ไม่พลิกโผ แบงก์ชาติประกาศ 3 กลุ่มทุนคว้าไลเซนส์ Virtual Bank เอซีเอ็ม (กลุ่ม CP) - กรุงไทย - SCBX
Date Time: 19 มิ.ย. 2568 19:16 น.
“Summary“
แบงก์ชาติ ประกาศรายชื่อ 3 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการ Virtual Bank ประกอบด้วย กลุ่มเอซีเอ็ม โฮลดิ้ง กลุ่มธนาคารกรุงไทย และกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมเงื่อนไขเตรียมพร้อมให้บริการภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาอนุมัติเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank จำนวนทั้งสิ้น 3 ราย ประกอบด้วย
- รายที่ 1 กลุ่มบริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด
- รายที่ 2 กลุ่มธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
- รายที่ 3 กลุ่มบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) WeTechnology Limited KakaoBank Corp.
ทั้งนี้ การพิจารณาข้างต้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลังฯ โดยครอบคลุมทั้งคุณสมบัติ แผนการประกอบธุรกิจ รวมถึงศักยภาพของผู้ขออนุญาตแต่ละรายในการนำเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่หรือบริการทางการเงินที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริการทางการเงินที่มีอยู่เดิมผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้บริการทางการเงินแต่ละกลุ่ม
โดยเฉพาะรายย่อย (retail) และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ยังไม่ได้รับบริการทางการเงินที่เพียงพอและเหมาะสมหรือที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ตลอดจนการสร้างประสบการณ์การใช้บริการทางการเงินที่ดีแก่ผู้ใช้บริการ และการนำเสนอนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเหมาะสมทั้งด้านคุณภาพและด้านราคา นอกจากนี้ยังคำนึงถึงจำนวนที่เหมาะสมของธนาคารพาณิชย์รายใหม่ เพื่อช่วยกระตุ้นการแข่งขันในระบบสถาบันการเงิน อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฝากเงิน ผู้ใช้บริการ และระบบเศรษฐกิจการเงินไทยโดยรวม โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศ
โดยในการพิจารณาดังกล่าว ธปท. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับกระบวนการพิจารณาที่โปร่งใสและมีการปฏิบัติต่อผู้ขออนุญาตอย่างเท่าเทียม รวมทั้งมีการพิจารณาและสอบทานข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบด้าน รัดกุม และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนมีกระบวนการตรวจสอบการมีส่วนได้เสียของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาคำขออนุญาตอย่างครบถ้วน
รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ที่เข้าสมัครและผ่านการพิจารณาทั้งสามรายได้แสดงให้เห็นถึงการเตรียมการและการให้คำมั่นจากผู้ถือหุ้นและพันธมิตรทางธุรกิจที่จะปฏิบัติตามกรอบร่วมกัน โดยแต่ละรายมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความหลากหลายของนวัตกรรมและบริการทางการเงิน และเติมเต็มช่องว่างของระบบการเงิน เพิ่มโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการ และช่วยเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจการเงินของไทยให้ดียิ่งขึ้น
ยกตัวอย่าง จุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่เอื้อต่อกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย โดยเฉพาะ SMEs รายเล็กและกลุ่มรายได้น้อย/ไม่ประจำ อาทิ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ร้านค้าขนาดเล็ก กลุ่มผู้ผลิตและเกษตรกร เช่น สินเชื่อสำหรับ SMEs รายเล็กที่สามารถเลือกยอดจ่ายชำระคืนตามรายรับจริง สินเชื่อสำหรับผู้ค้าปลีกเพื่อประกอบอาชีพที่เหมาะกับระดับความเสี่ยง รวมถึงเงินฝากที่เอื้อต่อการออม ซึ่งเริ่มต้นด้วยวงเงินขนาดเล็ก สามารถเลือกงวดการออมที่เหมาะกับงวดรายวันได้ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับได้ตามลักษณะของกิจกรรม เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังข้างต้นจะต้องดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด รวมถึงผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank และต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ (วันที่ 19 มิถุนายน 2568)
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -
Author
