อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผยตรวจร่างกาย “แอม” ในคุก พบตั้งท้อง 4 เดือน และเป็นโรคจิตมา 5 ปี แต่ไม่ไปหาหมอจนขาดยามา 2 ปีแล้ว เหยื่อโผล่อีกราย ดาบตำรวจ ตม. โร่ให้การเมียเป็นเพื่อนซี้ผู้ต้องหา หลังให้กู้เงินไปกว่า 2 แสนบาท แอมส่งยาลดความอ้วนมาให้เพราะเพิ่งคลอดลูกได้ 1 เดือน กินเข้าไปถึงกับเสียชีวิต “รองโจ๊ก” อัปเดตเหยื่อรวม 13 ราย รอด 1 จ่อตรวจดีเอ็นเอว่าลูกใคร เพราะอดีตสามีตำรวจรับหลังหย่ายังอยู่ด้วยกัน มั่นใจถึงป่วยทางจิตก็ดำเนินคดีได้ ประสาน ม.เกษตรฯใช้อุปกรณ์ไฮเทคช่วยตรวจสารพิษในหลักฐานมัดผู้ต้องหา จ่อแจ้งข้อหาแอมเพิ่มถึงในคุก ข้อหาฆ่าสารวัตรปูอีกรายหลังผลตรวจสารพิษมัดตัว ส่วนร้านขายยาพี่สาวผู้ต้องหาเลิกไปแล้ว กลายเป็นร้านโชห่วยเชื่อเป็นจุดรับพัสดุบรรจุไซยาไนด์
กรณีชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้าสืบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิต น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 32 ปี เท้าแชร์สาว ชาว จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นพบเป็นลมวูบดับปริศนาขณะเดินทางไปปล่อยปลากับนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี อดีตภรรยานายตำรวจระดับรอง ผกก.ในพื้นที่ จ.ราชบุรี บริเวณท่าน้ำแม่น้ำแม่กลองพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แต่ญาติติดใจการเสียชีวิตเข้าร้องทุกข์ตำรวจกองปราบปรามช่วยตรวจสอบความผิดปกติ นำศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พบสารไซยาไนด์ในร่างกาย เป็นที่มาของการรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับนางสรารัตน์ ข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังจากนั้นตรวจสอบเพิ่มเติมพบมีเหยื่อเข้าข่ายถูกวางยาฆาตกรรมอีกนับ 10 ราย เกี่ยวพันการกู้ยืมเงิน รับจำนำรถ จำนำที่ดิน และวงแชร์ หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตำรวจส่งฝากขังนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลางไปแล้วนั้น
...
สอบแพทย์ฤทธิ์ไซยาไนด์
ความคืบหน้าจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.เร่งประสานไปยังนางกานติมา หรือปลา แพสอาด อายุ 36 ปี เหยื่อผู้รอดชีวิต น.ส.นิภาวรรณ หรือส้ม ขันวงษ์ อายุ 35 ปี พี่สาว น.ส.ศิริพร ผู้ตาย และนายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน ผู้พาครอบครัวผู้ตายมาแจ้งความเข้าให้ปากคำฐานะพยานเพื่อสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมแวดล้อม และให้พนักงานสอบอีกชุดลงพื้นที่สอบปากคำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารพิษและสารเคมี สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอันตรายของสารไซยาไนด์ โดยเฉพาะประเด็นปริมาณที่จะส่งผลให้เกิดอันตรายกับร่างกายจนถึงชีวิต เพื่อประกอบสำนวนคดีควบคู่พยานหลักฐาน และผลตรวจสารพิษที่พบในร่างกายผู้ตาย เพื่อให้สำนวนคดีมีความแน่นหนามัดตัวผู้กระทำผิดได้
เพิ่มข้อหาฉกรรจ์โทษประหาร
“มั่นใจว่าคดีนี้เรามีพยานหลักฐานแน่นหนามากพอเอาผิดนางสรารัตน์ หรือแอมได้ ขณะนี้พนักงานสอบสวนเตรียมพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในลักษณะของอนุข้อกล่าวหา จากเดิมเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง เพิ่มเป็นฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ข้อหาทั้งหมดล้วนมีโทษหนักถึงประหารชีวิต” รอง ผบก.ป.กล่าว มีรายงานว่าข้อหาที่พนักงานสอบสวนจะแจ้งเพิ่มกับนางแอมประกอบด้วย ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ข้อหาเอาสารพิษให้ผู้อื่นบริโภค และข้อหาลักทรัพย์

เหยื่อรายใหม่โผล่ จ.มุกดาหาร
