หุ้นสื่อนอกบ้าน PLANB และ VGI เติบโตสวนทางเศรษฐกิจชะลอตัว นักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อ PLANB มากกว่า โดยแนะนำ "ซื้อ" ส่วน VGI มีความเสี่ยงประเด็น Virtual Bank โดยถูกปรับลดประมาณการ และราคาเป้าหมายลง
แม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวและส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวม แต่ สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home Media หรือ OOH) กลับยังคงมีการเติบโตที่ดี
จากการสำรวจผลการดำเนินงานพบว่า
นักวิเคราะห์มองว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว สื่อนอกบ้านยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะ PLANB ที่มีอัตราการใช้สื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ VGI ยังคงมีความเสี่ยงจากประเด็น Virtual Bank และ Entertainment Complex
บล.กรุงศรี ประเมินว่า กำไรของ VGI ในไตรมาส 1 ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค. 68) อยู่ที่ 56 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากค่าโฆษณาต่ำกว่าคาด 11% จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเป็นไปตามฤดูกาล โดยคาดว่ารายได้ค่าโฆษณาอยู่ที่ 557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรีได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2570 ของ VGI ลง 16-18% จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจกดดันรายได้ค่าโฆษณามากกว่าคาด โดยปรับลดประมาณการรายได้ค่าโฆษณาลง 3-6% และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2569 ลงเหลือ 2.18 บาท (จากเดิม 2.40 บาท) แต่ยังคงคาดว่ากำไรสุทธิปี 2569 จะเติบโต 42% จากการฟื้นตัวจากฐานต่ำ
บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ "Reduce" สำหรับ VGI และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2569 (สิ้นสุด มี.ค. 2569) เป็น 2.18 บาท (จากเดิม 2.40 บาท) เนื่องจากผลประกอบการมีแนวโน้มต่ำกว่าคาดการณ์เดิม
นอกจากนี้ ยังมองว่าราคาหุ้น VGI ซื้อขายที่ P/E ปี 2569 สูงถึง 62 เท่า (เทียบเท่า +1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของกลุ่ม Media ในปัจจุบันที่ 16-18 เท่า สะท้อนความคาดหวังโอกาสเติบโตจากเงินเพิ่มทุน PP 1.3 หมื่นล้านบาทแล้ว
ล่าสุด การประกาศชื่อผู้เข้ารอบใบอนุญาต Virtual Bank (อย่างไม่เป็นทางการ) ไม่มีชื่อของกลุ่ม VGI ขณะที่โครงการ Entertainment Complex ก็มีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจาก พ.ร.บ.ฯ ผ่าน ครม. แล้ว แต่ยังไม่เข้าสภาฯ และยังคงมีเสียงต่อต้านจากประชาชนที่กังวลเรื่องบ่อนคาสิโนใน Entertainment Complex ว่าอาจ "ได้ไม่คุ้มเสีย" จากผลกระทบเชิงลบต่อภาคประชาสังคม และอาจเป็นแหล่งฟอกเงินหากไม่มีมาตรการควบคุมที่ดีพอ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ชี้ว่า PLANB ให้ข้อมูลแนวโน้มไตรมาส 2 ที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน คาดอัตราการใช้บริการสื่อ (Utilization) อยู่ที่ 73%-75% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ 67.7% แม้เทียบกับปีก่อน Utilization จะทรงตัว แต่เป็นการทรงตัวบนฐาน Media Capacity ที่เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน และภาพรวมของปี 2568 แนวโน้มสื่อนอกบ้านจะเติบโตได้ดีกว่าสื่อโฆษณารวมที่ชะลอตัว
PLANB ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 5-6% จากปีก่อน โดยมาจากสื่อกลางแจ้งประมาณ 8-8.3 พันล้านบาท, ธุรกิจ Engagement Marketing 1.5-1.7 พันล้านบาท และธุรกิจกีฬา 1 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30-31% และงบลงทุนที่ 4.7-4.9 พันล้านบาท
PLANB จะเป็นพาร์ทเนอร์ของกลุ่ม JAS-MONO ในการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการใช้สื่อ (Utilization Rate) และรายได้จากการขายสิทธิ์ผู้สนับสนุน นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเข้าซื้อกิจการ Hello LED และบริหารสื่อของ VGI คาดรับรู้รายได้ในเดือนสิงหาคม 2568 โดยประเมินมูลค่าผลประโยชน์ทางธุรกิจเบื้องต้น (Quick-win Synergy) ประมาณ 150-250 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และมีโอกาสซื้อหุ้นคืนหลังการเพิ่มทุนแบบ PP เสร็จสิ้น
บล.หยวนต้า มองว่า กำไรไตรมาส 2 ของ PLANB จะเติบโต เนื่องจาก OOH ยังคงเติบโตดีกว่าสื่อโฆษณารวม และ PLANB จะรับรู้รายได้จากสื่อใหม่เต็มไตรมาส ขณะเดียวกันเริ่มมีรายได้จากการบริหารการขายสื่อโฆษณาให้ VGI ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 โดยได้รับค่าบริหารในอัตรา 3-5% ของรายได้จากสื่อที่ PLANB ขายให้ VGI
ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรคาดว่าจะดีขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น และไม่มีรายการบันทึกด้อยค่าจากธุรกิจ BNK เหมือนไตรมาส 1/2568 ที่มีการบันทึก 19 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายการสุดท้ายแล้วในปีนี้ พร้อมแนะนำ "ซื้อ" PLANB ในราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้