โจทย์ใหญ่ Virtual Bank ไทย เมื่อ คลัง กับ แบงก์ชาติ คิดไม่เหมือนกัน ต้องเดินอย่างไรถึงเหมาะสม ?

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

โจทย์ใหญ่ Virtual Bank ไทย เมื่อ คลัง กับ แบงก์ชาติ คิดไม่เหมือนกัน ต้องเดินอย่างไรถึงเหมาะสม ?

Date Time: 6 พ.ค. 2568 19:39 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

มุมมองที่แตกต่างกันทางนโยบายเรื่องจำนวนใบอนุญาต Virtual Bank ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องการให้เพียง 3 ราย กับกระทรวงการคลังที่ผลักดันทั้ง 5 ราย สะท้อนความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่าง "เสถียรภาพระบบการเงิน" กับ "การเข้าถึงบริการทางการเงิน" นักวิชาการชี้ความเห็นต่างนี้เป็นเรื่องธรรมชาติตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน พร้อมชี้ว่าเส้นทาง Virtual Bank ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยข้อมูล ข้อเท็จจริง และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐในการตัดสินใจ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความกล้าทดลองกับความรอบคอบในการควบคุมความเสี่ยง

Latest


ในยุคดิจิทัล Virtual Bank หรือ "ธนาคารไร้สาขา" กำลังถูกมองว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกการเข้าถึงบริการทางการเงิน ลดต้นทุน และกระตุ้นการแข่งขันในระบบธนาคารไทย โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารแบบเดิม จากโลกที่ผู้คนมากมายต้องเดินเข้าตึกสูง รอคิวยาวเหยียด สู่การทำธุรกรรมปลายนิ้วได้ทุกที่ทุกเวลา  

หลังจากเปิดรับสมัครและพิจารณาอย่างเข้มข้นเป็นเวลาเกือบปี ในที่สุด “Virtual Bank” ที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นแรงผลักสำคัญในการปฏิรูปโครงสร้างบริการทางการเงินไทย ก็เริ่มเห็นเค้าลางชัดเจน หลังมีข่าวลือจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนาม จากกระทรวงการคลัง เผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คัดเลือก 3 กลุ่มทุน จากทั้งหมด 5 ราย ผ่านคุณสมบัติเข้าสู่รอบสุดท้ายแล้ว 

แต่ประเด็นที่กลับกลายเป็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เห็นจะเป็นเรื่องของ “จำนวนใบอนุญาต” ที่แบงก์ชาติได้เลือกผู้เล่นในรอบนี้ ซึ่งต่างจากที่กระทรวงการคลังเคยแสดงจุดยืนว่าไม่จำกัดจำนวน หากผู้ยื่นขอใบอนุญาตมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อเร่งให้ไทยเข้าสู่การแข่งขันในเศรษฐกิจยุคใหม่ เพิ่มตัวเลือกแก่ผู้บริโภค และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายใหม่ได้พิสูจน์ศักยภาพ  

หลังจากกระแสเรื่องจำนวนใบอนุญาตออกมานั้น ไม่กี่วันต่อมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อถึงจุดยืนของกระทรวงการคลังว่าควรให้ใบอนุญาตผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาทั้ง 5 รายที่ผ่านเกณฑ์เงื่อนไขคุณสมบัติ แต่อย่างไรก็ตามธนาคารแห่งประเทศไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนตั้งแต่แรกว่ามีความต้องการที่จะให้ใบอนุญาตผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเพียง 3 ราย โดยมองว่าจำนวนผู้เล่นที่จะเข้ามาไม่ควรมีมากเกินไปและควรมีขนาดใหญ่พอเพื่อให้สามารถแข่งขันกับรายเดิมได้ 

จุดเปลี่ยนของระบบการเงินไทย ภายใต้เกมของ Virtual Bank กำลังถูกท้าทายด้วยคำถามสำคัญระหว่าง "เสถียรภาพ" กับ "การเข้าถึง" เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังมีมุมมองที่ต่างกัน แล้วในบริบทแบบประเทศไทย แบบไหนถึงเหมาะสม ?

นักวิชาการชี้ อนาคต Virtual Bank ไทย ขึ้นกับ สมดุล "เสถียรภาพ-การเข้าถึง"

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. ภาสกร ธรรมโชติ อาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์​ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. ภาสกร ธรรมโชติ อาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์​ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. ภาสกร ธรรมโชติ อาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่า จากประเด็นที่กำลังถูกจับตามองคือ จำนวนที่เหมาะสมในการให้ใบอนุญาตผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา ภายใต้ภูมิทัศน์ใหม่ของภาคการเงิน การผลักดัน Virtual Bank เป็นก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัลและเป้าหมายการเติบโตอย่างทั่วถึง แต่เส้นทางนี้ไม่ง่าย และต้องการความรอบคอบสูง

เป็นที่ทราบกันดีว่าการเข้ามาสู่สนามธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาไม่ใช่เรื่องง่าย รายงานของ SIMON-KUCHER 2022 เกี่ยวกับสถานการณ์ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาของโลกพบว่า ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำกำไรได้ กว่าจะทำกำไรได้ก็ต้องมองกันในระยะยาว 