ต่อมา พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เผยอีกว่า วันนี้เชิญ น.ส.นิภาวรรณ หรือส้ม ขันวงษ์ อายุ 35 ปี พี่สาวของก้อยมาสอบฐานะผู้ที่อยู่ในช่วงก่อนเกิดเหตุและมีโอกาสพูดคุยกับนางแอมหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังสอบสามีผู้เสียชีวิตอีกรายที่ จ.มุกดาหาร ที่ผู้ต้องหาส่งยาแบบแคปซูลอ้างเป็นยาบำรุงไปให้กินก่อนเสียชีวิต รวมถึงออยหนึ่งในลูกแชร์ที่ผู้ตายเคยโทร.ไปถามว่า เวลาตำรวจจะตามหาคน ทำอย่างไร นอกจากนี้ต้องเรียกนายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน ผู้ประสานงานผู้เสียหายเข้าให้ปากคำวันที่ 29 เม.ย.66
ยังไม่พบพี่สาวแอมเกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีพี่สาวนางแอมที่เชื่อว่าเป็นเภสัชกรนั้น จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารไซยาไนด์ใช้ก่อเหตุฆ่า น.ส.ก้อย หรือไม่ ขณะนี้ตำรวจกองปราบปรามกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าสารดังกล่าว นางแอมสั่งซื้อจากช่องทางอื่น ปกติสารดังกล่าวเป็นสารควบคุมใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ส่วนพี่สาวนางแอมให้คำปรึกษาเรื่องวิธีการใช้หรือไม่ต้องรอสอบปากคำอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรายังไม่พบว่ามีคนอื่นร่วมกระทำผิด ยังเชื่อว่านางแอมลงมือคนเดียวไม่มีใครร่วมมือ เนื่องจากแผนประทุษกรรมอาศัยความใกล้ชิดส่วนตัวเพื่อลงมือ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่สาวของนางแอมด้วย
เส้นทางการเงินมีอะไรตื่นเต้น
กรณีพฤติกรรมโหดเหี้ยมจะมีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก ตอบว่า จากการสอบปากคำนางแอม เบื้องต้นไม่พบว่ามีอาการผิดปกติทางจิต พูดจาเหมือนคนปกติทั่วไป ต้องรอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้สังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียนรู้และตระหนัก รวมถึงควบคุมป้องกันการซื้อสารอันตรายลักษณะนี้ให้มากขึ้น ส่วนการขยายผลเส้นทางการเงิน ตำรวจเห็นแล้ว มีทั้งธุรกิจการจำนำรถยนต์ หลังจากนี้น่าจะมีอะไรที่ตื่นเต้นมากกว่านี้อยู่ระหว่างการขยายผล
...

ซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์
มีรายงานว่า สารไซยาไนด์ที่ใช้ก่อเหตุ นางแอมสั่งซื้อจากช่องทางออนไลน์ เนื่องจากสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่น 5 คนทราบว่า ช่วงก่อนสงกรานต์นางแอมนำกล่องพัสดุมีชื่อตัวเองที่หน้ากล่องมาให้ ก่อนว่าจ้างให้นำขวดยาในกล่องดังกล่าวไปฝังดิน ด้วยความสงสัยหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นเปิดกล่องดมสารดังกล่าว มีอาการวิงเวียนศีรษะมึนงงไป 3 วัน แต่ยังไม่ได้นำขวดดังกล่าวไปฝังตามที่รับปากเพราะมัวแต่เล่นสงกรานต์ เมื่อนางแอมโทร.มาสอบถามรู้ว่า ยังไม่ได้ฝังรีบขับรถไปหา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ยึดขวดสารไซยาไนด์ไปแล้ว ต่อมานางเเอมยังไปค้นหากล่องพัสดุที่ระบุชื่อตัวเองก่อนนำไปทำลาย ขณะนี้ตรวจสอบบริษัทขนส่ง 2 บริษัทหาหลักฐานการส่งพัสดุให้นางแอม เพื่อมัดตัวผู้ต้องหา
ด.ต.ยันแอมส่งยาให้เมียกิน
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5.บก.ป.ร่วมสอบปากคำ ด.ต.นิติพนธ์ หรือต้า นุชิต อายุ 41 ปีตำรวจสังกัด บช.สตม. สามี น.ส.สาวิตรี หรือหนิม บุตรศรีรักษ์ อายุ 40 ปี เหยื่อรายล่าสุดที่เสียชีวิตในพื้นที่ จ.มุกดาหาร กับ น.ส.จอย (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เพื่อนสนิทของหนิม เพื่อสอบถามประเด็นแวดล้อมเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่างๆก่อนเพื่อนเสียชีวิต จากการสอบปากคำก่อน น.ส.หนิม เสียชีวิตรับประทานยาแคปซูลตัวหนึ่งที่นางแอมส่งมาให้ อ้างว่าเป็นยาลดความอ้วน และพบข้อมูลว่านางแอมติดหนี้ น.ส.หนิม เป็นเงินหลักแสนบาท พฤติกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับการเสียชีวิตปริศนาของเหยื่อรายอื่น
...
