
ถ้าถามว่า “โฆษณาอะไรที่เคยดูแล้วน้ำตาไหล…โดยไม่รู้ตัว?”
เชื่อว่า หลายคนอาจนึกถึง Unsung Hero ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เงียบ ๆ แต่คอยช่วยเหลือผู้คนรอบตัว เด็กหญิงขอทาน, สุนัขหิวโซ, แม่ค้าขายกล้วยโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ นอกจาก “ได้เห็นความสุขเล็ก ๆ”
นี่คือโฆษณาไทยประกันชีวิตที่คนไทยทั่วประเทศจดจำ และคนทั่วโลกแชร์กันเป็นล้านวิว หรือบางคนอาจจำได้ถึงโฆษณาที่เล่าเรื่องความรักของพ่อแม่, ความเสียสละของครูต่างจังหวัด, หรือเด็กน้อยที่เรียนรู้ความหมายของการ “ให้”
สะท้อนภาพจำ ที่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา โฆษณาของ ไทยประกันชีวิต ไม่ได้แค่ขายประกันแต่มัน “ขายคุณค่า” และปลูกฝังแนวคิดเรื่องการใช้ชีวิต ที่ไม่หวังเพียงผลตอบแทน แต่มีหัวใจอยู่เบื้องหลัง
เบื้องหลังโฆษณาเหล่านี้ คือชายคนหนึ่งที่ไม่ค่อยปรากฏตัวหน้าสื่อแต่เขาคือผู้บุกเบิกสายงานประกันชีวิตไทยมาตั้งแต่ยุคที่ไม่มีใครเข้าใจมัน โดยชายคนนั้นมีชื่อว่า “วานิช ไชยวรรณ”
ชื่อของ “วานิช ไชยวรรณ” อดีตประธานกรรมการ บริษัทไทยประกันชีวิต ถูกค้นหาอีกครั้ง เมื่อปรากฎข่าวเศร้า เสียชีวิตลงแล้วในวัย 93 ปี ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยทิ้งไว้ทั้งอาณาจักรพันล้านเอาไว้
นำมาซึ่งการสืบค้นประวัติชีวิตที่น่าสนใจ กับการเป็นผู้ปลุกปั้น บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ อันดับ 2 ของประเทศ ที่เริ่มต้นมาจากศูนย์อย่างแท้จริง จนอาจเรียกได้ว่า เป็นอีกคนในตำนานที่ควรค่าแก่การจดจำ โดยไม่ต้องมีโฆษณาโปรโมต และเป็นผู้ที่เปิดข้อคำถามสำคัญ ที่ว่าทำไมองค์กรอย่างไทยประกันชีวิต จึงยังครองใจคนไทยมาช้านาน
ประวัติของเจ้าพ่อวงการประกันชีวิต “วานิช” เดิมประกอบอาชีพค้าข้าว ในยุคก่อนปี 2500 ที่ต้องฝ่าฟันทั้งภาวะเศรษฐกิจแปรปรวน และตลาดที่ผูกขาดโดยทุนใหญ่
ก่อนจะพลิกเส้นทางมาเข้าสู่วงการประกันชีวิตในช่วงปี 2515 หลังเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ผู้นำการปรับปรุงโครงสร้าง และระบบบริหารงานครั้งใหญ่
ด้วยเงินทุนและความเข้าใจ “ชีวิตคน” มากกว่าตัวเลขขณะที่คนอื่นขายประกันแบบยัดเยียด เขากลับเลือกขาย “ความมั่นใจในอนาคต” พร้อมกับยึดแนวคิดว่า “ประกันชีวิตไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่คือการดูแลครอบครัวในวันที่เราไม่อยู่แล้ว”
นี่เองคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ ไทยประกันชีวิต กับสโลแกนคุ้นหู :คิดเคียงข้างชีวิต ที่ไม่ได้โตจากยอดขาย แต่โตจาก “ความเชื่อใจ” ของผู้คนอย่างแท้จริง
เส้นทางธุรกิจที่มีจุดเริ่มต้นจาก “วานิช ไชยวรรณ” นอกจากมีการปรับโครงสร้างองค์กร รวมทั้งออกแบบกรมธรรม์ให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยมากขึ้น จนทีมผู้บริหารนำพา “ไทยประกันชีวิต” เข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในปี 2565 ได้สำเร็จ
โดยเริ่มซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นี้เป็นส่วนหนึ่งของวาระที่ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจครบ 80 ปี ในชื่อหุ้น TLI
ย้อนไป นอกจากไทยประกันชีวิต จะเฉิดฉายในตลาดหุ้นไทยแล้ว ยังมีการลงทุนในธุรกิจเบียร์ (Heineken, Tiger) ภายใต้ “TAP Group” และ ธนาคารไทยเครดิต ซึ่งนี่ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่น่าสนใจระหว่างสภาพคล่องเงินทุน, การจัดการความเสี่ยง และการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตธุรกิจอีกด้วย
ปัจจุบัน (ณ 31 มี.ค.2568) หุ้น TLI หรือ ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 612,487 ล้านบาท ขณะรายได้รวมเมื่อปี 2567 อยู่ที่ 106,073 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 11,682 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ (50.81%) คือ บริษัท วี.ซี.สมบัติ จำกัด ซึ่งมีตระกูลไชยวรรณ เป็นเจ้าของ
นอกจากนี้ นิตยสารฟอร์บส์ ยังเคยจัดอันดับวานิชให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยข้อมูลล่าสุดในปี 2567 วานิชอยู่ในอันดับที่ 8 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 120,978 ล้านบาท
ด้านชีวิตส่วนตัว วานิชมี ลูกชายและลูกสาวรวม 8 คน ซึ่งปัจจุบันมีทายาทบางคนที่เข้ามาบริหารงานในไทยประกันชีวิตและธนาคารไทยเครดิต เช่น
เรื่องราวของ “วานิช ไชยวรรณ” จึงไม่ใช่ว่าเขาคือใคร แต่คือบทพิสูจน์ว่า “หัวใจของธุรกิจ” ไม่ใช่กำไรสูงสุด…แต่คือการเข้าใจและยืนเคียงข้างชีวิตของผู้คน” อย่างแท้จริง สร้างความมั่นคงให้คนอีกนับล้านในวันที่ไม่มีใครมองเห็น “ประกันชีวิต” ว่าสำคัญอย่างไร?
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney