จากศัตรูสู่ลูกค้ารายใหญ่ OpenAI หันซบคลาวด์ Google เมื่อ “การประมวลผล” สำคัญกว่า “ความเป็นคู่แข่ง"

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จากศัตรูสู่ลูกค้ารายใหญ่ OpenAI หันซบคลาวด์ Google เมื่อ “การประมวลผล” สำคัญกว่า “ความเป็นคู่แข่ง"

Date Time: 11 มิ.ย. 2568 11:06 น.

Video

ต้นทุนพุ่ง! นำเข้าสินค้าออนไลน์ เตรียมรับมือ ภาษีนำเข้า 1 บาท (ม.ค. 69)  | Thairath Money Night Stand EP.25

Summary

OpenAI ทำข้อตกลงใช้บริการคลาวด์ของ Google คู่แข่งทางธุรกิจทั้งการพัฒนา AI และระบบเสิร์ชเอนจิ้น หลังบริษัทเผชิญกับความต้องการด้านการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดของ OpenAI และ Microsoft กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาปรับเงื่อนไขการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้นในอนาคต

Latest


OpenAI ทำข้อตกลงใช้บริการคลาวด์ของ Google ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจภายใต้ Alphabet เพื่อขยายการรองรับความต้องการด้านการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของบริษัท ต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงระหว่าง OpenAI และ Microsoft ในฐานะ Exclusive Provider หรือผู้ให้บริการคลาวด์แต่เพียงรายเดียวตั้งแต่ปี 2019 พร้อมเปิดทางให้ผู้ให้บริการคู่แข่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้หารือกันมานานหลายเดือนและสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ในอุตสาหกรรม AI ที่แม้แต่คู่แข่งรายใหญ่ก็ยังจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อรองรับความต้องการด้านการประมวลผลคลาวด์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ข้อตกลงนี้นับเป็นชัยชนะของ Google Cloud ซึ่งจะเข้ามาเสริมศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานให้กับ OpenAI ในการเทรนและให้บริการโมเดล AI ของตน โดยถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของ OpenAI ที่ต้องการกระจายแหล่งทรัพยากรการประมวลผลให้หลากหลายยิ่งขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้พึ่งพา Microsoft เป็นหลัก รวมไปถึงโครงการ “Stargate” ที่กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวในช่วงปลายปี 2022 OpenAI เผชิญกับความต้องการด้านการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งในขั้นตอนเทรนโมเดลและการประมวลผลข้อมูลสำหรับให้ผู้ใช้งานที่เรียกใช้โมเดล AI

ในขณะเดียวกัน Google ก็ได้เร่งขยายการใช้งานชิปประมวลผลเฉพาะทางที่พัฒนาเองในชื่อ TPU (tensor processing unit) จากเดิมที่จำกัดการใช้ภายในองค์กรเท่านั้น ส่งผลให้ Google ได้ลูกค้าใหม่ทั้งจากฝั่งบิ๊กเทค เช่น Apple และสตาร์ทอัป AI หน้าใหม่อย่าง Anthropic และ Safe Superintelligence ซึ่งล้วนก่อตั้งโดยอดีตผู้บริหาร OpenAI

แม้ ChatGPT ของ OpenAI จะเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของธุรกิจค้นหาของ Google แต่การจับมือในครั้งนี้สะท้อนว่า ทั้งสองบริษัทยินดีละทิ้งความเป็นคู่แข่งชั่วคราวเพื่อสนองต่อความต้องการทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า การเจรจาเคยถูกชะลอไว้เนื่องจาก OpenAI มีพันธะผูกพันกับ Microsoft ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาปรับเงื่อนไขการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้นในอนาคต

การที่ OpenAI กลายเป็นลูกค้ารายล่าสุดของ Google ชี้ให้เห็นถึงความสามารถของยักษ์ใหญ่รายนี้ในการใช้เทคโนโลยี AI ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ถึงซอฟต์แวร์ เพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจคลาวด์ โดยในปี 2024 Google Cloud มีรายได้รวม 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 12% ของรายได้รวมของ Alphabet

อย่างไรก็ตาม Google เองก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากตลาดในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนด้าน AI หน่วย DeepMind ของ Google ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโมเดล AI ระดับสูง ก็ยังแข่งขันโดยตรงกับ OpenAI และ Anthropic การขายพลังประมวลผลให้ OpenAI แม้จะเป็นโอกาสทางธุรกิจ แต่ก็อาจส่งผลให้ทรัพยากรของ Google ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าภายนอกเอง ซึ่งผู้บริหารการเงินของ Google ก็ยอมรับในไตรมาสก่อนหน้าว่าบริษัทมีทรัพยากรไม่พอต่อคำสั่งซื้อที่หลั่งไหลเข้ามา

โดยหลังจากข่าวนี้เผยแพร่ หุ้น Alphabet พุ่งขึ้น 2.1% ในช่วงบ่ายวันอังคาร ขณะที่หุ้น Microsoft ลดลง 0.6% นักวิเคราะห์จาก Scotiabank ระบุว่าการพัฒนานี้ค่อนข้างน่าประหลาดใจ โดยมองว่าเป็นโอกาสเติบโตของ Google Cloud แต่ก็เตือนว่าการเติบโตของ ChatGPT อาจเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของ Google ในธุรกิจค้นหาในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม

อ้างอิงข้อมูลจาก Reuters 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