซึ่ง chullpa เป็นสถานที่ใช้บวงสรวงและบูชายัญในยุคจักรวรรดิอินคา

...

มัมมี่ญัสตาถูกส่งคืนด้วยความช่วยเหลือของสถานทูตสหรัฐอเมริกา และเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีวิทยาแห่งชาติ เมืองลาปาซ ในโบลิเวีย และมีกำหนดนำมาแสดงให้สาธารณชนได้ชมระหว่างพิธีแสดงความเคารพต่อผู้ล่วงลับในวันที่ 2 พ.ย.ที่จะถึงนี้.