OpenAI ดึง Jony Ive ตำนานออกแบบ iPhone ร่วมงาน ดีลสะเทือนวงการเทคฯ เตรียมปั้นโปรดักต์เปลี่ยนโลก

เรียกได้ว่าสะเทือนไปทั้งวงการเทคโนโลยี เมื่อ OpenAI เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มเงินมูลค่าราว 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2 แสนล้านบาท เข้าซื้อกิจการ “io” สตาร์ตอัพฮาร์ดแวร์ AI ของ “Jony Ive” ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์สุดไอคอนิกของสมาร์ทโฟนปฏิวัติโลกอย่าง iPhone และสินค้าระดับโลกมากมาย

มากไปกว่านั้นยังปล่อยวิดีโอเปิดตัวที่นำเสนอแนวคิด เป้าหมายการทำงาน ตลอดจนแผนการปล่อยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ AI รุ่นใหม่ที่ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI อ้างว่า นี่คืออุปกรณ์ที่เจ๋งที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาอีกด้วย

ใครคือ Jony Ive

Jony Ive (โจนีย์ ไอฟ์) หรือ Jonathan Paul Ive นักออกแบบระดับตำนานของ Apple ผู้อยู่เบื้องหลังการบุกเบิกดีไซน์อุปกรณ์เทคโนโลยีที่โด่งดังและตราตรึงคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็น iPod, iPhone, iPad และ MacBook Air

Ive เข้าร่วมกับ Apple ในปี 1992 ในตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบอุตสาหกรรมในปี 1997 และต่อมาก็ได้ขึ้นเป็นตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบ โดยเขาเป็นที่รู้จักจากสไตล์การออกแบบที่เรียบง่าย สง่างาม และใช้งานได้จริง

ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นปรัชญาการออกแบบที่กลายเป็นหลักการสำคัญของ Apple โดยเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Steve Jobs (สตีฟ จ็อบส์) ผู้ก่อตั้ง Apple และมีบทบาทร่วมกันในการพัฒนาฮาร์ดแวร์โปรดักส์เรือธงของ Apple รวมไปถึงการวางระบบอินเทอร์เฟซ UX/UI ของระบบปฏิบัติการ

นอกจากนี้เขายังมีบทบาทสำคัญในการออกแบบสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ Apple ที่ชื่อว่า Apple Park ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2004 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2019

อย่างไรก็ดี Ive ออกจาก Apple ในปี 2019 เพื่อก่อตั้งบริษัทครีเอทีฟของตัวเองชื่อ “LoveFrom” เพื่อรับงานออกแบบ นอกจากนี้ยังก่อตั้งสตาร์ตอัพชื่อว่า “io” ในปี 2024 ร่วมกับอดีตทีมออกแบบระดับสูงของ Apple อย่าง Scott Cannon, Tang Tan และ Evans Hankey เพื่อเน้นออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์สำหรับรองรับการใช้งาน AI โดยเฉพาะ

สะเทือนวงการเทคฯ และยังสะเทือน Apple

ดีลนี้นับเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ OpenAI จนถึงปัจจุบันและเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่บริษัทตกลงซื้อกิจการ Windsurf เครื่องมือช่วยเขียนโค้ดด้วย AI มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย OpenAI ระบุว่า ดีลเข้าซื้อกิจการ io จะทำให้บริษัทก้าวเข้าสู่โลกของฮาร์ดแวร์อย่างจริงจัง หลังจากมีเป้าหมายที่จะขยายขอบเขตการทำงานของซอฟต์แวร์ AI สู่ชีวิตจริง

ทั้งนี้ OpenAI ชำระด้วยหุ้นทั้งหมด รวมถึงสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของ OpenAI ใน io ด้วย ภายใต้ข้อตกลงนี้ Ive จะเป็นผู้นำด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ของ OpenAI และจะทำงานใกล้ชิดกับทีมวิจัย ทีมวิศวกรรม และทีมผลิตภัณฑ์ โดย io จะกลายเป็นส่วนหนึ่งภายในองค์กร OpenAI ซึ่ง Ive และทีม “LoveFrom” ซึ่งเป็นกลุ่มนักออกแบบที่เขาก่อตั้ง จะยังคงดำเนินงานอย่างเป็นอิสระต่อไป

การประกาศดีลของ OpenAI เกิดขึ้นหลังงาน Google I/O 2025 เพียงหนึ่งวัน นอกจากนี้ยังชิงประกาศล่วงหน้าก่อนงาน WWDC 2025 เวทีสำคัญในการแสดงความก้าวหน้าด้าน AI ของ Apple แค่ 2 สัปดาห์

ความน่าสนใจอยู่ที่ดีลควบรวมในครั้งนี้ พร้อมการประกาศเป้าหมายพัฒนาคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ร่วมกัน ทำให้ OpenAI ชิงพื้นที่สื่อและพื้นที่ในสนามแข่งขันกลับมาได้อีกครั้งหลังเพียงข้ามคืน หลังนักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาจพลิกโฉมวงการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการแทนที่สมาร์ตโฟนและแล็ปท็อปที่ Apple ครองตลาดอยู่ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม OpenAI ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแน่ชัดว่าฮาร์ดแวร์ที่พวกเขากำลังพัฒนาจะมีหน้าตาอย่างไร แต่มีคาดการณ์ว่าจะเปิดเผยเพิ่มเติมในปีหน้า โดยที่ผ่านมา OpenAI เสริมทัพด้านฮาร์ดแวร์ OpenAI มาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งการว่าจ้างอดีตหัวหน้าโปรเจกต์แว่นตา AR “Orion” ของ Meta ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาให้มาดูแลด้านหุ่นยนต์และอุปกรณ์ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในสตาร์ตอัพด้านหุ่นยนต์ชื่อ Physical Intelligence ในซานฟรานซิสโกที่มุ่งเน้นการพัฒนา AI อเนกประสงค์สำหรับโลกจริง

การร่วมมือระหว่าง Jony Ive กับ OpenAI จึงอาจเป็นสัญญาณเตือนสำหรับ Apple ที่กำลังเจอวิกฤตเรื่องความเชื่อมั่นในเรื่อง Apple Intelligence ตกที่นั่งลำบาก และสั่นคลอนตำแหน่งบริษัทฮาร์ดแวร์อันดับหนึ่งของโลก หากเทคโนโลยี AI พัฒนาไปจนกลายเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ผู้ใช้งานใหม่

ในยุคที่การแข่งขันด้าน AI ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การกลับมาของ Jony Ive จึงไม่ใช่แค่การกลับมาของดีไซเนอร์ในตำนาน แต่คือการเปิดฉากศึกครั้งใหม่ในโลกฮาร์ดแวร์แห่งอนาคต โดยเฉพาะในยุค AI ที่ทิศทางการพัฒนาแอปพลิเคชันใช้งานต่อจากนี้กำลังเดินไปสู่คำว่า “อุปกรณ์อัจฉริยะ”

อ่านเพิ่มเติม

• เมื่อ “ความสมบูรณ์แบบ” กลายเป็นจุดอ่อน ทำไม Apple ถูกมองว่าล้มเหลวกับ AI
• แค่ Search ลดลงไม่ได้แปลว่าวิกฤติ Google ปล่อยหมัดฮุก “Google AI Ultra” ฟีเจอร์ระดับโปรสุดโหด

อ้างอิงข้อมูล OpenAI , CNBC , Bloomberg

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   

https://www.facebook.com/ThairathMoney