ปมล้างหนี้หลักแสนบาท
ด.ต.นิติพนธ์ยังให้การด้วยว่า น.ส.สาวิตรี ภรรยา เริ่มรู้จักนางสรารัตน์จากการเล่นแชร์ สอดคล้องกับข้อมูลการติดต่อของนางแอมกับ น.ส.สาวิตรี ช่วงก่อนเสียชีวิต มีการติดต่อกันบ่อยครั้ง ก่อนนางแอมส่งพัสดุภายในมียาแคปซูลมาให้ อ้างเป็นยาลดน้ำหนัก เพราะเห็นว่า น.ส.หนิมเพิ่งคลอดลูกได้หนึ่งเดือน ครั้งแรกที่ส่งมาไม่สามารถกินได้เนื่องจากแคปซูลละลาย ก่อนส่งซ้ำมาให้อีกครั้งจนกินเข้าไปแล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2565 สาเหตุใบชันสูตรระบุว่า มีโปแตสเซียมในเลือดปริมาณสูง มูลเหตุของคดีมุ่งไปที่การฆ่าล้างหนี้ เนื่องจากนางแอมติดหนี้หลักแสนบาท สอดคล้องกับพฤติกรรมคดีอื่นผู้เป็นเจ้าหนี้นางแอมมักเสียชีวิตลักษณะเดียวกัน ส่วนการสอบปากคำ น.ส.จอย เพื่อนสนิท น.ส.สาวิตรี ทราบว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.หลังนางแอมก่อเหตุวางยาฆ่า น.ส.ก้อย นางแอมโทรศัพท์และส่งข้อความมาหา น.ส.จอย เพื่อสอบถามขั้นตอนการติดตามหาคนหายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รถแอมสวมทะเบียนปลอม
นอกจากนี้ตำรวจกองปราบฯยังติดต่อหา น.ส.นก (ขอสงวนชื่อนามสกุล) พยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี พยานสำคัญอีกรายมาให้ปากคำฐานะพยานวันที่ 30 เม.ย. สอบถามประเด็นกลุ่มวงแชร์ของแอม จากแนวทางสืบสวนพบว่า พฤติกรรมวางยาฆ่าเหยื่อชิงทรัพย์ล้างหนี้ และเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทา อาทิ ปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถ ตั้งวงแชร์หรือเล่นแชร์ ตั้งแต่ช่วงคบหานายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ อายุ 35 ปี หนึ่งในเหยื่อที่เชื่อว่าถูกนางแอมวางยาฆ่าในพื้นที่ จ.อุดรธานี หลักฐานสำคัญทำให้เชื่อว่านางแอมเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทาคือ รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 5 กศ 7028 กรุงเทพมหานคร สวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม กำลังตรวจสอบหาที่มาของรถ
เหยื่อรายใหม่เป็นวิศวกร
...
ที่สโมสรตำรวจ นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อในคดีที่มีความสงสัยเชื่อมโยงกับนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าอาจมีเหยื่อรายใหม่เพิ่มอีก 1 ราย เหยื่อรายนี้เป็นวิศวกร เสียชีวิตที่ จ.นครปฐม ปี 2563 ญาติรู้สึกสงสัยการตายที่เชื่อมโยงกับนางสรารัตน์ เพราะรู้จักกันมีเรื่องเงินเกี่ยวข้อง อาจเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกๆ คาดว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวที่นางสรารัตน์ใช้ ต้องให้ตำรวจตรวจสอบว่าทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ขอทำรายละเอียดทั้งหมดก่อนแจ้งอีกครั้ง
วอนหมอดูคดีก้อยมาให้การ
“ขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังญาติของบุคคลที่เคยเสียชีวิตที่มีความเชื่อมโยงกับนางสรารัตน์ เคยเล่นแชร์หรือเคยให้ยืมเงินแล้วเสียชีวิต รวมไปถึงเคยนำเงินให้นางสรารัตน์ไปปล่อยเงินกู้ หรือญาติพี่น้องเคยนำรถหรือทรัพย์สินไปจำนำจำนองกับนางสรารัตน์แล้วเสียชีวิต ใครมีญาติพี่น้องที่ทำประกันภัยหรือกู้สหกรณ์โดยนางสรารัตน์ดำเนินการให้รีบติดต่อกลับมาที่ผม เพื่อให้ข้อมูลและเป็นพยานการดำเนินคดี รวมถึงหมอดูที่ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ ผู้เสียชีวิตเคยดูและปรึกษาก่อนเสียชีวิต ขอให้รีบเข้ามาพบตำรวจในฐานะพยาน ตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเอาไว้สามารถไปแจ้งข้อมูลเบาะแสได้” นายรพีกล่าว
ทนายมั่นใจสู้คดีได้
