นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เชื่อว่าจะมีผลต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบายในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นธนาคารรัฐที่ใหญ่ที่สุด พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะตรึงไปจนถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก
“การตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ มีผลต่อกำไรของธนาคารที่อาจหายไปบางส่วน ซึ่งธนาคารออมสินก็พร้อมที่จะแบกรับไว้ แต่กรณีคนที่กู้ใหม่เงินงวดอาจปรับขึ้น เช่น หากกู้ 1 ล้านบาท ปกติผ่อน 7,000 ต่องวด ก็จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 7,500-8,000 บาทต่องวด”
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยเหลือลูกค้าออกไปอย่างน้อยถึงเดือน ก.ย.65 ส่วนหลังจากนั้นจะต้องดูทิศทางตลาดดอกเบี้ย รวมถึงดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนว่าจะมีการปรับขึ้นเท่าไร อย่างไรก็ตาม ธอส.ก็พร้อมเข้าไปช่วยบรรเทาผลกระทบช่วยลูกค้าที่กู้บ้านกับ ธอส. เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าภาพรวมของตลาดสินเชื่อบ้าน.