สื่อโทรทัศน์ ฝ่าวิกฤติ เม็ดเงินโฆษณาวูบหนัก ฉุดกำไร 3 หุ้นดังทรุด ต้องเร่งเอาตัวรอด

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สื่อโทรทัศน์ ฝ่าวิกฤติ เม็ดเงินโฆษณาวูบหนัก ฉุดกำไร 3 หุ้นดังทรุด ต้องเร่งเอาตัวรอด

Date Time: 1 มี.ค. 2568 09:43 น.

Video

กลเม็ดแบบ Netflix ทำไมคู่แข่งเลียนแบบให้ตายยังไง ก็ไล่ไม่ทัน | Digital Frontiers

Summary

  • BEC และ ONEE ต่างได้รับผลกระทบโดยตรงจากการหดตัวของรายได้โฆษณาทางโทรทัศน์ ด้าน WORK ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก

Latest


อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การลดลงของเม็ดเงินโฆษณาถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรายได้และกำไรของสถานีโทรทัศน์และผู้ผลิตสื่อรายใหญ่

จะเห็นได้ว่า บริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง บีอีซี เวิลด์ (BEC) และ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) ต่างได้รับผลกระทบโดยตรงจากการหดตัวของรายได้โฆษณาทางโทรทัศน์ แม้บางบริษัทจะพยายามปรับกลยุทธ์ผ่านการบริหารต้นทุนและขยายธุรกิจไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้ที่ลดลงจากโฆษณาทีวี ขณะที่ เวิร์คพอยท์ (WORK) ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก จนต้องเร่งปรับตัวผ่านการเพิ่มรายได้จากธุรกิจผลิตรายการและอีเวนต์

BEC กำไรร่วง 54% เม็ดเงินโฆษณาหดจากภาวะเศรษฐกิจ

บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BEC รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ผลกําไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ ในปี 2567 อยู่ที่ 96.3 ล้านบาท ลดลง 113.7 ล้านบาท หรือ -54.2% จากปีก่อน โดยปรับตัวลดลงเป็นผลจากเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ในปี 2567 ลดลง

ทั้งนี้ จากสภาพเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอน ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงทําให้นักลงทุนและผู้ประกอบการมีการชะลอ การใช้จ่ายภายในประเทศตลอดทั้งปี 2567

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวหลายรายการ รวมทั้งสิ้น 247.3 ล้านบาท  ซึ่งหากไม่รวมรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทฯ จะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 4.54 บาท โดยมองว่าหุ้น BEC น่าสนใจจากผลประกอบการมีสัญญาณ Turnaround หลังกำไรปกติไตรมาส 4/67 ฟื้นเด่นจากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรหนัง “ธี่หยด2” และลดค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดี อย่างไรก็ตาม มีค่าใช้จ่ายพิเศษฉุดผลงานไตรมาส 4/67 พลิกขาดทุนสุทธิ 35 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 คาดกำไรปกติโตต่อเนื่องเป็น 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +14% จากคาดรายได้จากการบริหารสิทธิ์และจัดกิจกรรมโตต่อเนื่อง และคาดมีส่วนแบ่งกำไรจากภาพยนตร์ต่อเนื่อง

โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าผลิตภาพยนตร์ 2-3 เรื่อง ทั้งนี้ เราปรับเพิ่มกำไรปี 2568-2569 ขึ้น 28-30% จากการปรับลดค่าใช้จ่าย SG&A ลง -16% ผลบวกจากการปรับโครงสร้างองค์กร และปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นจากค่าใช้จ่ายการผลิตละครมีแนวโน้มลดลงตามนโยบายควบคุมต้นทุน

ONEE ปรับกลยุทธ์รับ “สื่อโฆษณาโทรทัศน์” ขาลง

บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE รายงานว่า ในปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 426.23 ล้านบาท ลดลง 80.34 ล้านบาท หรือ -15.86% จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.39% เปรียบเทียบกับ 7.78% ในปีก่อน อันเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาโทรทัศน์ที่ปรับตัวลดลง ทำให้ต้องใช้เม็ดเงินในการประชาสัมพันธ์ Content โดยเฉพาะ oneD Original มากขึ้น

ในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 6,609.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177.72 ล้านบาท หรือ 2.76% โดยรายได้เพิ่มขึ้นในแทบ ทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งจาก Content Marketing และ Idol Marketing ยกเว้น ธุรกิจ Production Business

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า หุ้นยังไม่อยู่ในจุดที่น่าเข้าลงทุนเนื่องจากธุรกิจหลักคือ TV advertising ภาพอุตสาหกรรมยังอยู่ในแนวโน้มขาลง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของกําไรปี 2568 คาดว่าจะยังไม่โดดเด่นที่ 5.6%ทําให้เรามองว่าหุ้นยังขาดปัจจัยบวกระยะสั้น

แต่ด้วยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับ P/E ปี 2568 16.9 เท่า ทําให้คิดว่า Downside ค่อนข้างที่จะจํากัด คงคําแนะนํา “ถือ” โดยเรามีการปรับราคาเป้าหมายลงอยู่ที่ 3.30 บาท จาก 4.30 บาท

WORK พลิกขาดทุน 201 ล้านบาท เร่งเพิ่มรายได้รับจ้างผลิตรายการ

บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น WORK ผลการดําเนินงานของบริษัทตามงบการเงินรวมสําหรับปี 2567 สิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2567 มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 201.02 ล้านบาท ลดลง 214.50 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น -1,591% จาก ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีผลกําไรสุทธิเท่ากับ 13.48 ล้านบาท

บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,339.78 ล้านบาท ลดลง 79.34 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 3% จากปี 2566 อยู่ที่ 2,419.12 ล้านบาท โดยหลัก ๆ มาจากรายได้โฆษณาทางทีวีและออนไลน์ที่ลดลง 13% ตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทปรับกลยุทธ์เพิ่มรายได้รับจ้างผลิตรายการและขยายบริการจัดงาน Event ส่งผลให้รายได้จาก Event เติบโตถึง 78% พร้อมรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวทีที่เพิ่มขึ้น 11%

โดย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เราคงคำแนะนำ “ขาย” และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 4.70 บาท หลังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นของผลประกอบการ แม้ปี 2567 จะมีการด้อยค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (ละคร) ลงเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรในอนาคต

แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่า WORK มีความเสี่ยงจากภาวะอุตสาหกรรมสื่อทีวีมีแนวโน้มลดลง และบริษัทไม่มี Content ดีพอจะดึงดูดเม็ดเงินโฆษณาไว้ได้ ดังนั้น ผลประกอบการยังมีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่องในปี 2568-2569 จากแรงกดดันด้านรายได้

JKN ไม่ส่งงบ เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน

อีกหนึ่งหุ้นสื่อที่น่าจับตา คือ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น JKN หลังพบว่ายังไม่มีการรายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนผลประกอบการล่าสุดปี 2566 พบมีรายได้รวม 2,506.65 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่มีรายได้ 2,670.10 ล้านบาท ขณะเดียวกันมีผลขาดทุนสุทธิปี 2566 ที่ 2,128.12 ล้านบาท จากกำไรสุทธิในปี 2565 ที่ 608.43 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้หุ้น JKN เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2567 และงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2567  มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนดล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนนั้น

ในกรณีของ JKN การแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไป โดยนำส่งงบการเงินที่นำส่งล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกงวดภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2569 หากครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทยังไม่สามารถนำส่งงบการเงินได้อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกงวด ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาดำเนินการเพิกถอน หุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