ผู้สื่อข่าวติดต่อ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความนางสรารัตน์ทางโทรศัพท์ เผยว่า ฐานะทนายความไม่ได้กังวลรูปคดี ตอนนี้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมสู้คดีไว้แล้วยังมั่นใจในตัวลูกความ โดยเฉพาะเรื่องที่หลายคนมองว่ามีความผิดปกติเชื่อมโยงหลายกรณี หรือมีการไปกล่าวหาใครว่าวางยา มอมยา ต้องเอาพยานหลักฐานมาพูดกัน การไปวางยาใครต้องมีพยานหลักฐานสิ่งเชื่อมโยง ต้องมีแพทย์ มีผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์กันในเชิงนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจพิสูจน์ ผ่าชันสูตรก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อีกว่า เป็นฝีมือของใคร ลูกความตนอาจโชคร้ายที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ก็มีความเป็นไปได้ การมีข่าวออกมามากมายยิ่งทำให้มั่นใจ ที่สำคัญก่อนหน้านี้สอบข้อเท็จจริงกับลูกความตามหน้าที่ทนาย และสอบพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด ทำให้ประเมินได้ว่า รูปคดีจะออกมาอย่างไร ฐานะทนายเชื่อมั่นในหลักฐานที่ลูกความนำมาให้จะถูกเปิดเผยในศาล ขณะนี้จึงถือว่าลูกความของตนยังเป็นผู้บริสุทธิ์
เชื่อไม่ประกันตัวดีแล้ว
น.ส.ธันย์นิชากล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ไม่ยื่นประกันตัวลูกความนั้น เพราะเห็นว่าการไม่ประกันตัวจะทำให้สังคมได้รับความยุติธรรม และเป็นการตอบคำถามของสังคมได้ เช่น ในกรณีที่มีการสืบสวนหาพยานหลักฐาน หรือการเกิดเหตุในรูปแบบเดียวกันนี้แต่ลูกความยังอยู่ในคุกนั่นหมายถึงว่าลูกความเราไม่ได้เกี่ยวข้อง ก่อนที่ลูกความจะถูกควบคุมตัวไปฝากขังกล่าวกับตนสั้นๆว่า “พี่อย่าทิ้งหนูนะ” ตนรับปากว่าจะไม่ทิ้ง และยังเป็นห่วงสุขภาพเพราะลูกความมีความเครียดสูงจนความดันขึ้น 170-220 ต้องวัดความดันอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกำลังตั้งครรภ์
ท้อง 4 เดือนความดันสูง
ด้านกรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลางว่า รับตัวนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อวานเวลาประมาณ 19.00 น. ทัณฑสถานหญิงกลางดำเนินการตรวจสอบจัดทำทะเบียนประวัติตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้นพบว่า นางสรารัตน์ตั้งครรภ์ประมาณ 4 เดือน มีภาวะเครียดวิตกกังวล ปวดศีรษะ สายตาพร่ามัว ความดันโลหิตสูง 150-200 มิลลิเมตรปรอท แต่ยังสามารถวัดสัญญาณชีพทารกในครรภ์ได้ปกติ ดำเนินการส่งตัวไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อพบแพทย์ตรวจอาการเวลา 22.00 น. ยังไม่พบว่ามีอาการรุนแรง อนุญาตให้กลับยังทัณฑสถานหญิงกลางเพื่อสังเกตอาการต่อเวลา 23.00 น. วันนี้กรม ราชทัณฑ์เตรียมสูตินรีแพทย์เข้าตรวจสุขภาพ พร้อมทีมจิตแพทย์เข้าประเมินภาวะสุขภาพจิตด้วย
ราชทัณฑ์พบแอมเป็นโรคจิต
“ทัณฑสถานปฏิบัติต่อนางสรารัตน์เช่นเดียวกับผู้ต้องขังตั้งครรภ์รายอื่นส่งตัวไปห้องแยกกักโรคเฉพาะผู้ต้องขังตั้งครรภ์ ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาระยะเวลา 5 วัน และห้องกันชนอีก 5 วัน ก่อนเข้าสู่กระบวนการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังย้ายแดนที่เหมาะสม ล่าสุดตรวจสอบประวัติพบว่านางแอมเคยเข้ารับการรักษาโรคทางจิตเวชที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ขาดการรักษาและกินยาอย่างต่อเนื่องมา 2 ปี ส่วนรายละเอียดการรักษายังไม่แน่ชัดต้องถามทางโรงพยาบาล วันนี้ รพ.ราชทัณฑ์จะส่งจิตแพทย์มาตรวจดูอาการว่าป่วยขั้นไหนเพื่อรักษา เราดูแลผู้ต้องขังที่ป่วยจิตเวชอยู่แล้ว จะส่งจิตแพทย์พูดคุยบ่อยครั้งในช่วงแรกรวมถึงระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ จ่ายยาให้ตามขั้นตอน นางสรารัตน์ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษให้ความร่วมมือดี” นายอายุตม์กล่าว
