
Nvidia ผู้ผลิตชิป AI ที่ครองสัดส่วนเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้ ขึ้นแท่นเป็น “บริษัทมูลค่ามากที่สุดในโลก” เป็นที่เรียบร้อย หลังหุ้นบริษัทพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 164.42 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวันก่อนปิดการซื้อขายเมื่อวันพุธที่ 9 ก.ค. จากสถิติใหม่ที่ทำได้ในเดือนมิถุนายน โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดตาม companiesmarketcap ทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้า Microsoft ที่ตกลงมาอยู่ในอันดับสองและ Apple อันดับสาม ที่ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
นอกจากมูลค่าที่พุ่งทะยาน 4 ล้านล้านเป็นรายแรกในประวัติศาสตร์ยังทำให้ Jensen Huang ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลก จากการประเมินล่าสุดของ Bloomberg เมื่อวันพุธ (9 ก.ค.) มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาอยู่ที่ 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 2.76 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปี โดยความมั่งคั่งส่วนใหญ่มาจากการถือหุ้นประมาณ 3.5% ใน Nvidia
เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ไล่หลัง Warren Buffett มหาเศรษฐีระดับตำนานที่มีทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ประมาณ 1.44 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัท Berkshire Hathaway ของเขา มีผลการดำเนินงานดีในปีนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวขึ้นราว 5% ตั้งแต่ต้นปี ด้วยอัตราการเติบโตของ Nvidia ในปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงที่ Jensen Huang จะแซงหน้าบัฟเฟตต์ในการจัดอันดับเศรษฐีโลก
ท่ามกลางกระแสฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีในวอลล์สตรีทช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้นพุ่งขึ้นมากกว่า 40% นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 22% ในปีนี้ จากแรงหนุนของความดีมานด์ชิป AI ที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้ากับจีน เนื่องจาก Nvidia ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการส่งออกชิป AI ระดับสูง รวมถึงดีลใหม่ที่บริษัทสามารถตกลงขายชิปมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในตะวันออกกลางได้สำเร็จในเดือนที่ผ่านมา
อิทธิพลมหาศาลของ Nvidia เริ่มต้นขึ้นหลังจาก ChatGPT เปิดตัวเมื่อปลายปี 2022 ที่สร้างคลื่นลูกใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี "ความต้องการชิป AI" เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลและส่งผลให้มูลค่าของ Nvidia ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเวลาไม่ถึงสองปี ก่อนจะเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา
อ่านเพิ่มเติม Nvidia หุ้นพุ่งทุบสถิติใหม่ขึ้นแท่นเบอร์ 1 โลก! AI ดันดีมานด์ชิปทะยาน แม้เจอแรงเหวี่ยงสงครามการค้า
อย่างไรก็ตาม หุ้นของ Nvidia ชะลอตัวในช่วงต้นปี 2025 เนื่องจากความกังวลว่าอุปสงค์จากกลุ่มเทคโนโลยีอาจลดลง และผลกระทบจากภาษีและมาตรการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลทรัมป์ รวมถึงการเปิดตัว “DeepSeek” ที่ทำให้หุ้น Nvidia เคยดิ่งลงถึง 17% สูญเสียมูลค่าตลาดไปเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในวันเดียว หลังผู้พัฒนา AI จากจีนรายนี้ประกาศว่าตนใช้ชิปรุ่นลดประสิทธิภาพของ Nvidia ในการฝึกโมเดลภาษาใหม่ของตนเอง ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนกและบริษัท ซึ่งถือเป็นการร่วงหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ
แม้จะมีแรงกดดันในช่วงต้นปี Nvidia และยังไม่สามารถขายชิป AI ในจีนได้อย่างเต็มที่ แต่บริษัทสามารถพลิกฟื้นและกลับมาร้อนแรงในตลาดหุ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนทำสถิติสูงสุดใหม่ สะท้อนว่าความกังวลของนักลงทุนอาจเริ่มคลี่คลายลงโดยเชื่อว่ายอดขายจากลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ รวมถึงดีล “Sovereign AI” กับรัฐบาลยุโรปและตะวันออกกลาง จะยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยนักวิเคราะห์จาก Loop Capital ยังคาดการณ์อีกว่า มูลค่าตลาดของ Nvidia อาจทะยานแตะ 6 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้นี้
ด้าน Jensen Huang ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia ก็ได้แสดงความมั่นใจต่ออนาคตธุรกิจ โดยคาดว่า AI และหุ่นยนต์จะสร้างรายได้ระดับหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับบริษัทในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จากการอัปเกรดชิปและโครงสร้างพื้นฐานในดาต้าเซ็นเตอร์ที่ยังทิ้งห่างคู่แข่ง โดย Nvidia คาดว่าจะมีรายได้เกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะอยู่ราว 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่า 70% “ยิ่งมี AI มากเท่าไร กำไรของเราก็ยิ่งเพิ่มขึ้น สิ่งเดียวที่ผมกังวล คือ เมื่อโลกนี้ไม่มี AI ก็เท่านั้น” เขากล่าว
อ่านเพิ่มเติม
อ้างอิงข้อมูล Financial Times , CNBC
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -