“ลิทัวเนีย” ประเทศในกลุ่มยูโรโซน มีประชากรแค่ราว 2.87 ล้านคน แต่ผู้คนมีการศึกษาดี พลเมืองอายุ 15 ปีขึ้นไปมีอัตราอ่านออกเขียนได้ถึง 100% เต็ม!เพื่อรักษาสถิตินี้ไว้ นักวิชาการก็เลยคิดหาไอเดียใหม่ๆช่วยพัฒนาการอ่านหนังสือของเด็กๆ รวมทั้งเปิดคอร์ส “สุนัขบำบัด” ที่ห้องสมุดแห่งชาติในกรุงวิลนีอุส แต่ละสัปดาห์มีเด็กอายุ 4-12 ปีเข้าร่วมนับร้อยคนกรรมวิธีก็คือให้เด็กอ่านหนังสือให้สุนัขฟังช่วงละ 15 นาที ส่วนเจ้าหมาน้อยก็นั่งฟังตาแป๋ว เพราะมันผ่านการคัดเลือก ทดสอบ และฝึกมาเป็นพิเศษ เด็กยังสามารถทักทาย ลูบหัว กอดรัดพวกมันได้เมื่อการอ่านมีปัญหานักจิตวิทยาระบุว่า เด็กที่เริ่มหัดอ่านหนังสือจะรู้สึกเครียด ไม่มั่นใจ ถ้ามี “ครู” มานั่งคอยจับผิดหรือบอกให้อ่านใหม่ ดีไม่ดีจะทำให้เด็กเกลียดการอ่านหนังสือไปเลย เพราะเด็กต้องการ “กำลังใจ” มากกว่า “ถูกประเมิน”แต่การให้สุนัขมานั่งฟังแทนครู จะช่วยให้เด็กตั้งใจและเชื่อมั่นในตนเอง ไม่เครียด เพราะเมื่อเด็กอ่านผิด หมามันก็ไม่ว่า (เพราะฟังไม่รู้เรื่อง) ทำให้เด็กรู้สึกว่าเป็นผู้ควบคุมเกมบางกรณี สุนัขก็ทำหน้าที่ได้ดีกว่าคนนะ...ว่ามั้ย!ดิน ดอกข่อย