เหยื่ออีกรายเป็นโฟร์แมน
เย็นวันเดียวกันที่ห้องสอบสวนสโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยว่า หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่พบเสียชีวิตอีกรายเป็นผู้หญิง อาชีพโฟร์แมน อายุยังไม่เยอะในพื้นที่ สภ.โพรงมะเดื่อ จ.นครปฐม เหตุเกิดปี 63 นอนเสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้สอบปากคำใครเพราะเพิ่งปรากฏข้อเท็จจริง หญิงสาวรายนี้รู้จักกับแอม ส่วนสาเหตุการตายเพิ่งทราบเมื่อช่วงเช้าอยู่ระหว่างการขยายผล ยังคงเป็นเรื่องกู้ยืมเงิน อยู่ระหว่างค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนผลชันสูตรพลิกศพขอระยะเวลาก่อน
รอง ผกก.รับหย่าแต่ยังอยู่ด้วยกัน
ถามว่าทำไมมองว่าเหยื่อรายนี้เสียชีวิตเพราะแอม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า เหยื่อรายนี้ติดต่อกับแอมค้ำประกันเงินกู้ให้จึงเป็นความเชื่อมโยง ตอนแรกญาติผู้ตายคิดว่าหัวใจวาย แต่พอมาดูอีกที ไม่ใช่ฝากว่าใครที่พบลูกหลานเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับนางแอมขอให้มาติดต่อที่ตน วันนี้นัดอดีตสามีที่เป็นรอง ผกก. มาสอบปากคำ ยอมรับว่าแม้หย่ากันแต่ยังอยู่กินฉันสามีภรรยา ฝ่ายหญิงขอกลับมาอยู่ด้วย กำลังไล่ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ ส่วนเรื่องลูกในครรภ์จากนี้จะไปตรวจดีเอ็นเอว่าเป็นลูกใครกันแน่ คำให้การเบื้องต้นค่อนข้างเป็นประโยชน์
สอบเพื่อน “แด้” มัด “แอม”
“ส่วนอีกรายคือ นายกอล์ฟ (ขอสงวนนามสกุล) คนสนิทนายแด้ เป็นพยานปากสำคัญเพราะให้การยืนยันว่านางแอมฆ่านายแด้จริง ส่วนรายละเอียดคำให้การของนายกอล์ฟขอสรุปทีหลัง ยืนยันว่านางแอมเป็นคนฆ่านายแด้เพราะเรื่องเงินเป็นหลัก ส่วนเรื่องขวดยาที่แอมฝากไว้กับนายกอล์ฟขณะนี้ผลตรวจยังไม่ออก แม้ว่านิติเวชยืนยันว่าเป็นไซยาไนด์ตัวเดียวที่พบในศพ และถ้าหากเกี่ยวข้องกับใครเพิ่มเติมจะออกหมายจับแน่” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ค้นร้านโชห่วยจุดรับส่งสารพิษ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเจ้าตัวอ้างว่าเป็นจิตเวช มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปประสานเอาประวัติการรักษากับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อดูรายละเอียดว่าเป็นโรคจิตเภทขั้นใด เริ่มรักษาเมื่อไหร่ อย่างไรบ้าง นอกจากนี้จะโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อสอบถามข้อมูลถ้อยคำที่ผู้ต้องหาให้กับทีมสุขภาพจิตด้วยเพื่อนำมาประกอบกัน เมื่อวานไปค้นบ้านเจอหลอดยาส่งให้ พฐ.เรียบร้อยแล้ว ส่วนภายในหลอดยามีสารไซยาไนด์ปะปนหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจ ตอนนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเข้าค้นร้านโชห่วย จากแนวทางการสืบสวนพบว่าใช้เป็นสถานที่สำหรับรับ-ส่งยาไซยาไนด์
หมายจับข้อหาฆ่าสารวัตรปู
กรณี พ.ต.ต.หญิง นิภา แสงจันทร์ หรือสารวัตรปู ที่พบไซยาไนด์ในเลือด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนออกหมายจับนางแอมแล้วข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นอีกหนึ่งความผิดต้องไปอายัดตัวผู้ต้องหา จากข้อมูลการตรวจสอบล่าสุดบ้านพี่สาวของนางแอมเป็นร้านขายของชำแม้เดิมบอกว่าเป็นร้านขายยา และพี่สาวเป็นเภสัชกร ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นร้านขายของชำพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ส่วนประเด็นที่ว่าแอมไปเรียนรู้การใช้ไซยาไนด์ได้อย่างไรคงต้องรอเจ้าหน้าที่สอบปากคำพี่สาวก่อน คาดว่าวันนี้คงรู้