ดร.ภาสกร ชี้ว่า Virtual Bank ในภาพรวมของโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงจากยุคตื่นทองที่มีการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่จำนวนมากเริ่มชะลอตัวลง ผู้ที่เข้ามาในแวดวงธนาคารพาณิชย์ไร้สาขามีทั้งรายที่ประสบความสำเร็จและรายที่ต้องล่าถอยออกไปจากตลาด รวมทั้งรายที่ต้องควบรวมกับรายอื่นที่อยู่ในตลาด ผู้อยู่รอดส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นรายใหญ่เดิมที่ทำสามารถดำเนินการขยายฐานลูกค้าให้ใหญ่ขึ้นทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น 

ในส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาถึงแม้จะมาทีหลังและอยู่ในช่วงแรกของอุตสาหกรรมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดที่มีจำนวนประชากรมากที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์

จะเห็นว่าเส้นทางในการเติบโตในอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ภารกิจในการสร้างภูมิทัศน์ใหม่ทางภาคการเงินที่สนับสนุนภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตที่ยั่งยืนจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย 

การออกใบอนุญาตประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการปฏิรูประบบการเงินไทย แต่จุดต่างเชิงนโยบายระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องการให้เพียง 3 ราย กับกระทรวงการคลังที่ต้องการผลักดันให้ทั้ง 5 รายที่ผ่านเกณฑ์ 

กลายเป็นจุดตั้งคำถามสำคัญว่า “กี่รายจึงจะเหมาะสมกับบริบทไทย?”ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังสวมหมวกคนละใบทำให้มองต่างกันในเชิงหลักการและมีคำตอบที่แตกต่างกัน 

ธนาคารแห่งประเทศไทยมีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน จึงเน้นการควบคุมความเสี่ยง พิจารณาความพร้อมของผู้ประกอบการ รวมทั้งความสามารถในการกำกับดูแล การให้ใบอนุญาตผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเพียง 3 รายตอบโจทย์ความรอบคอบ ศักยภาพในการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เสถียรภาพและความยั่งยืนของธุรกิจ การให้ใบอนุญาตผู้ประกอบการมากเกินไปอาจทำให้เกิดพฤติกรรมแข่งขันด้านราคาแบบไม่ยั่งยืน หากตลาดยังไม่ใหญ่พออาจเกิดภาวะ “แย่งลูกค้ากันเอง” มากกว่าสร้างตลาดใหม่ 

ในขณะที่กระทรวงการคลังซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเข้าถึงบริการทางการเงินมองว่าธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาคือเครื่องมือส่งเสริมนวัตกรรมและการเข้าถึงบริการทางการเงิน ควรเร่งให้เกิดการแข่งขันมากที่สุด จึงควรผลักดันการแข่งขัน เปิดโอกาสแก่ผู้เล่นใหม่ และผลักดันการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การให้ใบอนุญาตประกอบการธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาทั้ง 5 รายที่ผ่านเกณฑ์ส่วนหนึ่งอาจต้องการรองรับความไม่แน่นอนของผู้ขอใบอนุญาต หากพิจารณาให้ใบอนุญาตแค่ 3 ราย อาจมีแค่ 1-2 รายที่เปิดได้จริงตามเงื่อนไขเวลาและท้ายที่สุดอาจทำให้ ecosystem ของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาไม่เกิด 

อย่างไรก็ตามดร.ภาสกร ชี้ว่า ความเห็นต่างนี้สะท้อน "บทบาทที่ต่างกันโดยธรรมชาติ" ของทั้งสองหน่วยงาน โดยแบงก์ชาติเน้นเสถียรภาพและการกำกับดูแล ขณะที่กระทรวงการคลังเน้นการเติบโตและการเข้าถึงทางการเงิน ในประเด็นความอิสระของธนาคารกลาง 

ทั้งนี้ ดร.ภาสกรยังชวนมองไปถึงบริบทโลก โดยยกกรณีล่าสุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์การทำงานของประธานธนาคารกลางอย่างรุนแรง จนกระทบตลาด และมีการตั้งคำถามต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางอย่างกว้างขวาง เขายังอ้างอิงคำกล่าวของ เควิน วอร์ช อดีตกรรมการเฟด ที่เตือนว่าธนาคารกลางควรยึดมั่นภารกิจหลักเรื่องเสถียรภาพ ไม่ควรก้าวล้ำไปในบทบาทเชิงนโยบายอื่น เช่น การสนับสนุนเป้าหมายทางสังคมหรือการคลัง ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง และการล้ำเส้นนี้อาจย้อนกลับมาลดทอนความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางในระยะยาว 

“ประเทศไทยก็ต้องระวังไม่ให้ธนาคารกลางกลายเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายมากกว่าการเป็นผู้รักษาสมดุล”ดร.ภาสกร กล่าว 

ท้ายที่สุด ดร.ภาสกรเสนอว่า การพิจารณาใบอนุญาต Virtual Bank ต้องอาศัยข้อมูล ข้อเท็จจริง และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ โดยเคารพบทบาทและหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ความเห็นต่างระหว่างธปท.กับกระทรวงการคลังไม่ควรถูกตีความว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง แต่ควรเป็นบทสนทนานโยบายที่สร้างสมดุลระหว่างความกล้าทดลอง และความรอบคอบในการคุมความเสี่ยง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