
ดราม่าเดือดที่วงการเทคโนโลยีจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากดีลประวัติศาสตร์ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่าง OpenAI และ Jony Ive นักออกแบบอยู่เบื้องหลังดีไซน์สุดไอคอนิกของ iPhone ถูกเปิดปม เมื่อ “iyO” สตาร์ทอัพที่เคยเจรจาด้วย ออกมาแฉว่าลอกเลียนแนวคิดของตนเอง โดยล่าสุดศาลมีคำสั่งห้ามใช้แบรนด์ “io” ชั่วคราว
อ่านเพิ่มเติม OpenAI ดึง Jony Ive ตำนานออกแบบ iPhone ร่วมงาน ดีลสะเทือนวงการเทคฯ เตรียมปั้นโปรดักต์เปลี่ยนโลก
- ในปี 2021 Jason Rugolo อดีตผู้บริหาร Google ก่อตั้งสตาร์ทอัพชื่อ “iyO” หลังจากแยกตัวออกจากโครงการ Google X (Moonshot Lab) เพื่อพัฒนา “iyO One” หูฟังอัจฉริยะ Audio-First AI Assistant ที่มีจุดขายเรื่องฟีเจอร์ผู้ช่วย AI เปรียบเสมือนแท็บเล็ตแบบใหม่สำหรับหูที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารกับ AI ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ในช่วงปี 2022 มีรายงานว่า iyO ได้เข้าพบกับ Ryan Cohen (ทีมลงทุนส่วนตัวของ Sam Altman ในโปรเจกต์ Apollo Projects) และ Evan Sharp (อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Pinterest ซึ่งอยู่กับ LoveFrom) แต่ทั้งสองปฏิเสธที่จะลงทุน โดยมีรายงานว่าบริษัทสามารถระดมทุนได้กว่า 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก Alphabet และนักลงทุนรายอื่นๆ ก่อนหน้านี้
- ปี 2023 Jony Ive ร่วมกับอดีตทีมออกแบบระดับสูงของ Apple นำโดย Tang Tan ร่วมกันก่อตั้ง “io” เพื่อเน้นออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์สำหรับรองรับการใช้งาน AI โดยเฉพาะ หลังจากที่ก่อตั้งบริษัทครีเอทีฟของตัวเองที่ชื่อว่า “LoveFrom” เพื่อรับงานออกแบบในปี 2019 ในช่วงที่ลาออกจาก Apple
- กระทั่งเดือนมีนาคม 2025 จากเอกสารประกอบคดี เปิดเผยว่า Jason Rugolo ส่งอีเมลถึง Sam Altman เสนอให้นำ iyO เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ OpenAI และเปิดตัว iyO One ภายใต้ชื่อ OpenAI อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งสองได้มีการประชุมทางวิดีโอร่วมกัน แต่ Altman ให้การภายหลังว่าไม่รู้จัก iyO หรือ Rugolo ในช่วงนี้
- 1 พฤษภาคม 2025 Peter Welinder รองหัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ OpenAI และ Tang Tan ผู้ร่วมก่อตั้ง io เข้าพบ Rugolo ที่สำนักงาน iyO ในซานฟรานซิสโก เพื่อทดลองใช้อุปกรณ์หูฟังต้นแบบ แต่ผลสรุปผลการสาธิตกลับไม่เป็นที่น่าพอใจ
- กระทั่งวันที่ 23 พฤษภาคม 2025 OpenAI ประกาศเข้าซื้อกิจการ “io” ของ Jony Ive มูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2 แสนล้านบาทอย่างเป็นทางการ โดย Ive จะเป็นผู้นำด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ของ OpenAI และ io จะกลายเป็นส่วนหนึ่งภายในองค์กร OpenAI
- ต้นเดือนมิถุนายน 2025 Jason Rugolo ยื่นฟ้อง OpenAI และ io ต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ฐานละเมิดเครื่องหมายการค้าและการลอกเลียนสิทธิบัตรชื่อและแนวคิดผลิตภัณฑ์ ที่อาจสร้างความสับสนในตลาด พร้อมกล่าวว่า Sam Altman และ Jony Ive กำลังใช้กลยุทธ์ “บริษัทยักษ์ฝังกลบบริษัทเล็ก” หลังจากทั้งสองฝ่ายเคยหารือร่วมกัน