ยันมีรอดแค่รายเดียว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่า ตอนนี้มีนางกานติมา หรือปลา แพสอาด อายุ 36 ปี เพียงรายเดียวที่รอดจากการถูกวางยา ส่วนเหยื่อที่ จ.กำแพงเพชรและ จ.ขอนแก่น ไม่ใช่กรณีของนางแอม สามีที่เป็นตำรวจไม่รู้ว่านางแอมป่วย เรื่องทั้งหมดยืนยันว่าไม่รู้เห็น แต่แม้บอกว่าไม่รู้ เราต้องเอาข้อมูลมารวมเพื่อตรวจสอบอยู่ดี อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอย ไล่ไปก็เจอ เรื่องนี้ไม่หนักใจ โดยเฉพาะเรื่องสามีนางแอมที่เป็นตำรวจ เราจะตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของเขาเพื่อนำมาใช้คัดค้านในสำนวน นางแอมไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นเท้าแชร์ กู้หนี้ยืมสินไปเรื่อย กำลังดูทั้งหมดว่าใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง กำลังตรวจสอบเรื่องบัญชีธนาคาร 2-3 บัญชีเพื่อดูเรื่องยอดเงินหมุนเวียน
รวมเหยื่อแอม 13 ศพ รอด 1
หลังร่วมสอบสวนพยานและประชุมทีมงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เผยอีกว่า ล่าสุดจากการสืบสวนและรับแจ้งเบาะแสข้อมูลพบมีผู้เสียชีวิตถูกวางยาแล้ว 13 คน และถูกวางยาพิษแต่รอด 1 คน รวม 14 คน ต้องสงสัยว่าถูกนางแอมวางยารายล่าสุดเป็นศพที่ 13 พบวันนี้เป็นภรรยาของ ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต ตำรวจ ตม.พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เข้าให้ปากคำยืนยันว่า ภรรยาคือ น.ส.สาวิตรี หรือหนิม บุตรศรีรักษ์ อายุ 40 ปี รู้จักเกี่ยวข้องกับนางแอมก่อนจะเสียชีวิตเมื่อปี 2563 ลักษณะการตายและสภาพศพคล้ายรายอื่นที่ถูกวางยา ด.ต.นิติพนธ์ให้การว่า ช่วงภรรยามีชีวิตรู้จักกับนางแอม มาขอยืมเงินภรรยาไปกู้เงินด่วนมาให้ 150,000 บาทอีก 90,000 บาท เป็นเงิน ด.ต.สามี หลังจากนั้นไม่นานภรรยาก็ตาย ไม่ได้ติดใจสงสัยสาเหตุการตายกระทั่งเกิดข่าวนางแอมวางยาพิษฆ่าเหยื่อ
ฆ่าเยอะเพราะไม่โดนจับ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า แนวทางการสืบสวนฟันธงว่าสาเหตุการวางยาฆ่าเหยื่อกว่า 10 คนเพื่อฆ่าล้างหนี้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นเจ้าหนี้ของนางแอมทั้งสิ้น นางแอมไม่มีรายได้จึงกู้ยืมเงินจากหลายคนรวมๆ แล้วกว่าล้านบาท พอมีหนี้สินเกิดขึ้นจำนวนมาก ไม่มีเงินไปใช้หนี้ มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีคนแนะนำให้ใช้วิธีการวางแผนฆ่าล้างหนี้ หลังฆ่าแล้วไม่ถูกจับเกิดย่ามใจฆ่ามาเรื่อยๆกระทั่งถูกจับ และจากการให้ปากคำอดีตสามีตำรวจให้การว่า จดทะเบียนหย่าแล้วแต่ยังอาศัยอยู่ด้วยกัน จึงสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกใคร อยู่ระหว่างสอบสวนให้ชัดเจน
เป็นโรคจิตก็ไม่กระทบคดี
ส่วนกรณีนางแอมมีประวัติรักษาอาการทางจิตเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อคดี เนื่องจากมีหลักฐานแน่นหนาว่านางแอมรู้เห็นทุกขั้นตอนการกระทำความผิด เมื่อถึงชั้นสรุปสำนวน ตำรวจจะสั่งฟ้องทุกข้อหาแน่นอน ส่วนการสอบปากคำเหยื่อที่รอดชีวิตตอนนี้ยังมีเพียง 1 คน ให้การเป็นประโยชน์ระบุว่า นางแอมมีนิสัยโอภาปราศรัย พูดจาดี คุยสนุก พอคบไประยะหนึ่งจะขอให้ช่วยเรื่องเงิน จากนั้นถูกลอบวางยาหวังฆ่าให้ตายแต่รอดมาได้
ม.เกษตรฯรับตรวจสารพิษ
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนายวีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรณีเตรียมตรวจสอบหาสารไซยาไนด์ในพยานวัตถุของผู้ต้องหา นายวีรชัยเผยว่า ตนเตรียมเข้าร่วมช่วยตรวจหลักฐานกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรภาค 7 คดีผู้ต้องหาใช้สารไซยาไนด์วางยาฆาตกรรม น.ส.ก้อย นอกจากพยานหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ยังต้องตรวจสอบหาหลักฐานทางเคมีเพิ่มเติมจากวัตถุต่างๆภายในที่พักอาศัย รวมถึงรถยนต์รวม 4 จุด ที่เชื่อมโยงผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตรายล่าสุด หลังกองพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมตัวอย่างเกือบ 400 ตัวอย่าง วันนี้ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม ส่งหลักฐานเข้ามาให้มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ตรวจสอบแล้ว แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควรถึงจะแล้วเสร็จ
อุปกรณ์ไฮเทคตรวจของใช้แอม
“สำหรับสารไซยาไนด์ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นชนิดโปแตสเซียมไซยาไนด์ลักษณะคล้ายเกลือ หากผู้ต้องหาสัมผัสหรือผสมสารภายในสถานที่ต่างๆสามารถตรวจสอบได้จากเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัยมีความละเอียดสูงเข้าไปสนับสนุน เพื่อนำไปประกอบสำนวนในคดี คดีนี้ค่อนข้างซับซ้อน เพราะฉะนั้นการหาพยานหลักฐานทางเคมีจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก หากพบว่ามีสารไซยาไนด์ในของใช้ส่วนตัวผู้ต้องหาจะสามารถนำไปประกอบสำนวนคดีเอาผิดในผู้ต้องหาได้ในการต่อสู้คดีชั้นศาล” อาจารย์อ๊อดกล่าว
ไซยาไนด์ไม่ขายในร้านขายยา
นายวีรชัยกล่าวด้วยว่า ส่วนการตรวจหาสารไซยาไนด์ไม่สามารถพบในร่างกายของผู้รอดชีวิตได้ เนื่องจากร่างกายสามารถขับสารพิษออกจากร่างกาย แต่สามารถตรวจเจอได้จากผู้ที่เสียชีวิต ข้อมูลเบื้องต้นพบสารไซยาไนด์ในร่างกายของผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน สำหรับสารไซยาไนด์เป็นสารต้องห้าม ส่วนใหญ่ใช้สำหรับโรงงานหลอมเหล็กและใช้ในสถานศึกษา ส่วนประเด็นที่พบว่าพี่สาวผู้ต้องหาเป็นเภสัชกรนั้น จริงๆแล้วไซยาไนด์ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทยาไม่สามารถหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไปได้ เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสืบพยานหลักฐานต่อไป
ถ้าเภสัชกรเกี่ยวข้องโดนวินัย
ที่สภาเภสัชกรรม ออกจดหมายเปิดผนึกต่อกรณี “สารพิษไซยาไนด์” ระบุว่า สภาเภสัชกรรมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิดและสนับสนุนการกระทำผิดทุกรายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว ขอชี้แจงว่า โปแตสเซียมไซยาไนด์ รวมทั้งโซเดียมไซยาไนด์ไม่ใช่ยา แต่เป็นสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายที่มีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้กำกับดูแลภายใต้ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 ปกตินำมาใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมไม่ได้นำมาใช้ทางยา ตามที่มีประเด็นข่าวส่วนหนึ่งที่อาจทำให้เข้าใจว่ามีเภสัชกรเข้าไปพัวพันกับคดี สภาเภสัชกรรมขอเรียนว่าเภสัชกรเป็นผู้มีความรู้เรื่องยาและสารเคมีเพื่อใช้รักษาและป้องกันโรคเท่านั้น ต้องปฏิบัติภายใต้กรอบจรรยาบรรณการประกอบวิชาชีพกำกับดูแลโดยสภาเภสัชกรรมอย่างเคร่งครัด หากการสืบสวนสอบสวนขยายผลแล้วพบว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมรายใดมีส่วนเกี่ยวพันการกระทำผิดจริง สภาเภสัชกรรมพร้อมจะพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด
นำพยานชี้จุดฝังหลักฐาน
