
เกาะติดความเคลื่อนไหวของ GULF ยักษ์ใหญ่แห่งวงการพลังงาน ที่เดินหน้าทยอยเก็บหุ้น KBANK จนกลับมามีสัดส่วนการถือครองเกิน 5% อีกครั้ง แม้นักวิเคราะห์จะคาดว่ากำไรอาจลดลงในระยะสั้น
ในอีกมุมหนึ่ง นักวิเคราะห์ยังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยชี้ไปที่ปัจจัยสำคัญอย่าง "เงินปันผล" ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสูงถึง 6% ต่อปี ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจอย่างมากในภาวะตลาดปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างจับตาว่าเบื้องหลังการเข้าลงทุนของ GULF ครั้งนี้ ที่แจ้งว่าเป็นเพียงการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนทางการเงินนั้น อาจมีนัยที่ซับซ้อนกว่าที่เห็นหรือไม่ เพราะการเคลื่อนไหวนี้ชวนให้นึกถึงการเข้าซื้อกิจการ INTUCH จนสามารถขยายอาณาจักรจากธุรกิจพลังงานข้ามมาสู่โลกโทรคมนาคมและดิจิทัลได้สำเร็จ
ล่าสุด บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้เข้าซื้อหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เพิ่มเติมอีก โดยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าวันที่ 14 ตุลาคม 2568 GULF ได้เข้าซื้อหุ้น KBANK เพิ่มเติมจำนวน 5,399,600 หุ้น หรือคิดเป็น 0.2278%
ส่งผลให้ GULF ถือหุ้นใน KBANK ทั้งสิ้น 119,149,900 หุ้น หรือ 5.0288% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4 ของธนาคาร
หากย้อนดูเส้นทางการเข้าลงทุนของ GULF ใน KBANK ที่ผ่านมา จะพบว่าก่อนหน้านี้ GULF ได้เข้าถือหุ้นใน KBANK เป็นครั้งแรกในสัดส่วน 3.25% เมื่อเดือนมีนาคม 2568
และเคยถือหุ้นในสัดส่วนเกิน 5% มาแล้ว ในเดือนพฤษภาคม GULF หลังได้เข้าซื้อหุ้น KBANK เพิ่ม 12.51 ล้านหุ้น หรือ 0.53% ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 5.23%
อย่างไรก็ดี มีช่วงหนึ่งที่ GULF ได้ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KBANK ลงให้ต่ำกว่า 5% ซึ่งนักวิเคราะห์ฯ มองว่าเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากการถือหุ้นเกิน 5% จะทำให้ถูกจัดว่าเป็นกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีข้อจำกัดในเรื่องวงเงินสินเชื่อ
ในมุมของ GULF ได้เคยแจ้งว่าการเข้าถือหุ้นใน KBANK นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขายและรับเงินปันผล อย่างไรก็ดี การทยอยเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดได้กลับมาถือหุ้นเกิน 5% อีกครั้ง เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในแวดวงการลงทุน
ในมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ ยังมองว่า KBANK เป็นหุ้นที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากเงินปันผล แม้จะต้องเผชิญกับผลประกอบการที่อ่อนตัวลงในระยะสั้นก็ตาม
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดว่ากำไรสุทธิของ KBANK ในไตรมาสที่ 3/2568 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอยู่ที่ประมาณ 11,208 ล้านบาท ซึ่งลดลงทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยกดดันหลักมาจากการคาดการณ์ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) จะลดลงตามต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ประกอบกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะกำไรจากเงินลงทุนและเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ
ซึ่งแนวโน้มการอ่อนตัวของกำไรนี้คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/2568 ตามปัจจัยฤดูกาลด้านค่าใช้จ่ายที่มักจะสูงขึ้นในช่วงปลายปี
แม้ว่าแนวโน้มกำไรในระยะสั้นจะเผชิญกับความท้าทาย บล.ทรีนีตี้ ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับหุ้น KBANK โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจาก "เงินปันผลที่น่าสนใจ" ซึ่งคาดการณ์ว่าจะให้อัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงถึงประมาณ 6% ต่อปี โดยให้ราคาเป้าหมายในปี 2569 ที่ 182 บาท
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า หุ้นกลุ่มธนาคารของไทย โดยเฉพาะ BBL, KBANK และ TISCO ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ หลังจากกลุ่มธนาคารในสหรัฐอเมริกาประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ออกมาแข็งแกร่งและดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีให้กับหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์จากจิตวิทยาบวกจาก TISCO ที่ได้ประกาศงบไตรมาส 3/2568 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มีมุมมองเป็น "บวกเล็กน้อย" ต่อผลประกอบการดังกล่าว การผสานกันของปัจจัยบวกทั้งสองนี้ จึงเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารด้วย
GULF ได้ขยายอาณาจักรการลงทุนสู่ธุรกิจอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์หลักในการต่อยอดจากฐานธุรกิจเดิมที่แข็งแกร่ง ไปสู่การลงทุนใน "โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ"
ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็น มีรายได้สม่ำเสมอ และมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต โดยอาศัยกระแสเงินสดจำนวนมหาศาลจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นหัวหอกในการขยายธุรกิจ
จุดเปลี่ยนที่ชัดเจนที่สุดคือการเข้าลงทุนใน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซึ่งทำให้ GULF กลายเป็นผู้มีอำนาจควบคุมใน AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถืออันดับหนึ่งของไทย
การลงทุนครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การซื้อกิจการเพื่อรับเงินปันผล แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อรุกเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ดี รูปแบบการลงทุนนี้ ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทยอยเข้าซื้อหุ้น KBANK อย่างต่อเนื่อง ซึ่งใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน
แม้ในเบื้องต้น GULF จะระบุว่าเป็นการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนทางการเงิน แต่ในภาพใหญ่ก็อดคิดไม่ได้ว่านี่อาจเป็นวางตำแหน่งตัวเองในโลกการเงินยุคใหม่ โดยเฉพาะบริการด้านฟินเทค (FinTech) และธนาคารเสมือน (Virtual Bank) ที่มีพันธมิตรครบวงจรหรือไม่
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้