“แอปฯ ธนาคารล่ม-แบงก์ขัดข้อง” โอนเงินไปแล้ว ไม่ได้รับ ทำอย่างไรดี

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“แอปฯ ธนาคารล่ม-แบงก์ขัดข้อง” โอนเงินไปแล้ว ไม่ได้รับ ทำอย่างไรดี

Date Time: 4 ก.ค. 2566 11:44 น.

Video

ลายเส้นสะท้อนตัวตนเบียร์ “The Brewing Project“ | BrandStory Special EP x เมรัยไทยแลนด์

Summary

  • หาคำตอบ ปัญหา โอนเงินไปแล้ว แต่ปลายทางไม่ได้รับเงิน จะทำอย่างไรดี โอนใหม่ หรือ รอก่อน? ธปท.แนะ อย่าเพิ่งกังวลใจ เงินเข้าแน่นอน หลักฐานยืนยัน คือ QR code ที่สลิปโอนเงิน

Latest


บ่อยจนช้ำ สำหรับคนไทย กับกรณี “แอปฯ ธนาคารล่ม” Mobile Banking ของแบงก์ต่างๆ ระบบขัดข้องทำงานไม่ได้ เหตุการณ์ล่าสุด ก็คงเป็นความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นมาไม่นานนี้เอง 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อแอปพลิเคชันของธนาคารทุกแห่ง พร้อมใจกันขัดข้อง เสียงโวยกระหึ่มโซเซียลมีเดีย พร้อมๆ กับความเดือดร้อน วุ่นวายที่เกิดขึ้น 

ตั้งแต่ โอนเงินไม่ได้-โอนเงินไปแล้วไม่เข้า อีกทั้ง สแกนจ่าย และ รับเงิน ไม่ได้ ตั้งแต่ช่วงบ่ายลากถึงช่วงค่ำของวันเดียวกัน ซึ่งต่อมา สมาคมธนาคารไทย ได้มีการชี้แจงภายหลัง ว่าเกิดจาก ระบบพร้อมเพย์มีปัญหา ส่งผลต่อการทำธุรกรรมโอนเงิน/ชำระเงินผ่านบริการพร้อมเพย์ ทำให้ลูกค้าบางส่วนทำธุรกรรมไม่ได้หรือมีผลการทำธุรกรรมล่าช้า

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่านี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกๆ เพราะคนไทย เจอกับปัญหานี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือน ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นจำนวนมากพร้อมๆ กัน ส่งผลให้ปัญหา แบงก์ล่ม แอปฯ ธนาคารขัดข้อง เกิดขึ้นเป็นประจำ 

สถิติแอปฯ ธนาคารล่ม

เจาะสถิติข้อมูล แอปฯ ธนาคารล่ม ทั้งปี 2565 มีการพูดถึงกรณีดังกล่าว มากถึง 1,737,600 Engagement ขณะ ช่วงไตรมาสแรก ปี 2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า ข้อมูลจากธนาคารทั้ง 20 แห่ง พบมี 3 ธนาคารที่มีระบบ Mobile Banking ขัดข้อง คือ 

  • ธนาคารกรุงเทพ Mobile Banking ขัดข้อง 1 ครั้ง (น้อยกว่า 1 ชั่วโมง )
  • ธนาคารกรุงไทย Mobile Banking ขัดข้อง 1 ครั้ง (นาน 2 ชั่วโมง)
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ Mobile Banking ขัดข้อง 2 ครั้ง (นาน 1 ชั่วโมง)


แม้เป็นสถิติที่ต่ำกว่าหลายๆ ช่วงก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าว มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยๆ และอยู่นอกการควบคุมของผู้บริโภคอย่างเราๆ คำถามที่ต้องหาคำตอบให้เจอมากที่สุด คือ ถ้าแบงก์มาล่ม ขณะที่เรากำลังธุรกรรมทางการเงินอยู่นั้น จะรับมือและแก้ปัญหาอย่างไร? 

“ThairathMoney” ตรวจสอบคำชี้แจงและแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงกรณี หากโอนเงินผ่าน Mobile Banking เงินในบัญชีเราถูกตัดเงินออกไปแล้ว แต่ผู้รับเงินปลายทาง ไม่ได้รับเงินจะทำอย่างไรดี? สับสนจะโอนใหม่หรือรอก่อน 

ธปท.ชี้ว่า เราอาจต้องเผชิญกับปัญหาได้อีก ในช่วงที่ระบบอาจมีรายการโอนเงินจำนวนมาก และทำให้ระบบทำงานช้ากว่าปกติ โดยแนะเบื้องต้น กรณีที่ระบบขัดข้อง โอนเงินและไม่เข้าปลายทาง ผู้บริโภคอย่าเพิ่งกังวลใจ เพราะเงินจะเข้าบัญชีแน่นอน ซึ่งธนาคารจะนำเงินเข้าบัญชีภายใน 1 วัน ที่สำคัญการชำระเงินมีผลสมบูรณ์ตั้งแต่เวลาที่ลูกค้าได้ชำระเงิน ไม่ต้องกังวลว่าจะชำระเงินล่าช้า

อีกทั้ง แม้เงินยังไม่ปรากฏที่บัญชีปลายทาง แต่เราสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ว่าเงินถูกโอนมาเข้าบัญชีปลายทางแล้วหรือยัง ด้วยการสแกน QR code ที่สลิปโอนเงิน หรือ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารนั้นๆ โดยตรง พร้อมเตรียมข้อมูลให้พร้อม เพื่อใช้ในการประสานงานแก้ไข ได้แก่

  • เลขที่บัญชีผู้โอน
  • ช่องทางการทำรายการ
  • วันที่-เวลาที่ทำรายการ
  • จำนวนเงิน
  • โอนโดยระบบพร้อมเพย์ หรือเลขที่บัญชี
  • ชื่อธนาคารผู้รับ
  • หมายเลขบัญชีผู้รับเงิน
  • ชื่อ-นามสกุล(ผู้โอน)
  • หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ

รวมเบอร์ call center ธนาคาร

  • ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0-2888-8888 กด 001
  • ธนาคารกรุงไทย โทร. 0-2111-1111 กด 108
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โทร. 1572 กด 5
  • ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 หรือ 0-2645-5555 กด *3
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 0-2777-7575
  • ธนาคารทหารไทยธนชาต โทร. 1428 กด 03
  • ธนาคารออมสิน โทร. 1115 กด 6
  • ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย โทร. 0-2626-7777 กด 00

ส่วนถ้าต้องการโอนเงินแต่ Mobile Banking ขัดข้องทำอย่างไร?

ธปท.แนะ ให้เราทำธุรกรรมได้ที่ตู้ ATM สาขาของธนาคาร หรือชำระที่ตัวแทนของธนาคารได้แทน 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