ที่ จ.ราชบุรี สายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่นำ 2 เยาวชนพยานสำคัญในคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ไปชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านใน ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นางแอมจ้างวานด้วยเงิน 500 บาท ให้นำถุงดำที่ภายในมีหลักฐานสำคัญประกอบด้วย กรอบป้ายทะเบียนรถ เอกสารประจำตัวนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ สามีของนางแอมที่เสียชีวิต รวมถึงขวดสีขาวฝาสีแดงฉลากมีตัวอักษรว่า UN1680 โดยกลุ่มเยาวชนไม่ทราบว่าเป็นขวดยาอะไร นำไปฝังดิน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาชี้จุดพบหลักฐานไม่นาน ก่อนรีบพาตัวเยาวชนกลับไปทันที
พ่อครูอ๊อดให้การเพิ่มเติม
ที่ จ.นครปฐม นายไพบูลย์ สามบุญมี บิดา น.ส.ผุสดี หรือครูอ๊อด สามบุญมี อดีตข้าราชการครู ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 4 วัย 39 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พ.ย.65 ที่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 3 ต.ลำลูกบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เข้าพบ ร.ต.อ.ศิวดล แผนตั้งต่อ พนักงานสอบสวน สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม นายไพบูลย์กล่าวว่า ตำรวจเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมกรณีครูอ๊อดเสียชีวิต ทั้งเรื่องการเดินทางไปสอนหนังสือที่โรงเรียนและการใช้ชีวิต ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าครูอ๊อด รู้จักกับนางสรารัตน์ได้ยังไงรู้แค่ว่าเล่นแชร์ด้วยกันแต่ไม่ทราบวงเงิน ก่อนหน้าเคยได้ยินครูอ๊อดชมให้ฟังว่า เป็นคนดีแบบนั้นแบบนี้ ตัวแอมเคยมาหาที่ตลาดเพื่อขอกล่องโฟมแช่แข็ง ไม่แน่ใจว่าเอาไปทำอะไร หลังครูอ๊อดเสียชีวิตแอมมาทวงเงินกับค่าแชร์แต่ไม่ได้ให้ไป ก่อนหน้านี้ตำรวจไปเก็บหลักฐานที่บ้านมาแล้ว ส่วน น.ส.รสจรินทร์ นิลห้อย อายุ 39 ปี หรือ “เจ๊น้อย” แม่ค้าขายผักผู้เสียชีวิตที่ จ.สมุทรสาคร ครูอ๊อดรู้จักและไปร่วมงานศพด้วย แต่ไม่ทราบข้อมูลว่าลูกสาวรู้จักกันได้อย่างไร
สอบอาจารย์น็อตท่าฉลอม
ส่วนความคืบหน้าที่ บช.ภ.7 อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมชุดคลี่คลายคดี ประชุมความคืบหน้าคดี วันนี้เชิญตัวนายปริญญา น้อยพิทักษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/37 หมู่ 7 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร และคนขับรถมูลนิธิกู้ภัยสมุทรสาคร ทางการสืบสวนพบว่า นางแอมมักไปดูดวงกับนายปริญญาซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสมุทรสาครและเป็นทรงเจ้าฤาษีชื่อดังฉายาอาจารย์น็อต ท่าฉลอม โด่งดังด้านมู ใช้เวลากว่า 3 ชม. พล.ต.ท.ธนายุตม์เผยว่า ตนสอบปากคำด้วยตัวเองทั้ง 2 คน ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่นางแอมพาเหยื่อทั้ง 3 คน ไปตรวจดวงชะตากับอาจารย์น็อต ท่าฉลอม เบื้องต้นทั้ง 2 คนให้การว่า รู้จักแต่เจ๊น้อยเพียงคนเดียว เพราะเคยไปที่อาศรมดูดวง ก่อนเสียชีวิตพานางแอมไปให้ดูดวงและอาบน้ำมนต์ จากนั้นไม่เคยเจอเจ๊น้อยอีกเลย
ตรวจพบไซยาไนด์ในรถแอม
ล่าสุดเวลา 18.30 น. นายวีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ ระบุว่า ตรวจสอบไปแล้วกว่า 20 ตัวอย่าง เจอตัวอย่างแรกเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้คอตตอนบัดตรวจบริเวณคอนโซลด้านหน้าฝั่งขวารถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน กข 5665 สุโขทัยของนางสรารัตน์ ใช้เทคนิคไอออนโมโตกราฟี พบชัดเจนว่าเป็นสารไซยาไนด์บนรถของผู้ต้องหา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดกล่องไปรษณีย์ลักษณะมีคราบผลึกสารเคมีบางอย่าง นำมาให้ตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อตรวจยืนยันอีกครั้ง