- 23 มิถุนายน 2025 OpenAI ลบวิดีโอและโพสต์โปรโมตที่เกี่ยวข้องกับดีล io ออกจากเว็บไซต์ หลังศาลมีคำสั่งห้ามชั่วคราว โดย OpenAI และ io ยืนยันว่า “ไม่ได้มีเจตนาละเมิดสิทธิ์ทางการค้า” และเตรียมต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
เอกสารในคดีระบุว่า ตลอดปี 2024 OpenAI และ Jony Ive ทำงานกับ io ได้ศึกษาวิจัยอย่างจริงจังเกี่ยวกับอุปกรณ์หูฟัง (In-ear devices) โดยได้ซื้อหูฟังจากหลากหลายยี่ห้ออย่างน้อย 30 รุ่นเพื่อเปรียบเทียบตลาด กระทั่งเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผู้บริหารของ OpenAI ได้เข้าพบทีม iyO เพื่อทดลองใช้ อย่างไรก็ตามผลการทดสอบกลับไม่เป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนี้เอกสารยังเผยให้เห็นว่า iyO พยายามอย่างหนักที่จะร่วมมือกับ io และ OpenAI โดยเสนอให้ OpenAI ใช้อุปกรณ์ iyO เป็นชุดพัฒนาสำหรับอุปกรณ์ AI ตัวจริงในอนาคตตลอดจนการเปิดตัวภายใต้แบรนด์ของ OpenAI
Rugolo เผยว่า หลังจากดีล io ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ เขาได้ส่งอีเมลหา Altman เพื่อสอบถามว่า OpenAI ยังสนใจ iyO หรือไม่ และเสนอขายกิจการในราคา 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับได้รับคำตอบจากภายในทีม OpenAI ว่าอุปกรณ์ของ iyO ยังใช้งานไม่ได้จริง และไม่เหมาะกับทิศทางของ io
โดยฝั่ง OpenAI ชี้แจงว่า iyO เคยสาธิตอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านมาตรฐานและพยายามยื่นข้อเสนอให้เข้าซื้อโดยหวังจะได้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากชื่อที่คล้ายกัน พร้อมยืนยันว่า “นี่เป็นคดีเครื่องหมายการค้า ไม่ใช่การขโมยไอเดียหรือเทคโนโลยี”
ตามที่ Sam Altman ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า อุปกรณ์ต้นแบบนี้จะทำหน้าที่เป็น “อุปกรณ์ชิ้นที่สาม” ร่วมกับมือถือและแล็ปท็อป โดยจะมีความสามารถในการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว โดยบริษัทระบุในคำให้การว่าได้ทดลองพัฒนาในแนวทางที่หลากหลาย ทั้งอุปกรณ์แบบตั้งโต๊ะ แบบพกพา แบบมีสาย ไร้สาย และแบบสวมใส่ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกแนวไหน
ขณะที่ Evans Hankey หัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์ของ io กล่าวในคำให้การว่า io ไม่ได้พัฒนาอุปกรณ์หูฟังที่มีการสั่งทำเฉพาะบุคคลแต่อย่างใด นอกจากนี้ Tang Tan ได้ยืนยันในคำให้การว่า ต้นแบบของ OpenAI ที่กล่าวถึงในวิดีโอเปิดตัวนั้น “ไม่ใช่อุปกรณ์สวมใส่ และไม่ใช่หูฟัง” พร้อมระบุว่า ทีมออกแบบยังไม่มีการสรุปแบบดีไซน์สุดท้าย อีกทั้งยังไม่มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือโฆษณาภายในปีนี้และปีหน้าอย่างแน่นอน
แม้ทั้งสองฝ่ายจะยืนยันว่าไม่มีเจตนาทับซ้อนทางเทคโนโลยี แต่กรณีนี้สะท้อนความร้อนแรงของตลาดฮาร์ดแวร์ AI ที่กำลังแข่งขันกันนิยามอุปกรณ์แห่งอนาคต
คำสั่งศาลที่ห้ามใช้ชื่อ io ชั่วคราวอาจทำให้กระบวนการพัฒนาและทำตลาดล่าช้า รวมถึงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทำให้ OpenAI ต้องพิจารณาเปลี่ยนชื่อแบรนด์หรือแนวทางการสื่อสารในอนาคต ทั้งนี้ศาลนัดไต่สวนคำสั่งชั่วคราวอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2025 และกำหนดวันพิจารณาคดีใหญ่อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2028
อ้างอิงข้อมูล Financial Times , Techcrunch , Business Insider
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -